Tuesday, January 31, 2023

“สุชาติ” รมว.แรงงาน เผยยอดผู้ประกันตน ยื่นจองคิวขอสินเชื่อโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน กว่า 6 หมื่นราย ขณะนี้ ธอส. อนุมัติปล่อยกู้แล้ว 3,955 ล้านบาท



นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานตระหนักถึงภารกิจสำคัญกับการยกระดับคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างหลักประกันความมั่นคงให้แก่ผู้ใช้แรงงาน เพื่อสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลภายใต้การนำของ ท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ซึ่งผมพร้อมร่วมผลักดันให้บรรลุความสำเร็จทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยอีกหนึ่งโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ระหว่างสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ร่วมมือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยให้กับผู้ประกันตน มาตรา 33 ซึ่งได้ดำเนินการเปิดให้ผู้ประกันตนขอรับรหัสเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา นั้น ล่าสุด ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ปิดรับจองคิวแล้ว มียอดผู้ประกันตนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 60,937 ราย โดยผู้ประกันตนที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้วจำนวน 3,339 ราย คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3,955 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 27 ม.ค. 66) ซึ่งขณะนี้ทางธนาคารอาคารสงเคราะห์ได้ดำเนินการทยอยอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ประกันตนที่ได้จองคิวที่เหลืออยู่ตามลำดับอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม พร้อมเดินหน้าให้การสนับสนุนโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน ภายใต้กรอบวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท อย่างเต็มที่

นายสุชาติ รมว.แรงงาน กล่าวต่อไปว่า ผมมีความเชื่อมั่นว่า “โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัย เพื่อผู้ประกันตน” จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งให้กับผู้ประกันตนที่ต้องการใช้สิทธิในการไถ่ถอนจำนองที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุดจากสถาบันการเงินอื่น รวมถึงเพื่อลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในบัญชีเงินกู้ที่กู้อยู่กับ ธอส. อัตราดอกเบี้ยคงที่ ปีที่ 1-5 เท่ากับ 1.99% ต่อปี วงเงินให้กู้สูงสุดตามจำนวนเงินต้นคงเหลือไม่เกิน 2 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเหลือลดค่าใช้จ่ายให้ผู้ประกันตน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ในเรื่องของการมีบ้านหรือที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้ผู้ใช้แรงงาน ได้อย่างยั่งยืน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอีกด้วย

#Website: www.sso.go.th
#Facebook: สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
#Instagram: sso_1506
#Twitter: @sso_1506
#YouTube: สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน
#Hotline: 1506 (ตลอด 24 ชั่วโมง)
#LINE: @SSOTHAI
#TikTok: @SSONEWS1506

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/KnmiBWC
via World enews

Labels: , ,

สั่งตัดเบี้ยประชุม 2 บอร์ดตำรวจ “ก.ตร. – ก.ต.ช.” ที่ นายกฯ นั่งเป็นประธานฯ รับเดือนละหมื่น



ก.คลัง เวียนหนังสือทั่วประเทศ แจ้ง ยกเลิกเบี้ยประชุม 2 บอร์ดตำรวจชุดปัจจุบัน “ก.ตร. – ก.ต.ช.” ที่ นายกรัฐมนตรี นั่งเป็นประธานฯโดยตำแหน่ง พ่วงอนุกรรมการรับนโยบายทั้ง 2 ชุด แถม 7 อนุกรรมการใน ก.ตร. เผย อัตราเบี้ยประชุม ทั้ง 2 ชุด รับมาตั้งแต่ มี.ค. 64 เฉพาะประธานฯ รับเดือนละ 1 หมื่นบาท รองประธาน ได้ 9 พันบาท ส่วน กรรมการ ได้ เดือนละ 8 พันบาท

วันนี้ ( 31 ม.ค.2566) มีรายงานจากระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เวียนหนังสือประกาศกระทรวงการคลัง ถึงหน่วยงานราชการทั่วประเทศ

เพื่อแจ้งการ “ยกเลิก” กำหนดรายชื่อคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการที่มีสิทธได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน และอัตราเบี้ยประชุมเป็นรายเดือน และเป็นรายครั้ง สำหรับกรรมการ อนุกรรมการ เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2565 ในกรณีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

โดยเป็น คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ ที่รับเบี้ยประชุม มาตั้งแต่ครั้งแรก แต่ไม่ก่อน พ.ร.บ.ตำรวจ พ.ศ. 2565 บังคับใช้

ประกอบด้วย คำสั่งแรก ยกเลิกรายชื่อคณะอนุกรรมการฯ ได้แก่ (1) คณะอนุกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ด้านการบริหารงานตำรวจ และ (2) คณะอนุกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ ด้านกฎหมาย

คำสั่งที่สอง ยกเลิกรายชื่อคณะกรรมการฯ ได้แก่ (1) คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และ (2) คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.)

“โดยอัตราเบี้ยประชุมกรรมการ 2 ชุดนี้ ประธานจะได้เบี้ยประชุม เดือนละ 1 หมื่นบาท รองประธาน ได้ 9 พันบาท และ กรรมการ ได้ เดือนละ 8 พันบาท”

ก.ตร. และ ก.ต.ช. ปัจจุบัน มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการฯ เลขาธิการ ก.พ.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็น ก.ตร.โดยตำแหน่ง

ยังมี “กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ” ซึ่งไม่เป็นข้าราชการตำรวจ จำนวน 6 คน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ

คำสั่งต่อมา ยกเลิกรายชื่อคณะอนุกรรมการฯ 7 คณะ ได้แก่ (1) คณะอนุกรรมการ ก.ตร. เกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัย (2) คณะอนุกรรมการ ก.ตร. เกี่ยวกับการอุทรณ์

(3) คณะอนุกรรมการ ก.ตร. เกี่ยวกับการร้องทุกข์ (4) คณะอนุกรรมการ ก.ตร. เกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบ

(5) คณะอนุกรรมการ. ก.ตร. เกี่ยวกับบการส่งเสริมจริยธรรมและการพัฒนาคุณธรรม

(6) คณะอนุกรรมการ ก.ตร. เกี่ยวกับการบรหารทรัพยากรบุคคล และ (7) คณะอนุกรรมการ ก.ตร. เกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล.

ขณะที่ อัตราเบี้ยประชุมอนุกรรมการ ก.ตร. ทั้ง 7 คณะ ประธานจะได้เบี้ยประชุม เดือนละ 5 พันบาท รองประธาน ได้ 4.5 พันบาท และ กรรมการ ได้ เดือนละ 4 พันบาท”.

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/rUM2Rvh
via World enews

Labels: , ,

ครม.หนุนเปลี่ยนรถเมล์เอกชน เป็นรถโดยสารไฟฟ้า นำร่องโครงการคาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศ



โฆษกรัฐบาล เผย ครม.เห็นชอบ โครงการเปลี่ยนรถเมล์เอกชน เป็นรถโดยสารไฟฟ้า ในกทม. นำร่องโครงการคาร์บอนเครดิตระหว่างประเทศ ครั้งแรกของไทย พร้อมส่งเสริมปชช.ได้เดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะที่มีความทันสมัย ลดฝุ่น PM 2.5

วันนี้ (31ม.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี วันนี้ (31 มกราคม 2566) เห็นชอบ หนังสือการอนุญาต (Letter of Authorization: LoA) ให้ดำเนินโครงการเปลี่ยนรถโดยสารประจำทางสาธารณะของภาคเอกชนเป็นรถโดยสารประจำทางไฟฟ้า (รถร่วมบริการ) ในพื้นที่ กทม. และมอบหมายให้เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ลงนามในหนังสืออนุญาตให้แก่บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เพื่อถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตที่ได้จากการดำเนินโครงการตั้งแต่ พ.ศ. 2564 – 2573 (ค.ศ. 2021-2030) ให้แก่มูลนิธิ KLiK (The Foundation for Climate Protection and Carbon Offset) ของสมาพันธรัฐสวิส

โครงการ ฯ ดังกล่าว เป็นการริเริ่มการเปลี่ยนผ่านจากรถโดยสาร สาธารณะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นรถโดยสารสาธารณะที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ครอบคลุมเส้นทางเดินรถโดยสารไฟฟ้าที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการขนส่งประจำทางจากกรมการขนส่งทางบก โดยคาดว่าจะส่งผลให้เกิดการลดก๊าซเรือนกระจก 100 ตันคาร์บอนไดออกไซด์/คัน/ปี หรือ 500,000 ตัน คาร์บอนไดออกไซด์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564-2573 (10 ปี) ซึ่งจะส่งเสริมให้ประชาชนได้เดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะที่มีความทันสมัยปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิลต่ำ การลดฝุ่น PM 2.5 เปลี่ยนจากพลังงานฟอสซิลเป็นพลังงานสะอาด เกิดการเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางของประชาชน ซึ่งช่วยให้คุณภาพสิ่งแวดล้อมคุณภาพ ชีวิตและสุขภาพของประชาชนดีขึ้น

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามความตกลงปารีสระหว่างราชอาณาจักรไทยและสมาพันธรัฐสวิส ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือสำหรับการถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างประเทศ เปิดโอกาสให้ภาคส่วนในประเทศไทยสามารถถ่ายโอนผลการลดก๊าซเรือนกระจกระหว่างราชอาณาจักรไทยและสมาพันธรัฐสวิส ช่วยต่อยอดการดำเนินงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ให้เป็นไปตามแผนนโยบายพลังงาน และยุทธศาสตร์พลังงานแห่งชาติ รองรับการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะการปรับตัวสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ รวมถึงการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าตามนโยบาย 30@30 ซึ่งไทยกำลังขับเคลื่อนเพื่อก้าวสู่การเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของโลก

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/HGEIO8W
via World enews

Labels: , ,

“เจ๊หน่อย” จับ “อนุดิษฐ์” ใส่เสื้อ ผอ.สำนักงานปราบโกง ทสท.ประกาศสงครามปราบคอร์รัปชันให้สิ้นซาก



“สุดารัตน์” สวมเสื้อ ผอ.สำนักงานปราบโกง ไทยสร้างไทย ให้ “อนุดิษฐ์” พร้อมประกาศสงครามปราบคอร์รัปชันให้สิ้นซาก ลากคอคนโกงตัวใหญ่มาติดคุก ตั้งธง ลุยปราบ สัญญาทาส ที่ขูดเลือดขูดเนื้อคนไทย ทั้งค่าไฟ ค่าน้ำมัน ค่าก๊าซ

วันนี้ (31 ม.ค.) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เป็นตัวแทนพรรคสวมเสื้อสำนักงานปราบโกง หรือ สปก. ให้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต ส.ส.กทม อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และอดีตที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย

พร้อมกล่าวแสดงความยินดี ที่ทุกคนช่วยกันตั้งศูนย์ปราบคอร์รัปชั่น Corruption Eradication Commission หรือ CEO แห่งนี้จนสำเร็จ พร้อมชี้ให้เห็นว่า การคอร์รัปชั่นของประเทศ เริ่มจากประชาธิปไตยที่ถูกคลุมด้วยเสื้อเผด็จการ ไทยสร้างไทย จึงสร้างรัฐธรรมนูญ ที่แก้ไขให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ศูนย์ปราบโกงแห่งนี้เปิดมาในเวลาที่เหมาะสม เพราะทุกวันนี้ข่าวเกี่ยวกับการโกง การคอร์รัปชัน ปรากฏให้เห็นทุกวัน ทั้ง ทุนจีนสีเทา การรีดไถนักท่องเที่ยว หรือการทุจริตของข้าราชการและนักการเมือง

ไทยสร้างไทย จึงขอประกาศสงครามกับการคอร์รัปชั่น เป็นนโยบายของพรรค โดยเราจะลากคนโกงตัวใหญ่ มารับโทษ มาขึ้นศาลเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะการคอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย เช่น ค่าไฟฟ้า ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบ จนประชาชนต้องใช้ไฟฟ้าแพง ประชาชนต้องจ่ายเงินเพิ่ม รวมถึงค่าน้ำมัน ค่าก๊าซ ที่พี่น้องชาวไทยถูกเอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอด นอกจากนี้ จะตรวจจับการทุจริตในกองทัพโดยเฉพาะการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์

สอดคล้องกับสิ่งที่องค์กรความโปร่งใสนานาชาติให้คะแนนดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชัน (Corruption Perception Index : CPI) ประเทศไทยเพียง 33 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน ทำให้ไทยได้อันดับที่ 110 จาก 180 ประเทศ และเป็นอันดับที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ที่เราไม่เคยตกต่ำขนาดนี้มาก่อน

หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ย้ำว่า ประเทศไทยสามารถปราบโกงได้ โดยเริ่มต้นด้วยการมีผู้นำที่มีความตั้งใจจริง หรือ Political Will ที่จะมาปราบคอร์รัปชัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ประเทศไทยจะได้นายกฯได้ผู้นำที่มีความตั้งใจจริงที่จะปราบคอร์รัปชัน

พวกเรามั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าถ้านำเอายุทธศาสต์ปราบโกงของไทยสร้างไทยไปใช้และมีการเปลี่ยนกรอบความคิดให้เน้นที่การปราบคอร์รัปชันมาก่อนสิ่งอื่นใด ประเทศไทยของเราจะสามารถหลุดพ้นคอร์รัปชันที่ฝังรากลึก เป็นประเทศที่โปร่งใส ไร้คอร์รัปชันได้อย่างแน่นอน

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวขอบคุณ คุณหญิงสุดารัตน์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ที่ได้มอบโอกาสดีๆ ในชีวิตมาตลอดเส้นทางการเมือง และในครั้งนี้ได้มาเป็นสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ยังได้รับความไว้วางใจจากพรรคให้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานปราบโกง (สปก.) ต่อจากนี้จะเดินหน้าสานต่ออุดมการณ์ 3 เรื่อง คือ รณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน, ทำให้คนไทยกินดีอยู่ดีตั้งแต่เกิดจนแก่ และปราบการคอร์รัปชัน

“ทั้งหมดคงเกิดขึ้นไม่ได้ หากผมไม่มี ‘ทีมที่ดี-คนที่ใช่-พรรคที่มีอุดมการณ์และเจตจำนงเดียวกันกับผม’ ผมโชคดีที่มีเพื่อนรัก มีทั้งผู้มีพระคุณทางการเมือง มีทั้งอดีตผู้แทนหลายท่านที่มีจุดยืนเดียวกันกับผม ผมยังมีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่มีความรู้ความสามารถ และยังมีผู้ที่มีหัวใจรักประชาธิปไตยที่กำลังทำงานอย่างหนักเพื่อขับเคลื่อนพรรคไทยสร้างไทย อยู่ทั่วประเทศ ให้ไปสู่จุดหมายเดียวกันนั่นคือได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน มีสวัสดิการที่ดีดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ และภารกิจที่ยากที่สุดคือเป็น ผอ.สำนักงานปราบโกง ผมไม่ได้มาเล่นๆ ครับ” น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว

ในฐานะ ผอ.สปก.ได้รวบรวมข้อมูลและหลักฐานทั้งหมดประกอบด้วย 10 เรื่องมาทำต่อ ได้แก่ ค่าไฟฟ้าที่แพงและเกิดจากสัญญาที่อยุติธรรม, เรื่องทุจริตในกองทัพและการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ต่างๆ จนมีคำซุบซิบว่าเรามีกองทัพมีไว้รับใช้การเมืองหรือไม่ หรือมีกองทัพไว้ผลาญเงินหรือไม่ ตัวเองจะร่วมกับผู้มีอุดมการณ์เดียวกันเป็นทหารฝ่ายประชาธิปไตย มาร่วมกันเดินหน้าทำให้กองทัพเป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชน เป็นกองทัพที่ใสสะอาด ปราศจากคอรัปชั่น เป็นกองทัพที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างแท้จริง

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ ในฐานะผู้ก่อตั้งและประธานที่ปรึกษา สปก. กล่าวว่า เมื่อ 8 ปีก่อน คสช.ยึดอำนาจ เราคิดว่าจะมีการปราบโกงอย่างจริงจัง แต่ความจริงลำดับความโปร่งใสในประเทศกลับเตี้ยลงๆ เรื่อยๆ ตัวเองเป็นนักธุรกิจเจอการคอร์รัปชั่นของข้าราชการ เก็บค่าทำเนียบ เก็บส่วย ทำให้ทำธุรกิจยากและไม่สะดวก รวมไปถึงการลงทุนจากต่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ นักลงทุนกำลังย้ายฐานการผลิตเข้ามาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แทนที่จะเป็นโอกาสของไทย

วันนี้จึงกระโดดเข้ามาในการเมือง เอาเงินงบประมาณของชาติที่ตกไประหว่างทางกลับมาพัฒนาประเทศ ลดความเหลื่อมล้ำ เป็นเหตุให้พรรคไทยสร้างไทยตั้งสำนักงานปราบโกง และจะใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาช่วยรับเรื่องร้องเรียนและติดตามผลงาน เพราะตัวเองเป็นเจ้าของธุรกิจไอทีและทำงานเรื่องความปลอดภัยมาตลอด อย่างไรก็ตาม ยังต้องการความร่วมมือ จากคนไทยทุกคนมาร่วมกันปราบโกงให้ประเทศเราพัฒนาไปไกลกว่านี้

น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการ พรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า การคอร์รัปชั่นของประเทศไทยแบ่งได้ 3 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ การทุจริตคอร์รัปชั่น กลุ่มที่สอง คือ การหาประโยชน์จากการออกใบอนุมัติ อนุญาตต่างๆ และกลุ่มที่สาม คือ การคอร์รัปชัน โดยหาประโยชน์จากปากท้องของพี่น้องประชาชน ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นต้นน้ำของการทุจริต

เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า สมัยหนึ่ง ประเทศไทย มีการทุจริตแบบบุฟเฟ่ต์คาบิเนต ต่อมาคือการทุจริตแบบฟาสต์ฟูด ซึ่งยังคงอยู่ โดยเป็นการทุจริตจากข้าราชการระดับสูง ตามต้นแบบทางการเมือง ทุกวันนี้ มีการทุจริต แบบโอมากาเสะคอร์รัปชัน ที่เสนออะไรมากินหมด

ขณะเดียวกัน เห็นว่า หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทยไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชันจากการทำงานการเมืองมากว่า 30 ปี เราจะรักษาจุดแข็งนี้ไว้ และแก้ไขปัญหาจุดอ่อนของประเทศไทย ซึ่งตลอด 8 ปี นับแต่การยึดอำนาจ ตัวเลขชี้วัด การทุจริตตกต่ำลง รวมถึงการบริหารราชการแผ่นดินก็ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องไม่สามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านได้

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อและแจ้งเบาะแสร้องเรียนการทุจริตคอร์รัปชัน ผ่านระบบปกป้องและป้องกันผู้แจ้งเบาะแสผ่านเบอร์ 090-980-9888 หรือไลน์ @CEO227 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ‘สำนักงานปราบโกง พรรคไทยสร้างไทย’

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/RvHXZAf
via World enews

Labels: , ,

Champion US freestyle skier Kyle Smaine dies in avalanche in Japan

Labels: , ,

Monday, January 30, 2023

Early onset dementia: Scientists reveal how to spot signs, nine years before diagnosis

Labels: , ,

King ‘asks Archbishop to help strike deal with Prince Harry over coronation’

Labels: , ,

ประจบสอพลอเด็ก?



เอาแล้วไง..

ในขณะที่คุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ บอก “จะไม่ตอบโต้ หรือเปิดประเด็นสวนกันไปมาอย่างแน่นอน”

แต่ดูเหมือนคุณอดิศร เพียงเกษ สมาชิกพรรคเพื่อไทยจะไม่ได้สนใจ และไม่ได้ครั่นคร้ามใดๆ กับคำขู่ของคุณตู่ จตุพร พรหมพันธุ์..

“วันนี้ ใครวางแผนที่จะมาตอบโต้ตนนั้น ให้ลองนึกกันช้าๆ ว่ามีตรงไหนไม่เป็นความจริงบ้าง ขณะเดียวกันตนขอสงวนสิทธิ์ตอบโต้ทุกกรณี และจะหนักมากกว่านี้อีก”

เพราะวันก่อนเขาได้แสดงความกล้าตอบโต้คุณตู่เข้าให้แล้วก่อนใคร ด้วยสำนวน.. “ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับฐานเสียงพรรคเพื่อไทยที่เป็นคนเสื้อแดง นายจตุพรพูดไม่ได้เกิดผลกระทบอะไร

นายกฯ ทักษิณไม่ได้เป็นอย่างที่นายจตุพรพูด หากเปรียบเทียบก็เหมือนกับสุนัขฉี่รดภูเขาทอง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่ได้กระทบกระเทือนอะไร ไม่ได้รู้สึกอะไร เพียงแต่จะเหม็นฉี่บ้างก็เท่านั้น

เรื่องนี้ก็ชี้ให้เห็นว่า นิ้วไหนที่มันเน่าก็ควรต้องตัดทิ้งไป”

นี่..ก็ไม่รู้คุณอดิศรจะบอกว่าคุณตู่ จตุพรน่ะ เป็น “นิ้วเน่า” ที่นายทักษิณได้ตัดทิ้งไป (นาน) แล้ว หรือกำลังจะบอกนายเหนือหัวว่าควรต้องตัดนิ้วที่เน่านี้ทิ้งไปเสีย!

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร สรุปได้ว่าในสายตาคุณอดิศรมองคุณตู่ จตุพร เกลอเก่า-สหายรัก เป็นแค่ “นิ้วเน่า” ของนายทักษิณ ซ้ำยังเป็นสุนัขที่แค่ฉี่รดภูเขาทอง

ก็..ยังดีที่คุณอดิศรให้เป็นแค่ “นิ้วเน่า” ยังไม่ถึงกับเทียบเป็น “หมาหัวเน่า” แต่ถึงจะแค่นิ้ว คุณจตุพรก็ไม่ปล่อยให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง..

“อายุปูนนี้แล้ว 70 ปียังประจบสอพลอ ควรอับอายขายขี้หน้าหรือไม่ คุณเอาอะไรมาสั่งสอนผม ถ้าคุณมีศักดิ์ศรีพอจะหนีไปลาว ไปกัมพูชาหรือ

เป็นพวกขี้ขลาดตาขาว ไปร้องเพลงเดือนเพ็ญ ทิ้งหมู่มิตรให้เดือดร้อนในประเทศ” นี่แค่เบาๆ นะ!

อ้อ..แต่ที่คุณอดิศรพูดหาเสียงบนเวที.. “ไม่มีนายกฯ คนใดที่คนเกลียดเท่าประยุทธ์ จันทร์โอชา ประเทศหยุดอยู่เมื่อมีรัฐประหาร..” น่ะ

คุณอดิศรไปมุดอยู่รูไหน หรือเข้าใจผิดคิดไปว่าฝูงชน กปปส.-มวลมหาประชาชนนับล้านที่ออกมาเดินทั่วทุกถนนทั้งในกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัดในครั้งกระนู้น..

รักและศรัทธาในตัวนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กระนั้นหรือ?

คนเค้าเกลียดทั้งอดีตนายกฯ ทักษิณ ทั้งอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ครับ รู้ใส่กะโหลกไว้ และถึงวันนี้ความเกลียดนั้นก็ยังไม่ได้จางหายไปจากใจของคนที่เขารักแผ่นดิน รักสถาบัน!

เป็นความจริงที่คุณอดิศรกล่าว.. ไม่มีนายกฯ คนใดที่คนเกลียดเท่าประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว ทั้งทักษิณ-ทั้งยิ่งลักษณ์คนเกลียดมากกว่าประยุทธ์หลายเท่านัก!

ประเทศหยุดเมื่อมีรัฐประหาร หรือประเทศฉิบหายเมื่อมีการลักหลับออกกฎหมายนิรโทษสุดซอย พ่วงโกงข้าวกันแน่ หือ?

ขยี้ตาแล้วดูให้ชัด ตั้งแต่ยุครัฐบาล คสช. มาถึงรัฐบาลประชาธิปไตย-พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ประเทศหยุดชะงัก หรือว่าประเทศกำลังพัฒนาเจริญเติบโตก้าวหน้าไปไม่หยุดยั้ง?

แต่ถ้าตาพร่ามัวจนมองชั่ว-ดีไม่เห็นแล้วก็น่าเวทนา และเห็นจะต้องปล่อยเลยตามใจ คุณอดิศรจะมอง..

“คนจะมาเป็นนายกฯ ได้คือ อุ๊งอิ๊ง นอกจากได้นายกฯ แล้วยังแถมลูกในท้องด้วย” ผมก็ไม่ว่าอะไร เพราะเห็นจริงตามคุณจตุพรที่บอกว่า..

อายุ 70 แล้ว ยังจะประจบสอพลอเด็กอยู่เลย!.

 

สันต์ สะตอแมน

The post ประจบสอพลอเด็ก? appeared first on .

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/FY70WG8
via World enews

Labels: , ,

โหมโรงลิเกการเมือง



อย่ากะพริบตา…

เมื่อคืนวันเสาร์ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ  กฎหมายสำคัญ ๒ ฉบับคือ 

พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖

และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๖

การเมืองหลังจากนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะทุกสถานการณ์สุกงอมพอที่จะมีการยุบสภา นำไปสู่การเลือกตั้งก่อนไทม์ไลน์ที่ กกต.กำหนดไว้ คือวันที่ ๗ พฤษภาคม

แต่…คนที่มีอำนาจยุบสภา คือ “ลุงตู่” ยืนยันว่า “ยังหรอก ให้เวลา กกต.ทำงานไปก่อน”

ถอดความแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยุบ หรือไม่ยุบสภา

รัฐบาลอาจอยู่ต่อจนครบวาระก็ได้

หรือไม่เตรียมตัวกันดีๆ กลางเดือนหน้า อาจไม่มีการอภิปราย ตามมาตรา ๑๕๒ เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติก็ได้

ชิงยุบสภาเสียก่อน

เพราะฝ่ายค้านจะใช้เวทีนี้ล่อเป้า

วันนี้ให้การบ้าน “ลุงตู่” มาเรียบร้อย

ที่ว่าโดนแน่ๆ คือประเด็น “หลานชายลุงตู่” กับ “ทุนจีนสีเทา”

แต่ว่ากันตรงๆ ประเด็นทุนจีนสีเทา น่าจะพันไปถึงหลายพรรคการเมือง รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านอย่างเพื่อไทยด้วย

พลังประชารัฐแน่นอนว่าโดนเต็มๆ

แต่รวมไทยสร้างชาติจะโดนหรือไม่ ยังเป็นปริศนา เพราะตัวละครหลักเกี่ยวพันกับพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทยมากกว่า

ยิ่งได้ฟัง “เสวนาประสาไตรรงค์” ก็ดูเหมือนรวมไทยสร้างชาติมีอะไรอยู่ในมือเหมือนกัน

“…เงินสีเทาคือ เงินผิดกฎหมายจากธุรกิจผิดกฎหมาย เช่น การรับแทงบอลออนไลน์ เปิดบ่อนการพนันเถื่อน ธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อน ส่วนสีดำคือ ธุรกิจยาเสพติด  การขายยาเสพติดคือการฆ่าคน ทำลายครอบครัว และการเลือกตั้งครั้งต่อไปนี้จะใช้เงินพวกนี้มาซื้อเสียง งวดนี้จะมากที่สุด

ขบวนการตู้ห่าวใหญ่โตมาก แล้วส่งเงินไปกี่พรรคที่ได้ผลประโยชน์จากตู้ห่าว ไปดูสิมันสร้างบ้านมาขายหลังหนึ่งกี่ร้อยล้าน รวมทั้งหมด ๕-๖ พันล้าน ไปดูสิเงินเข้าพรรคไหน มันรู้กัน เป็นการฟอกเงินเท่านั้นเอง แล้วใครเป็นเจ้าของหมู่บ้านนั้น เงินเข้าพรรคไหน พี่น้องที่ติดตามรู้เลยว่าเข้าพรรคไหน แล้วเขาจะใช้เงินพวกนั้นมาซื้อประชาชนทั้งประเทศ

ถ้าเราปล่อยให้มีการซื้อเสียงโดยเงินสีเทา สีดำ บ้านเมืองจะเหลืออะไร แล้วผมถามจะมีประชาธิปไตยไปหาสวรรค์วิมานอะไร มีประชาธิปไตยแบบนี้เท่ากับเปิดให้คนชั่วครองเมืองใช่หรือไม่ คนดีไม่มีทางเลย เพราะคนดีไม่มีเงินอุบาทว์ ไม่มีเงินสีเทา สีดำ…”

เมื่อออกมาจากปาก “ไตรรงค์ สุวรรณคีรี” ก็การันตีระดับหนึ่งว่า ไม่มีใครในรวมไทยสร้างชาติเกี่ยวข้องกับ ทุนจีนสีเทา

แต่ถ้ามี ความน่าเชื่อถือจะลดลงไปมากทีเดียว

ก็เอาเป็นว่าข้อมูลฝ่ายค้านโดยเฉพาะจากพรรคก้าวไกลจะลึกแค่ไหน “ลุงตู่” จะกระเทือนหรือเปล่า จะกระทบกับการเลือกตั้งหรือไม่ ไม่ทราบได้

แต่ในทางการเมืองการถูกขึงพืดในสภาแล้วตอบไม่ได้  ขณะที่เหลือเวลาไม่นานก็จะถึงวันเลือกตั้ง กระเทือนแน่นอน

ดูจากรัฐบาลที่ยุบสภาหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ  ล้วนกลับมาไม่ได้ทั้งนั้น

ตัดการอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไป แค่ยุบสภา รัฐบาลเก่าก็ยากที่จะกลับมาแล้ว

ชวน หลีกภัย ยุบสภา ปี ๒๕๓๘

เลือกตั้งใหม่ บรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี

บรรหาร ศิลปอาชา ยุบสภา ปี ๒๕๓๙

เลือกตั้งใหม่ ได้นายกฯ คนใหม่ชื่อ พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ

ชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ อีกครั้งแล้ว ยุบสภา ปี  ๒๕๔๓

เลือกตั้งใหม่ ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา ปี ๒๕๕๔

เลือกตั้งใหม่ ได้นายกฯ หญิงชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

นี่คือสถิติเอาไว้ดูเป็นแนวทาง

ภายใต้กติกาเลือกตั้งใหม่ บัตร ๒ ใบ เลือก ส.ส.ใบ เลือกพรรคใบ หาร ๑๐๐ ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ก็ยิ่งยากที่ “ลุงตู่” จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง

เฉลี่ย ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ๑ คน ต้องได้คะแนนพรรคร่วมๆ ๓.๕ แสน คะแนน

เทียบตัวเลขคร่าวๆ การเลือกตั้งปี ๒๕๖๒ พรรคที่ได้คะแนนเกิน ๓ แสนคะแนน มีแค่ ๕ พรรคเท่านั้น

เพื่อไทย

พลังประชารัฐ

อนาคตใหม่

ประชาธิปัตย์

ภูมิใจไทย

เห็นหรือยังครับว่าพรรคขนาดเล็ก และพรรคเกิดใหม่ ต้องทำงานหนักกันแค่ไหน ถึงจะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ๑ ที่นั่ง

นี่คือคำตอบว่าทำไมหลายพรรคจึงพยายามรวมตัวกัน สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง ขึ้นกับเงื่อนไขที่แต่ละพรรคกำหนด

สูตรเลือกตั้งนี้พรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ และภูมิใจไทย จะได้ประโยชน์มากที่สุด ฉะนั้นเมื่อย้อนกลับไปช่วงแก้ไขรัฐธรรมนูญ “ลุงตู่” คิดอะไรอยู่

เพราะการมาทำพรรคการเมืองใหม่ ภายใต้กติกานี้  “คนดี” ถูกมองข้ามไปได้ง่ายๆ เช่นกัน

ครับ…อีกด้านหนึ่งก็เริ่มชัดขึ้น

วานนี้ (๒๙ มกราคม) การปราศรัยหาเสียงเริ่มมีอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นบ้างแล้ว 

ฟัง “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ไปพูดที่ บ้านโป่ง ราชบุรี ฟังแล้ว ข่าวลือกำลังจะกลายเป็นเรื่องจริง

“…วันนี้พี่น้องเสื้อแดงก็มาอยู่ที่นี่ พี่น้องที่อาจจะไม่เคยเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็มาอยู่ที่นี่ พี่น้องที่เคยคิดต่างทางการเมืองก็มาอยู่ที่นี่

พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคของคนทุกคน เป็นพรรคของประชาชนทุกคน

ไม่ว่าคุณจะเคยเชื่อทางการเมืองแบบไหน ถ้าวันนี้เชื่อตรงกันว่าประเทศไทยจะต้องรอดไปต่อได้ ต้องให้พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลที่มีความสามารถเข้ามาทำงาน

เลือกเพื่อไทยได้ทุกคนทุกฝ่าย…”

หมายความว่าอะไร?     

ฐานเสียงของพรรคการเมืองอื่นไปอยู่กับเพื่อไทยหมดแล้วหรือ

หรือว่าเลือกเพื่อไทย เท่ากับได้พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย

หรือเพื่อไทยพร้อมจะจับมือกับทุกพรรคการเมืองตั้งรัฐบาล

ลิเกการเมืองโหมโรงแล้ว.

The post โหมโรงลิเกการเมือง appeared first on .

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/PRMkKUB
via World enews

Labels: , ,

“ลุงไพโรจน์” ร่วม “ยืนหยุดขัง” เสียชีวิต “เจ๊จุก คลองสาม” ถามความรับผิดชอบแกนนำ



“อานนท์” แจ้ง “ลุงไพโรจน์” เสียชีวิต ขณะร่วม “ยืนหยุดขัง” “เจ๊จุก คลองสาม” ถามความรับผิดชอบแกนนำ  “อดีตบิ๊กข่าวกรอง” เตือน อดข้าวประท้วงยึดทางสายกลาง อย่าสุดโต่ง
 
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(29 ม.ค.66) นายอานนท์ นำภา ผู้ต้องหาคดี 112 โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า

“ลุงไพโรจน์ ออกมาเดินปล่อยนักโทษการเมือง จากรัชโยธิน-ศาลอาญาวันนี้ ระหว่างที่ทนายเข้าไปยื่นประกัน ลุงหมดสติ ล้มลง และเสียชีวิตแล้ว”

ทั้งนี้ มีรายงานว่า “ลุงไพโรจน์” หรือ นายไพโรจน์ โชติศรีพันธ์พร ร่วมขบวนเดินเท้าจากรัชโยธินถึงศาลอาญา เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้นักโทษการเมือง โดยแกนนำผู้ชุมนุมคือ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน

โดยผู้อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่า เกิดอาการเป็นลม หมดสติ ล้มศีรษะฟาดพื้นหน้าศาลอาญา โดยมีความพยายามปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งส่งโรงพยาบาล

อย่างไรก็ตาม ผู้เห็นเหตุการณ์อีกรายเล่าว่า หลังจบกิจกรรมนายไพโรจน์มานั่งพักที่ป้ายรถเมล์หน้าศาลอาญา โดยสังเกตเห็นว่าค่อยๆ ก้มศีรษะลงและทิ้งตัวลงกับพื้น จึงคิดว่านั่งหลับ อย่างไรก็ตาม จากนั้นนายไพโรจน์ไม่รู้สึกตัว ซึ่งได้มีการทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้ว แต่ยังไม่รู้สึกตัวอีก จึงพาขึ้นรถไปส่งที่ รพ.ราชวิถี ก่อนพบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยทาง รพ.ได้ติดต่อทางญาติแล้ว

ด้านทวิตเตอร์ เจ๊จุก คลองสาม ได้ทวิตข้อความถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ถ้าแกนนำม็อบพาคนไปตาย คิดว่ามันจะรับผิดชอบไหมคะ? ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ

ภาพ นายนันทิวัฒน์ สามารถ จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายนันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และอดีตรองผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเรื่อง “ใจอย่ามืดบอด” ระบุว่า

“เห็นข่าวน้องอดข้าวประท้วงแล้วไม่สบายใจ อยากเตือนสติ อย่าอดข้าวเลย กองเชียร์ก็อย่ายืนหยุดขัง เสียเวลา ยืนให้ตายก็ปล่อยตัวไม่ได้ กระบวนการยุติธรรมมีช่องทางมีกลไกในการทำงาน ศาลของไทยใจดี ยึดมั่นในเรื่องการปล่อยตัวคนผิดสิบคนดีกว่าลงโทษคนถูกหนึ่งคน จนชาวบ้านบ่นกันเซ็งแซ่ว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยอ่อนแอ ศาลไม่ได้ห้ามการประกันตัว ใช้สิทธิประกันตัวก็จบเรื่อง แต่ต้องทำตามเงื่อนไขของศาล อย่าขอถอนประกันตัวเองอย่างที่เกิดขึ้น

“ทุกปัญหามีทางออก อย่าประชดชีวิตและสังคมด้วย การเอาหัวไปชนฝา มีแต่เจ็บตัวและเดือดร้อน ยึดทางสายกลางอย่าสุดโต่ง ความสุดโต่งไม่ใช่หนทางแห่งความสำเร็จ ใจมืดบอดเสียแล้ว แสงสว่างใดๆก็ไม่เห็น”

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การเสียชีวิตของ “ลุงไพโรจน์” จะถูกนำมาขยายผลเคลื่อนไหวทางการเมือง ผสมโรงกรณี “ตะวัน-แบม” อดอาหาร-น้ำ ประท้วง ปล่อยนักโทษการเมือง ยุติการดำเนินคดีกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง และพรรคการเมืองทุกพรรคต้องมีนโยบายยกเลิก ม.112 และ 116 หรือไม่

โดยเฉพาะประเด็น ต้นเหตุของปัญหาที่ทำให้คนออกมาประท้วงจนเสียชีวิต!

ขณะเดียวกัน สิ่งที่เริ่มเห็นชัดก็คือ การรุกคืบทางการเมืองของบางพรรค ที่เดินเกม “คู่ขนาน” กับการประท้วงของ “ตะวัน-แบม” ซึ่งมีนโยบายแก้ไข ม.112 รองรับเอาไว้แล้ว

โดยเฉพาะแนวทางแก้ไขม.112 ที่แง้มออกมา เห็นได้ชัดว่า ไม่เพียงทำให้ผู้ละเมิดกฎหมายไม่เกรงกลัว(โทษเบา) ยังอาจทำให้การละเมิด ที่มีเหตุผลโดยสุจริตเพื่อประโยชน์สาธารณะ รอดพ้นความผิดอีกด้วย

จึงถือว่า สอดคล้องกับความต้องการของเยาวชนคนรุ่นใหม่ หรือ “3 นิ้ว” แม้ว่า ยังไม่สามารถตอบสนองได้ถึงขั้นยกเลิกก็ตาม

คำถาม คือ การเสียชีวิตของ “ลุงไพโรจน์” และการประท้วงของ “ตะวัน-แบม” ถ้าถูกนำมาขยายผลทางการเมือง ใครได้ประโยชน์ และเข้าทางใครมากที่สุด นี่คือประเด็น

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/ViwJMPF
via World enews

Labels: , ,

Sunday, January 29, 2023

Shakira shares message after Gerard Pique goes official with new girlfriend




Shakira appears to have made another jab at ex-partner Gerard Piqué, just days after the footballer went Instagram official with 23-year-old Clara Chia Marti.

The former professional footballer shared an intimate selfie with Marti on his social media account on Wednesday (25 January), seven months after splitting from Shakira.

The uncaptioned post, which is Piqué’s first of Marti on his page, comes just weeks after Shakira released her new song and breakup anthem, “BZRP Music Session #53”.

Piqué, 35, and Shakira, 45, announced their separation in June 2022 after more than a decade together. They share two children, Sasha and Milan.

In the diss track, produced with Argentinian DJ Bizarrap, Shakira sang: “The lyrics include the lines: “I’m worth two of 22 / You traded a Ferrari for a Twingo / You traded a Rolex for a Casino.”

Days later, Piqué was filmed arriving to work driving a Renault Twingo, in what appears to be a deliberate response to Shakira’s song.

The Spanish athlete then went public with Marti, who is reportedly employed by Piqué’s events company Kosmos, after the split was announced.

On Friday (27 January), in what appears to be her latest response to the breakup, Shakira posted a video of her dancing to a remix of her breakup anthem, captioned: “Women don’t cry anymore, they dance merengue!”

Merengue is a type of music and dance originating in the Dominican Republic, which has become a popular genre throughout Latin America.

In the comments, Shakira’s fans and followers offered words of support, with many speculating that the post was an indirect response to Piqué’s recent Instagram post with Marti.

“Brazil is with you Shakira!!!,” wrote one person, adding: “Who is Clara [sic].”

In another supportive message, a fan wrote: “Shakira live your life and do not allow sadness and pain to continue dragging you to the already irreversible; rather move forward with your successes and building a stronger future full of joys

One person criticised the musician: “Is this what you want your kids to see when they grow up? 🙁 is completely unnecessary these kinds of direct hints”.

Others, however, echoed Shakira’s message: “Women don’t cry anymore, women reinvent ourselves, we grow up”.

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/hXr0yiv
via World enews

Labels: , ,

What happened to Madison Brooks?

Labels: , ,

เครื่องบินทหารอินเดียตก 2 ลำ นักบินเสียชีวิต 1 ราย



เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 28 มกราคม 2566 กล่าวว่า เกิดเหตุเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศอินเดีย 2 ลำชนกันกลางอากาศระหว่างการฝึกซ้อมและร่วงตกกระแทกพื้นดิน ทำให้นักบินเสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บอีก 2 คน

เครื่องบินทั้ง 2 ลำ ลำหนึ่งเป็นเครื่องบินทหารที่ผลิตในรัสเซีย (Sukhoi Su-30) และมีนักบิน 2 นาย อีกลำหนึ่งเป็นเครื่องบินที่ผลิตในฝรั่งเศส (Mirage 2000) และมีนักบิน 1 นาย ประสบเหตุพุ่งชนกันก่อนเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (11.30 น. ตามเวลาประเทศไทย) ขณะฝึกซ้อมทางตอนใต้ของกรุงนิวเดลี โดยเครื่องบินทั้งสองลำบินขึ้นจากฐานทัพอากาศกวาลิเออร์ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ประสบเหตุราว 50 กิโลเมตร

กองทัพอากาศอินเดียระบุในถ้อยแถลง กล่าวว่า “เครื่องบินทั้ง 2 ลำประสบอุบัติเหตุชนกันขณะปฏิบัติภารกิจฝึกบินตามปกติ” และเสริมว่า นักบินได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นายและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ขณะที่อีก 2 นายอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ในระหว่างดำเนินการสืบสวน

เครื่องบินลำแรกตกกระแทกพื้นในป่าปาฮัดการห์ของรัฐมัธยประเทศ ห่างจากกรุงนิวเดลีไปทางใต้ราว 300 กิโลเมตร ส่วนเครื่องบินอีกลำตกห่างออกไปในรัฐราชสถาน

การตกครั้งนี้ถือเป็นอุบัติเหตุครั้งล่าสุดของเครื่องบินทหารในช่วงเวลาที่รัฐบาลอินเดียพยายามปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยและรับมือกับความท้าทายด้านความปลอดภัยที่ซับซ้อนมากขึ้น.

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/9Fwbd0M
via World enews

Labels: , ,

เอ๊ะยังไง!? “เจี๊ยบ” แชร์คลิป “ทักษิณ” ต้มเสื้อแดง “เต้น” โยนผิด “ตู่” ปมแกนนำ นปช. แตก “วันชัย” ฟันธง “พท.” ชวด “นายกฯ”



แตกสะบั้น? “เจี๊ยบ” แชร์คลิป “ทักษิณ” ต้มเสื้อแดงจนเปื่อย “เต้น-ณัฐวุฒิ” โดดป้อง “นายใหญ่” โยนผิด “ตู่-จตุพร” ตั้งพรรคเพื่อชาติ ต้นเหตุแกนนำ นปช.ขัดแย้ง “วันชัย” ฟันธง “พท.” แลนด์สไลด์ ก็ชวดนายกฯ แนะอดเปรี้ยวไว้กินหวาน

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(28 ม.ค.66) กลายเป็นกระแสร้อน จากกรณี 3 วันที่แล้ว เพจเฟซบุ๊ก Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ของนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แชร์คลิปวิดีโอรวบรวมคำพูด ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่วิดีโอลิงค์จากต่างประเทศ ปลุกระดมคนเสื้อแดงเข้ากรุงเทพฯ เพื่อล้มรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2553 มีความยาว 1.13 นาที

ภาพ ตู่ -จตุพร กับ เต้น-ณัฐวุฒิ จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือเต้น ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) โพสต์คลิปลงในเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่อง “จุดแยกทางแกนนำนปช. ความจริงอีกมุมหนึ่ง เพื่อความครบถ้วนรอบด้าน”

โดยระบุว่า “เมื่อมีเหตุการณ์ที่แกนนำ นปช. แยกทางกันออกเป็น 2 ส่วน และการดำรงสภาพขององค์กร นปช.ไม่ได้มีอยู่จริงอีกเลยนับตั้งแต่บัดนั้น หลังจากที่คุณจตุพรในฐานะแกนนำ ออกจากคุกกลางปี 2561 เราก็มีการพบปะ ประชุมกันตามปกติ เพราะวิถีขององค์กร นปช.ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงช่วงเวลานั้น กระทั่งวันหนึ่งคุณจตุพรได้ปรารภหลังจากการประชุมเสร็จสิ้นไปแล้ว ในช่วงที่มีการสังสรรค์กันกับพี่น้องนปช.จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีผมนั่งอยู่ในนั้นด้วยว่า ได้ตกลงใจที่จะทำพรรคการเมืองหนึ่งคือพรรคเพื่อชาติ ร่วมกับนักการเมืองอีกกลุ่มหนึ่ง นำโดยนักการเมืองคนสำคัญ ซึ่งที่เป็นข่าวปรากฏว่าร่วมกันก่อตั้งพรรคการเมืองกับคุณจตุพร นั่นเอง”

“ผมนั่งฟังจนจบแล้วก็ทักท้วงขึ้นมาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก สำหรับขบวนการของเราที่เดินกันมา เพราะเราไม่เคยคุยกันอย่างจริงจังว่าเราจะตั้งพรรคการเมือง ผมจึงเสนอไปว่าเรื่องนี้ควรต้องนำเข้าที่ประชุมแกนนำนปช. ถ้าหากไปตกลงกันไว้ก่อน มันไม่ใช่วิถีทางที่เรายึดถือ ปฏิบัติร่วมกันมา บรรยากาศตอนนั้นก็เริ่มกลายเป็นความเห็นไม่ตรงกัน ผมมีเซ้นส์ว่าภารกิจนั้นจะเดินต่อไปด้วยความลำบาก และถึงที่สุดคงไม่ประสบความสำเร็จ จังหวะหนึ่งผมเดินไปเข้าห้องน้ำ พราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ ก็เดินตามไป ผมบอกพราห์มณ์ว่าเป็นห่วงใยอย่างยิ่งในเรื่องที่เราคุยกัน และเรื่องนี้จะมีการต้มกันครั้งยิ่งใหญ่ ความหมายของผมในตอนนั้นคือระวังกลุ่มที่มาชวนคุณจตุพรนั่นแหละ จะต้มกันและภายหลังก็ทราบว่าการดำเนินการของพรรคการเมืองนี้มีความขัดแย้งกันอย่างสูง ตั้งแต่ส่งรายชื่อผู้สมัคร ซึ่งเหตุผลข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างไรผมไม่ก้าวล่วง หลังจากนั้นผมก็เสนอไป2-3ครั้งในไลน์กลุ่มของแกนนำนปช.ว่าเรื่องนี้ต้องนำเข้าที่ประชุมแกนนำนปช. ซึ่งอาจารย์ธิดาก็เห็นตรงกันว่าต้องพิจารณาเรื่องนี้ในที่ประชุมตามวิถีของเรา แต่ข้อเสนอไม่ได้รับการตอบสนอง ไม่มีการประชุมนัดหมายแกนนำนปช.อีกเลย ขณะที่วาระของพรรคเพื่อชาติก็ยังเดินทางต่อไป”

“เรื่องของพรรคเพื่อชาติ ผมได้ติดต่อไปยังนายกฯทักษิณ ว่าท่านมีแนวทางให้ทำพรรคเพื่อชาติหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่มีแนวทางดังกล่าวแต่อย่างใด ซึ่งอยากตรวจสอบ เราไม่ได้ไปด้วยกับพรรคเพื่อชาติ เพราะไม่ได้มีการหารือกันตั้งแต่ต้น เวลานั้นยังไม่มีเรื่องพรรคไทยรักษาชาติ…ซึ่งเราเข้าไปเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติในภายหลัง โดยการพูดคุยกันได้ข้อสรุปรวมกัน ดังนั้นจุดแยกที่สำคัญขององค์กร นปช.จึงอยู่ที่กระบวนการในการทำงานซึ่งเราไม่ได้รักษาวิถีแห่งเรา ไม่ได้บอกกล่าว ไม่ได้ประชุมใด ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจครั้งสำคัญ

ภาพ ตู่-เต้น ในอดีตสมัยเป็น แกนนำ นปช. จากแฟ้ม
นี่เป็นข้อเท็จจริงยังผลให้องค์กรนำของนปช. ไม่คงสภาพอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งเรื่องราวก็ผ่านมาหลายปี ผมไม่มีเจตนาจะหาคนถูกคนผิดในเรื่องนี้ แต่เหตุผลของผมก็คือความจริงมันต้องถูกบันทึก และนำเสนอ ผมกับพี่น้องแกนนำนปช.ที่เรายังทำงานการเมืองร่วมกัน เราก็รักษาแนวปฏบัติเดิม คือมีอะไรเราก็ต้องหารือร่วมกัน เราเห็นว่าเหตุการณ์ที่เป็นจุดแยกขอแกนนำนปช.เป็นเรื่องสำคัญต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ให้ครบถ้วนรอบด้าน”

ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน และ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า “ในช่วงที่ติดคุกนั้น มีคนทักษิณไปเยี่ยมตลอด และพูดให้มาช่วยพรรคการเมืองหาเสียงเลือกตั้งปี 2562 เพื่อเอาคะแนนไปเติมให้กับฝ่ายประชาธิปไตย ตนบอกให้ทักษิณการันตีจึงจะไป เมื่อออกจากคุกทักษิณก็โทรศัพท์มาการันตี ขณะเดียวกันก็เอา นปช.อีกส่วนหนึ่งไปอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งไปคนละทาง แล้วต้องมาโกรธกันจริงจังเลยในตอนนี้ ส่วนคนที่เดินเกมที่เป็นคนของทักษิณ ก็เอาลูกไปอยู่ไทยรักษาชาติ แล้วตัวเองมาอยู่เพื่อชาติที่ชวนผมไปช่วยหาเสียง ขณะเดียวกันก็ดึงคนที่อยู่เพื่อไทยไปอยู่ไทยรักษาชาติ คนหนึ่งถูกหลอกมาเป็นแคนดิเดทนายกฯ ส่วนเพื่อไทยเสนอคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นแคนดิเดตนายกฯ โดยที่ไม่บอกว่า ไทยรักษาชาติจะเสนอใครเป็นแคนดิเดทนายกฯ”

“เมื่อไทยรักษาชาติถูกยุบ จึงรู้ว่าถูกหลอกแล้ว แต่ดิ้นไม่ออกต้องบากหน้าเดินหาเสียงให้เพื่อชาติไปจนจบ แล้วประกาศเลิกลากันไป ทั้งที่เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ ครอบครัวเดือดร้อนสาหัส ยิ่งกว่านั้น ขบวนการเสื้อแดงถูกเกมทักษิณแยกสลาย และก็ทำได้ด้วย ที่สำคัญมีบาดแผลยากเยียวยา แล้วต้องแยกกันตลอดกาล เราพยายามเจอกันบ้างเวลาขึ้นศาลมีคดี”

ภาพ นายวันชัย สอนศิริ จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ทนายวันชัย สอนศิริ ระบุว่า

“ถึงแลนด์สไลด์ก็ไม่ได้เป็นนายกฯ

เคยพูดแล้วว่าเพื่อไทยแลนด์สไลด์แล้วไง…ให้ได้ถึง 250 เสียงก็ยังเป็นรัฐบาลไม่ได้ บวกกับก้าวไกลให้อีก 50 กว่าเสียงก็ยังไม่ถึง 376 เสียง ยังไงๆก็ยังเป็นรัฐบาลไม่ได้อยู่ดี จะเอามวลชนมากดดัน ชุมนุมประท้วง ชูอุ๊งอิ๊ง ชูทักษิณ ชูเศรษฐามาเป็นหัวหอกจะไหวมั้ยในสถานการณ์อย่างนั้น จะปลุกคนเสื้อแดง ปลุกคนรักทักษิณมาเขย่าเพื่อจะตั้งรัฐบาลให้ได้ คนจะเอาด้วยหรือเปล่า ตอนเลือกตั้งกับตอนเป็นรัฐบาลมันต่างกันนะ ตอนหย่อนบัตรอำนาจเป็นของประชาชน ตอนเป็นนายกเป็นรัฐบาลอำนาจมันอยู่ที่มือของส.ส. ส.ว. จะมาเย้วๆไชโยโห่ร้องเหมือนตอนปราศรัยหาเสียงคงไม่ได้ และจะมาตะโกนแลนสไลด์ๆ ในรัฐสภาก็คงไม่ได้เช่นกัน ยิ่งบอกว่าจะให้อุ๊งอิ๊งเป็นคนประกาศว่าทักษิณจะกลับบ้านเมื่อไหร่และจะเป็นคนนำทักษิณกลับบ้าน ผมว่ายิ่งไปกันใหญ่ ทั้งทักษิณและสายสิญจน์ก็จะมาพร้อมๆกันในสถานการณ์นั้น ยิ่งใจเร็วด่วนได้จะพากันแลนด์สไลด์ตกนรกหมกไหม้กันไปเปล่าๆ

ผมเชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลเดิมยังแตะมือกันไว้ ถ้าเลือกตั้งแล้วรวมเสียงกันได้เกินกึ่งหนึ่งของส.ส. พลเอกประยุทธ์ก็อาจจะนอนมาเป็นนายกต่อไป แต่ดูแล้วรวมไปรวมมาไม่น่าจะถึง แตกไปพรรคโน้นพรรคนี้และเสียงของพรรคร่วมเดิมเป็นมาแล้ว 4 ปีก็ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนเก่า เอามารวมกับส.ว.อาจได้เกิน 376 ก็จริง แต่จะทนแรงเสียดทาน กระแสประชาธิปไตยทั้งในและนอกสภาได้หรือไม่ ความสับสนอลหม่านจะเกิดขึ้นหรือเปล่า เป็นอันว่าทั้งแลนด์สไลด์และใช้วิธีนี้ก็มีเรื่องได้ทั้งนั้น ทักษิณและเพื่อไทยก็ควรจะกลืนเลือดบ้าง ควรอดเปรี้ยวไว้กินหวาน อำนาจส.ว.ก็เหลือแค่ปีครึ่ง ถึงตอนนั้นเพื่อไทยก็ใหญ่คับสภาแล้ว สถานการณ์ตอนนี้ต้องประนอมอำนาจกัน เชื่อว่าพลเอกประวิตร พลังประชารัฐจะเป็นผู้ประสานทั้งภูมิใจไทย เพื่อไทย ร่วมกันเป็นรัฐบาล นอกนั้นรวมทั้งก้าวไกลด้วยก็อาจเป็นฝ่ายค้าน สมการการเมืองจะลงตัวในลักษณะนี้ในช่วงปีครึ่งถึง 2 ปี ทักษิณยังไม่ได้กลับบ้าน อุ๊งอิ๊งก็ไม่ได้เป็นนายกฯ… หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที…”

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ กรณี “เจี๊ยบ ก้าวไกล” แชร์คลิป “ทักษิณ” ปลุกเสื้อแดงโค่นอำนาจรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดยออกมาทำนองยุยง และประกาศจะมาร่วมต่อสู้ แต่ก็ไม่เห็นแม้เงา เมื่อ 3 วันที่แล้ว ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจของสื่อกระแสหลักอยู่ในเวลานี้

คำถามก็คือ เบื้องหลังการแชร์คลิปครั้งนี้ แม้ไม่ระบุข้อความ แต่ก็เท่ากับเป็นการนำมาเสียบประจานหรือไม่?

จึงทำให้น่าคิดว่า มีความไม่พอใจ “ทักษิณ” เรื่องใดเรื่องหนึ่งอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะท่ามกลาง พรรคก้าวไกล สนับสนุนการต่อสู้เรียกร้องของ “ตะวัน-แบม” ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ให้ทุกพรรคการเมืองมีนโยบายยกเลิกม.112 และ 116 ซึ่ง “เพื่อไทย” ยังไม่ขานรับในเรื่องนี้ แม้อยู่ฝ่ายค้านด้วยกันกับพรรคก้าวไกล และเรียกตัวเองว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย”

อีกกรณีหนึ่ง ที่น่าสนใจเช่นกัน ก็คือ ความแตกแยกของแกนนำ นปช. ซึ่งก่อนหน้านี้ แม้สังคมจะสนใจ แต่ก็ไม่มีการเปิดเผยอย่างชัดแจ้ง กระทั่ง “ตู่-จตุพร” แตกหักกับ “ทักษิณ” จึงนำเอาเรื่องนี้มาแฉ ทำนองถูก “ทักษิณ” แยกสลายแกนนำ นปช.

แต่ปรากฏว่า ความจริงที่ “จตุพร” เปิดเผยนั้น กลับเป็นความจริงคนละชุดกลับที่ “เต้น-ณัฐวุฒิ” ตอบโต้ โดยแฉ กลับ “ตู่-จตุพร” ว่า เป็นต้นเหตุ “ทักษิณ” ไม่เกี่ยว

แต่ที่สำคัญ ทั้งสองคนต่างอ้างว่า ได้สอบถาม “ทักษิณ” แล้วด้วยตัวเอง และทักษิณ ต่าง “การันตี” ในเรื่องที่ตนเองเปิดเผย

สรุปต้องมีใครสักคนโกหก และหลอกลวง ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่ “เต้น” กับ “ตู่” แล้วจะเป็นใคร?

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/GOu73Wj
via World enews

Labels: , ,

Saturday, January 28, 2023

NGOโปรดทราบ ปลัดสธ. ยันย้าย ‘นพ.สุภัทร’ พ้นผอ.รพ.จะนะ เป็นไปตามระเบียบราชการปกติ



28 ม.ค.2566 – นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีคำสั่งย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา ว่า เรื่องนี้เป็นการดำเนินการไปตามระเบียบและอำนาจการบริหารราชการปกติ ไม่เกี่ยวกับการเมือง โดยมีการมอบอำนาจด้านบริหารงานบุคคลให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขทุกเขตสุขภาพ ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในการโยกย้ายบุคลากรในพื้นที่ และได้มีหนังสือแจ้งระเบียบแนวทางการดำเนินการให้เข้าใจถูกต้องตรงกันทุกเขตสุขภาพ

“ยืนยันว่าไม่ได้มีการแก้ไขหนังสือคำสั่งเพื่อจะย้ายคนเพียงคนเดียว กรณีของนพ.สุภัทร ก็เป็นการพิจารณาของผู้บริหารในพื้นที่ และเป็นการใช้อำนาจในการบริหารของ นพ.สวัสดิ์ อภิวัจนีวงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 12 ตามระเบียบและขอบเขตที่ได้รับมอบอำนาจมา” นพ.โอภาสกล่าว

The post NGOโปรดทราบ ปลัดสธ. ยันย้าย ‘นพ.สุภัทร’ พ้นผอ.รพ.จะนะ เป็นไปตามระเบียบราชการปกติ appeared first on .

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/yhUtl9e
via World enews

Labels: , ,

นายกฯ สุดปลื้ม “สงกรานต์” อยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น Tentative list ที่ UNESCO เตรียมพิจารณาขึ้นทะเบียน เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม



โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ปลื้ม “สงกรานต์” อยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้น Tentative list ที่ UNESCO เตรียมพิจารณาขึ้นทะเบียน เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ชิ้นที่ 4 ของประเทศไทย

วันนี้ (28 ม.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณ องค์การยูเนสโก (UNESCO) อนุมัติให้ “ประเพณีสงกรานต์” (Songkran in Thailand, traditional Thai New Year festival) เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้นเพื่อพิจารณาในที่ประชุมในช่วงปลายปี 2566 ให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (Intangible Cultural Heritage – ICH) ชิ้นที่ 4 ของไทย

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า เป็นที่ภาคภูมิใจของชาวไทยต่อกรณีที่องค์การยูเนสโก (UNESCO) อนุมัติให้ “ประเพณีสงกรานต์” เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น Tentative list เพื่อพิจารณาในที่ประชุมซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงปลายปี 2566 โดยจะได้กำหนดให้ประเพณีสงกรานต์เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (Intangible Cultural Heritage – ICH) ชิ้นที่ 4 ของไทย ต่อจาก โขน (ขึ้นทะเบียนเมื่อปี 2561) นวดไทย (ขึ้นทะเบียนเมื่อปี 2562) และโนรา (ขึ้นทะเบียนในปี 2564)

ทั้งนี้ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม (Intangible Cultural Heritage – ICH) เป็นหมวดหมู่ในวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ หมายถึง การปฏิบัติ การแสดงออก ความรู้ ทักษะ ตลอดจนเครื่องมือ วัตถุ สิ่งประดิษฐ์ และพื้นที่ทางวัฒนธรรม ทั้งนี้ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ยังมีอีกหลายรายการเตรียมพิจารณาลงทะเบียนกับองค์การ UNESCO

“นายกรัฐมนตรียินดี และภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีซึ่งเป็นขนบธรรมเนียมอันสวยงามของไทย ได้รับพิจารณาให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม สะท้อนว่า ทั่วโลกให้ความสำคัญกับประเทศไทย ให้การยอมรับ โดยเห็นถึงคุณค่าและเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของวัฒนธรรมไทย พร้อมเชื่อมั่นว่า ทุกประเพณี วัฒนธรรมของไทยทรงคุณค่า สามารถต่อยอดความสำเร็จผ่านการสืบสาน พัฒนา สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ในอนาคต” นายอนุชา กล่าว

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/WvYKyU2
via World enews

Labels: , ,

Pep Guardiola: Arsenal will now switch things up in title race after cup exit


Pep Guardiola could celebrate victory over Arsenal in the FA Cup on Friday night but dismissed suggestions Manchester City’s 1-0 win will have any impact on the Premier League title race.

Nathan Ake’s 64th-minute goal saw City through to the fourth round of the cup but they had to battle as Guardiola admitted the tactics employed by his former assistant Mikel Arteta surprised him as Arsenal’s man-to-man marking interrupted City’s flow.

“It was a tight game, a difficult opponent,” Guardiola said. “The second half was better apart from 10 minutes after the goal.

“I didn’t expect this approach, the man-to-man. It made the process difficult. In the second half we had to contact more than usual with Erling (Haaland), it is what we had to do. But it is a victory, the next round, we will see what we have to do.”

City consistently went long with their distribution, particularly in the first half, as they tried to bypass Arsenal’s press. But that did not play to Haaland’s strengths as he struggled to hold up the ball, and it was Arsenal who had the better chances before the break.

The introduction of Julian Alvarez, along with Kyle Walker, just before the hour, proved a turning point as City found a way through. Ake’s goal came after the Argentinian’s shot from range came back off a post, with Jack Grealish retrieving the ball to set up Ake.

City, who trail Arsenal by five points in the Premier League, head to the Emirates on February 15 but Guardiola said he did not think this result will have any bearing.

“I am pretty sure both teams are going to adjust something,” he said. “I have the feeling now they are going to do something differently.”

Arteta agreed, but also admitted his side had been found wanting by City.

“At the moment it’s disappointment because we are out and we could have taken much more from the game but we didn’t,” he said. “I feel we really competed against them and made it difficult but we lacked something to win against a team like this…

“We have taken the chances in big matches this season and that’s why we have beaten all the big teams but unfortunately today we didn’t and we didn’t defend the action well enough in the box when Ake scored.

“We had three or four big openings but we have to be more ruthless and put the ball in the net.”

Arteta would not be drawn on the possible signing of Brighton’s Moises Caicedo, even as the 21-year-old used social media to apparently say his goodbyes to the Seagulls, but the need for a midfielder became even more pronounced after Thomas Partey came off at half-time with an injury.

“He had some discomfort and it was getting worse and worse,” Arteta said. “He was uncomfortable to continue. (Saturday) or the day after he will have an MRI scan and see what he has.

“We have at the moment the injury of Mo (Elneny). It is not possible to get him fit. (Albert) Sambi has come in and has done well. It is true Thomas is a big influence and a big personality and in the second half we didn’t have him.”

City also ended the night with an injury concern, with England defender John Stones forced off with an apparent hamstring injury shortly before half-time.

“I don’t know (how serious it is),” Guardiola said. “Today he was not ready. I saw it from the first minutes. Maybe he was tired but he was not ready and when this happens you get injured.”

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/l3wkiqv
via World enews

Labels: , ,

ทั่วไทยหนาว!อุณหภูมิลด 1-3 องศาฯ ‘ใต้’ ช้ำเจอฝนกระหน่ำ



กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นกำลังแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำภาคเหนือของไทยหนาวเย็น ทั่วภูมิภาคอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาฯ ภาคใต้หนักเจอฝนผสมโรง!

28 ม.ค.2566 – กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและลมแรงไว้ด้วย

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

ฝุ่นละอองในระยะนี้: ประเทศไทยตอนบนจะมีการสะสมฝุ่นละออง/หมอกควันลดลง เนื่องจากลมที่พัดปกคลุมมีกำลังแรงขึ้น

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 1-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-2 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

ภาคกลาง

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

อากาศเย็นถึงหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 15-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

ตอนบน: อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ตอนล่าง: มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

อากาศเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/WjlH3gF
via World enews

Labels: , ,