อัยการลงดาบ “เนตร นาคสุข” สั่งไม่ฟ้อง “บอส” แต่ ตำรวจยังเงียบกริบ “ลุงตู่-สุวัฒน์” ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ ? **ตั้ง “ไผ่ ลิกค์” เจ้าภาพจัดวอลเปเปอร์ ลบภาพวัดพลัง เวลา ”2ป.”ลงพื้นที่
ข่าวปนคน คนปนข่าว
**อัยการลงดาบ “เนตร นาคสุข” สั่งไม่ฟ้อง “บอส” แต่ ตำรวจยังเงียบกริบ “ลุงตู่-สุวัฒน์” ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ ?
เรื่องใหญ่สะท้านวงการยุติธรรม กรณีอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “วรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา” ทายาทเศรษฐีเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดัง ผู้ต้องหา คดีขับรถยนต์หรูชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ อดีต ผบ.หมู่ฝ่ายป้องกันและปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิต เมื่อปี 2555 ผ่านมา และ ต่อมาได้กลายเป็น “วิกฤตศรัทธา” ของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม กดดันให้รัฐบาลต้องตั้ง คณะกรรมการตรวจสอบที่มี “วิชา มหาคุณ” เป็นประธานในเวลาต่อมา เพื่อทำหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริง โดยได้ผลสรุปไปเมื่อ กันยายน ปีที่แล้ว พร้อมๆ กับส่งมอบผลสอบถึงมือ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เพื่อตรวจสอบดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
ต้องไม่ลืมว่า ผลสอบของ “อ.วิชา” ชี้ชัดว่าคดีสั่งไม่ฟ้อง “บอส” เป็น “การสมคบคิด” มีการร่วมมือกันอย่างเป็นระบบของเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ของรัฐ อัยการ-ตำรวจ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทนายความ พยาน และบุคคลทั่วไป
กลุ่มคนดังกล่าวเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการดำเนินคดี โดยใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อิทธิพลบังคับ และการสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาให้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
แน่นอนว่า สังคมต้องการความรับผิดชอบจากผลการตรวจสอบนี้ โดยเฉพาะกับ “อัยการ” และ “ตำรวจ”
ล่าสุดคงได้เห็นแล้วว่า ฟากฝั่งอัยการนั้น “พชร ยุติธรรมดำรง” ในฐานะ ประธานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) นั้น เอาจริงมุ่งมั่นกับการเรียกความเชื่อมั่น สร้างศรัทธาคืนมาให้กับองค์กรอัยการ
วันก่อนนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุม ก.อ.ในวาระการสำคัญ เกี่ยวกับผลสรุปสอบสวนทางวินัย “เนตร นาคสุข” อดีตรองอัยการสูงสุด กรณีที่ “เนตร”มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” ซึ่งก่อนหน้านี้ มีความเห็นว่า เนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด ผิดวินัยไม่ร้ายแรง เนื่องจากไม่พบการทุจริต แต่เป็นความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ เห็นควรงดบำเหน็จ หรือไม่เลื่อนขั้นเป็นระยะเวลา 2 ปี และไม่เสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นอัยการอาวุโส
ปรากฏว่า ที่ประชุม ก.อ.มีมติเอกฉันท์ 9 เสียงว่า “เนตร” ขาดความรอบคอบ ประมาทเลินเล่อ อย่างค่อนข้างร้ายแรง ซึ่งจะต้องตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป โดยวินัยร้ายเเรงมีโทษทางข้าราชการ โทษสูงสุด คือการไล่ออก
เห็นว่างานนี้ “วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์” อัยการสูงสุด กับ “ไชยา เปรมประเสริฐ” รองอัยการสูงสุด งดออกเสียง
เรียกว่าอัยการในยุคของ “พชร” เป็นประธานก.อ. มี “แอ๊กชั่น” ออกมาให้สังคมเห็น ผิดก็ว่าไปตามผิด “เก็บกวาดบ้าน” พิจารณาโทษคนขององค์กรที่ถูกกล่าวหาเกี่ยวข้องกับกรณีอื้อฉาวอย่างที่ควรจะทำแล้ว
เรื่องนี้จำเป็นต้องเปรียบเทียบกับฝั่งของ “ตำรวจ” หากฝ่ายของ ก.อ. มีท่านประธาน “พชร” ฝ่ายตำรวจ ถามว่าใครต้องเทกแอ๊คชั่น ย่อมต้องเป็น “ประธานก.ตร.” ซึ่งก็คือ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และก็ต้องรวมถึง “พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ในฐานะ ผบ.ตร.หัวหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ประชาชาอยากจะรู้เหลือเกินว่า วันนี้ท่านได้สั่งการ หรือ ดำเนินการจะเอาผิดกับ “ตำรวจ” ที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีสั่งไม่ฟ้อง “บอส” บ้างมั้ย?
ว่ากันว่า ในผู้ถูกกล่าวหาจำนวน 15 ราย ประกอบด้วย พนักงานสอบสวน ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่ทั้งที่เกษียณไปแล้ว และที่ยังรับราชการอยู่ มีนายตำรวจยศ พล.ต.อ. 2 คน,พล.ต.ท. 2 คน ,พ.ต.อ. 2 คน ,พ.ต.ท. 2 คน, พล.อ.ท. 2คน , อัยการ 2 คน, ทนายความ 1 คน, นักการเมือง 2 คน
อัยการจัดการส่วนของตัวเองไปแล้วโดยประธานก.อ. แต่ฝ่าย ประธาน ก.ตร.และ ผบ.ตร.ยังเงียบกริบ!
หรือจะปล่อยเวลาล่วงเลยไป เพราะคิดว่า สังคมไทยลืมง่าย? บางคนเกษียณไปแล้ว ยังเชิดหน้าชูตา มีตำแหน่งสมาคม นู่นนี่นั่น ใหญ่โต ตำรวจใหญ่หลายคนที่เคยช่วยบิดสำนวนคดีบอส แทนที่จะถูกลงโทษ กลับก็ได้เลื่อนชั้นยศ
“ลุงตู่” ในฐานะประธานก.ตร. และ “บิ๊กปั๊ด” ผบ.ตร. จะเอาอย่างนี้จริงๆ หรือ? ซุกไว้ใต้พรม…ให้เป็นขยะเหม็นเน่าคาปทุมวันไปเช่นนี้หรือ ?!!
** ตั้ง “ไผ่ ลิกค์” เจ้าภาพจัดวอลเปเปอร์ ให้สมน้ำสมเนื้อ ลบภาพวัดพลัง เวลา ”2ป.”ลงพื้นที่
ควันหลง อีเวนต์วัดพลังของ “2ป.” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในการลงพื้นที่ว่าใครจะมีส.ส.ตามไปเป็น “วอลเปเปอร์” มากกว่ากัน ก็ปรากฏว่า ทางฝั่ง “ลุงป้อม” ที่ไปอยุธยา ชนะขาดมี ส.ส.มารอรับถึง 55 คน ขณะที่ “ลุงตู่” ไปเพชรบุรี มี ส.ส.ของพรรคเพียงแค่ 9 คน
ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะข้าง “ลุงป้อม” นั้นมีทั้ง “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่เป็นเลขาพรรค และ “วิรัช รัตนเศรษฐ” ประธานวิปรัฐบาล เป็นหัวขบวนอยู่ …ขณะที่ฝั่ง “ลุงตู่” นั้นมีแค่ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นผู้ประสาน…เทียบชั้นแล้วหากเป็นมวยก็ต้องบอกว่าแพ้ตั้งแต่ในมุ้ง!!
แม้ว่าทั้ง “ลุงป้อม”และ “ลุงตู่” จะพยายามบอกเป็นครั้งที่ร้อย ว่า “3ป.”ยังรักกันดี ไม่มีแตกแยก ตายเมื่อไร ถึงจะเลิกรักกัน …แต่ภาพที่ออกมามันดูไม่ค่อยสวยเท่าไร
ยิ่ง “ลุงตู่”บอกว่า หลังจากนี้จะลงพื้นที่ให้บ่อยขึ้น ถ้าเกิดไปแล้วไม่ค่อยมีส.ส.ไปต้อนรับ แต่ถ้าเป็น “ลุงป้อม” แล้วมากันพรึบ ภาพก็จะยิ่งฟ้องให้ประชาชนได้คิด สื่อหยิบไปวิพากษ์วิจารณ์ ไม่เป็นผลดีกับทั้งรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ
ว่าแล้ว “ผู้กองธรรมนัส” กับ “วิรัช” ก็หารือกันว่า จะต้องหาใครสักคนมาเป็น “เจ้าภาพ” เป็นคนจัดคิว ประสานส.ส. ไปรอรับ เวลาลุงตู่ ลุงป้อม ลงพื้นที่ โดยเฉพาะเวลาที่ทั้งสองคนลงพื้นที่พร้อมกัน ก็ต้องมีคนไปต้อนรับแบบสมน้ำสมเนื้อ … และคนที่เหมาะสมที่จะทำหน้าที่นี้ก็คือ “ไผ่ ลิกค์” ส.ส.กำแพงเพชร ที่เป็นรองเลขาธิการพรรค คนใกล้ชิด “ผู้กอง” …เพราะจัดอยู่ในประเภท คุยได้ทุกคน คุยได้ทุกอย่าง คุยแล้วรู้เรื่อง !!
เป็นอันว่าหลังจากนี้ คงไม่มีเรื่องที่จะมาจ้องนับจำนวนวอลเปเปอร์ เพื่อบอกว่า บารมีใครเหนือกว่าใคร
ด้าน “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น ที่ถูกมองว่า ยังห่างชั้น มือไม่ถึง ไม่มีศักยภาพ ประสานงานไม่ได้ผล ก็พูดถึงเรื่องนี้ว่า ไม่อยากเอาความคิดแบบ “นักการเมืองโบราณ” มาใส่สมอง เพราะการลงพื้นที่ของนายกฯเป็นการลงไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน ดังนั้นมีส.ส.ที่อยู่ในพื้นที่ หรือที่ได้รับผลกระทบ มารับรู้แนวทาง มาร่วมหาทางแก้ไขก็พอแล้ว ส่วนส.ส.จังหวัดอื่นที่อยู่ห่างไกล ไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหา ก็ไม่จำเป็นต้องมา …ถ้าจะมาเพื่อแค่ต้อนรับ ไม่เห็นจะได้ประโยชน์อะไร… การเมืองต้องคิดถึงเรื่องประเทศชาติ ไม่ใช่คิดแต่จะเล่นการเมืองอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม ผลจากการ “วัดพลัง” ครั้งนี้ หากมองในอีกมิติ ก็พอจะบอกได้ว่า… แม้ “ลุงตู่” จะเป็นนายกฯ เป็นผู้นำฝ่ายบริหาร สามารถออกนโยบาย ตั้งรัฐมนตรี ปลดรัฐมนตรีได้ …แต่ “ลุงป้อม” ก็กุมเสียงในสภา ที่พร้อมจะคว่ำรัฐบาลได้เช่นกัน
รูปการณ์จึงเหมือนกับว่า แม้ “ 3 ป.”จะยังรักใคร่กลมเกลียว แต่ก็ยัง “คานอำนาจ” กันอยู่ หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดใช้อำนาจที่ตัวเองกุมอยู่แบบไม่เหมาะ ไม่ควร ก็จะมีเรื่องให้ต้องจับตา วิพากษ์วิจารณ์กันอีก
อย่างเช่น กรณี “ลุงตู่” ปลด 2รัฐมนตรีช่วย ที่เป็นโควตาพรรค เป็นมือเป็นไม้ของลุงป้อม แล้วจะมีการตั้งใครมาแทนหรือไม่ … คนที่มาแทนเป็นคนของพรรค หรือ คนของลุงตู่ …ก็ต้องตามดูกัน
หรืออย่างเรื่อง พ.ร.ก.โรคติดต่อ ที่ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี เตือนว่า หากไม่ผ่านสภา ตามธรรมเนียมปฏิบัติ ก็มีอยู่ 2 อย่าง ถ้าไม่ยุบสภา รัฐบาลก็ต้องลาออก …รัฐบาลจะอยู่ จะไป ก็อยู่ในมือลุงป้อม
เรื่องความรัก ของ“พี่น้อง 3 ป.”ยังมีอีกหลายมิติ ต้องติดตามดูกันยาวๆ
Source link
from World eNews Online https://ift.tt/3ABTSEj
via World enews
Labels: news, World eNews Online, worldnews
0 Comments:
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home