Monday, November 8, 2021

มัดรวมมาเลย! “ดร.อานันท์” ท้าดีเบต ก๊วนอาจารย์ยุยงเด็กทำผิด “บิ๊กบี้” ขยับ “112” พท.ลุ้น “ทักษิณ” ครอบงำ?



กล้ามั้ย? “ดร.อานนท์” ท้าดีเบต ก๊วนอาจารย์ ยุยงเด็กทำผิด สู้กันด้วยความจริง ปมบิดเบือนโจมตี “สถาบันฯ” แอบส่อง “บิ๊กบี้” ส่งสัญญาณปกป้องสถาบันฯ-ม.112 บิ๊กสีเขียวแห่สมัครทวิตเตอร์เพียบ “กกต.” รับลูกแล้ว “ทักษิณ” ครอบงำ พท.?

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (7 พ.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น กล้าๆ หน่อย? “ดร.อานนท์” ท้าดีเบต ก๊วนอาจารย์ อยู่เบื้องหลังยุยงเด็กทำผิด พร้อมฟาดความจริง ปมบิดเบือนโจมตีสถาบันฯ

เนื้อหาระบุว่า หลัง นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า เปิดเผยความคิดเห็นส่วนตัว หัวข้อเรื่อง “เลิก – แก้ – ไม่แตะ 112” ผ่านช่อง Youtube Jomquan

โดยมี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า เป็นผู้ร่วมดีเบต ทั้งนี้ นายอรรถวิชช์ ระบุว่า

การเปลี่ยนแปลงแก้ไขยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ไม่ควรทำทั้งสิ้น เพราะหากยกเลิกไป มีแนวโน้มทำให้เกิดการกระทำผิดกฎหมายมากขึ้น หากเดินหน้ายกเลิกหรือแก้ไข จะนำไปสู่ความขัดแย้ง ม็อบชนม็อบมีโอกาสสูงมาก

และอาจารย์ปิยบุตรไม่เคยโดน 112 แต่ลูกศิษย์อาจารย์ น้องๆ นักศึกษาโดนอยู่นะ ต้องช่วยเขาด้วย คนที่ผิดเต็มๆ ก็ต้องโดนกันไปตามกฎหมาย แต่กรณีที่ศาลเคยวางแนวทางไว้แล้ว ว่าไม่ฟ้อง ก็น่าจะต้องมาดูกันว่าสั่งไม่ฟ้องได้ในชั้นตำรวจอัยการ ซึ่งหากมีคณะกรรมการกลั่นกรอง คดีมันจบเร็วขึ้น

วิธีการนี้เคยใช้ได้ผลมาแล้วสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่หากยังดันให้แก้ไขยกเลิก ม.112 หักด้ามพร้าด้วยเข่า คงเป็นไปได้ยาก ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จึงอยากให้คิดแบบหาทางออกให้ได้ นี่คือจุดยืนของผม”

ภาพ “อรรถวิชช์” ดีเบต ปม 112 กับ “ปิยบุตร” ขอบคุณภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ต่อมา นายปิยบุตร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ต้องยอมรับความจริงเยาวชนมองสถาบันฯ ไม่เหมือนคนรุ่นก่อน – ยิ่งฟ้องยิ่งแรง – ยกเลิก 112 ปลดล็อกพื้นที่แลกเปลี่ยนอย่างสันติ และได้ร่ายยาวชี้แจง ถึงบทลงโทษของประเทศต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร และอยากให้ไทยมีการปรับเปลี่ยน หลากหลายประเทศที่ยังคงรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์เอาไว้อยู่ จะต้องมีวิธีการอะไรบางอย่าง หลากหลายประเทศยังคงความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์เอาไว้อยู่ แต่โทษน้อยกว่าเรามาก

เช่น เดนมาร์ก เบลเยียม สเปน เนเธอร์แลนด์ 4 ประเทศนี้ ยังมีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์อยู่ แต่โทษน้อยกว่า เดนมาร์กบอกให้ใช้เหมือนหมิ่นประมาทคนธรรมดา และถ้าเป็นการหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์จะเป็นเหตุเพิ่มโทษ จำคุกไม่เกิน 8 เดือน

พร้อมทิ้งท้ายว่า เพราะฉะนั้นมันบังคับกันไม่ได้ และก็ต้องอยู่ร่วมกันในสังคม ในแผ่นดินนี้ จึงเหลืออยู่ทางเดียว คือ เปิดให้มีเสรีภาพในการแสดงออก แล้วอดทนอดกลั้นซึ่งกันและกันต่อความเห็นที่แตกต่าง

ล่าสุด ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ได้แสดงความคิดเห็นถึงประเด็นนี้ โดยระบุว่า

“ผมว่า คุณเอ๋ อรรถวิชช์ พูดดีที่ว่า ปิยบุตรยุยงให้เด็กทำผิดกฎหมายแต่ตัวเองอยู่รอดปลอดภัยดี ผมเลยอยากท้าดีเบตพวกอาจารย์ที่ยุยงเด็กอยู่เบื้องหลังให้มาดีเบตกับผมพร้อมๆ กัน คือ ปิยบุตร แสงกนกกุล, ชาญวิทย์ เกษตรศิริ, ประจักษ์ ก้องกีรติ, ทัศนัย ม.เชียงใหม่ มากันให้ครบๆ เลยครับ เรื่องสถาบันฯที่ชอบเอาไปกุ ไปบิดเบือนกันนัก จะมาตรา 112 หรือทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ก็พร้อมจะดีเบตครับ”

ทำให้มีคอมเมนต์เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า รอชม รอติดตาม อยากรู้ว่าทางนั้นจะกล้ามาดีเบตด้วยหรือไม่ เพราะ ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ได้ท้าไปหลายครั้ง แต่ไม่มีใครกล้ามาดีเบตด้วย ดังนั้น ในรอบนี้ที่คณะก้าวหน้า และพรรคก้าวไกล ได้เปิดเว็บไซต์ล่ารายชื่อแก้มาตรา 112 จึงทำให้น่าติดตามว่า คนที่อยู่เบื้องหลัง อยากให้ประชาชนและกลุ่มม็อบ 3 นิ้ว เข้ามาลงชื่อ กลับไม่กล้าออกมานำขบวนเอง

ภาพ แอบส่องทวิตเตอร์ “บิ๊กบี้” และ บิ๊กทหาร ขอบคุณภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น แอบส่องทวิตเตอร์ “บิ๊กบี้” และ บิ๊กทหาร ส่งสัญญาณ “ปกป้องสถาบันฯ-ม.112”

โดยระบุว่า เนื่องจากกระแสต่อต้านกฎหมาย มาตรา 112 ได้ถูกปล่อยออกมาอย่างรุนแรง จนกลายเป็นประเด็นในสังคมให้ถูกพูดถึงกันอย่างมาก โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของฝ่ายค้าน ที่พยายามยื่นร่างแก้ไขกฎหมาย ม.112 จนทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง

แม้ว่าประเด็นดังกล่าวอาจจะกระทบต่อสถาบันชาติ หลายคนสงสัยว่าเหตุใด เหล่าทหารที่มีหน้าที่ปกป้องชาติ และสถาบันฯถึงไม่ขยับอะไรเลย

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่อย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ การขยับของทหาร เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะบนทวิตเตอร์ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ หรือ บิ๊กบี้ ผู้บัญชาการทหารบก ที่มีผู้ติดตามจำนวนกว่า 3 หมื่นคน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทหาร ได้ขยับถึงประเด็นดังกล่าวเหมือนเป็นสัญญาณตลอดเวลาในช่วงที่มีข่าวการแก้ ม.112

แม้ว่าจะไม่มีการโพสต์ข้อความ แต่ได้มีการโพสต์ภาพต่อเนื่องเกี่ยวกับ สถาบันฯ และ ม.112 ตลอดเวลา เช่น

ขอบคุณภาพ จากทวิตเตอร์ “บิ๊กบี้” และเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ข้อความที่อยู่บนผืนธงชาติ ว่า “ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คือ หน้าที่ของคนไทยทุกคน ต้องรักษาสืบต่อไป รวมใจภักดิ์ ปกปักรักชาติ รักแผ่นดิน”

รูปทหาร และกองทัพ โดยมีข้อความระบุว่า “พิทักษ์ราชัน ปกป้องประชา รักษาแผ่นดิน”

นอกจากนี้ ยังมีการแชร์ข่าวเกี่ยวกับ ผลโหวตซูเปอร์โพล ที่มีหัวข้อว่า ประชาชนเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องการให้นำสถาบันฯ และการแก้ ม.112 เป็นเครื่องมือทางการเมือง พร้อมทั้งได้รีทวีตเบรนเนอร์ที่มีข้อความว่า “ประชาชนสนับสนุน 112 ปกป้องสถาบัน”

รวมไปถึงการแชร์ข้อความที่ว่า “ถ้ามึง ไม่ชั่ว ก็ไม่ต้องกลัว 112” และมีคนที่ร่วมสนับสนุนรีทวิตออกไปอีกเป็นจำนวนมาก

การเคลื่อนไหวบ่อยครั้งบนทวิตเตอร์ ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ทำให้ นายทหารชั้นผู้ใหญ่จำนวนมาก เริ่มหันมาสมัครทวิตเตอร์ พร้อมเริ่มมาใช้งานกันมากขึ้น ถือว่าเป็นการแทรกซึมเพื่อรู้เขารู้เราผ่านโซเชียลได้อีกทางหนึ่ง

ภาพ “กกต.” รับลูกแล้ว “ทักษิณ” ครอบงำ พท.? ขอบคุณภาพจาก เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน THE TRUTH โพสต์ประเด็น กกต.ไม่นิ่งเฉย เรียกสอบแล้ว ปม “ทักษิณ” ครอบงำ พรรคเพื่อไทย

โดยระบุว่า เนื่องจากกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ร้องเรียนไปยัง กกต. เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยเอาผิด นายทักษิณ ชินวัตร ครองงำหรือชี้นำพรรคเพื่อไทยหรือไม่ กรณีวิดีโอคอลมาในงานเลี้ยงคล้ายวันเกิดของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในหมู่บ้านหรูย่านเหม่งจ๋าย เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ต่อมาวันนี้ (7 พ.ย. 64) นายศรีสุวรรณ เผยว่า ประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คณะที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีหนังสือเรียกสมาคมฯให้ไปให้ถ้อยคำเพิ่มเติมประกอบคำร้องในกรณีดังกล่าวในวันจันทร์ที่ 8 พ.ย. 64 นี้เวลา 10.00 น.

ทั้งกล่าวว่า ขณะนี้เตรียมหลักฐานไปเพิ่มเติมอีกมากมาย รวมทั้งคำร้องเพิ่มเติมในกรณีที่นายทักษิณพูดถึงการไม่เห็นด้วยต่อการแก้ไข ปอ.มาตรา 112 ด้วย อันเป็นผลให้พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนแนวทางการขับเคลื่อนในประเด็นดังกล่าวทันที อันอาจชี้ให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทย มีความเป็นอิสระในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองตามที่ พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ได้บัญญัติไว้หรือไม่ อย่างไรด้วย

แน่นอน, สิ่งที่เปิดเผยออกมาอย่างชัดเจนก็คือ ใครอยู่ฝ่ายไหน ของประเด็น 112 และ “ปฏิรูปสภาบัน” ซึ่งการปะทะกันทางความคิด และโต้ตอบบนข้อเท็จจริง ยังไม่เคยเกิดขึ้น จึงทำให้ประชาชนสับสน และบางฝ่ายก็ได้อาศัยจังหวะนี้ บิดเบือน โจมตีสถาบันฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ดังนั้น การท้าดีเบตของ ดร.อานนท์ ถ้าทำได้จริง ก็น่าจะทำให้ความจริง ยากถูกบิดเบือนอีกต่อไป แต่ก็ต้องว่ากันด้วยเหตุด้วยผล ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

อย่างไรก็ตาม ถ้ามองอีกด้าน เรื่องนี้อาจไม่เป็นผลดี แต่อย่างใด ยิ่งพูดก็อาจยิ่งเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สามหรือไม่ แม้มีเจตนาดีก็ตาม และดูเหมือนที่มีการพูดกันอยู่ในเวลานี้ ก็ถือว่า พูดเลยเถิดไปไกลมากแล้ว อย่าลืม ดีเบตคือการถกเถียง และอาจไม่ได้ข้อสรุปอะไรด้วย ไม่ใช่ การแลกเปลี่ยนเพื่อแสวงหาความจริง ที่น่าจะทำได้ดีกว่า

เหนืออื่นใด ที่ต้องยอมรับความจริงได้แล้ว ก็คือ มีความคิดเห็นแบ่งออกเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน และทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันความต้องการของตัวเอง คือ “ปฏิรูป VS ไม่ปฏิรูป” สถาบันฯ และ “ยกเลิก VS ไม่ยกเลิก” ม.112 ที่เหลือคือฝ่ายสนับสนุน ที่มาก-น้อยต่างกัน และพลังเงียบ ที่เชื่อว่า จงรักภักดีต่อสถาบันฯ

นี่เอง คือ ปัญหาใหญ่ และเชื่อว่า ไม่มีทางจบลงง่ายๆ เพราะถ้าฟังดูให้ดี บางฝ่ายคิดว่า พวกเขามาไกลเกินกว่าที่จะกลับลำอะไรได้อีกแล้ว?

ซื้อของออนไลน์ที่ ลาซาด้า ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆LazMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/3BZUDag
via World enews

Labels: , ,

0 Comments:

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home