World enews: เอาปากกามาวง! ดวง “โทนี่” ตกดับอับโชค จะพา “อุ๊งอิ๊ง” ร่างอวตาร ล่มตาม?? **”ลุงตู่”ว่าไง? โพลเลือกตั้งถึงเวลาเปลี่ยนรัฐบาล”เพื่อไทย” นอนมา “พิธา” นั่งนายกฯ

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** เอาปากกามาวง! ดวง “โทนี่” ตกดับอับโชค จะพา “อุ๊งอิ๊ง” ร่างอวตาร ล่มตาม??

“อุ๊งอิ๊ง” หรือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวสุดที่รักคนโปรดของ “โทนี่ วู้ดซั่ม” ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ กำลังถูกสปอตไลต์ส่องอย่างแรง นับแต่เปิดตัวเข้ามาสืบทอดการเมืองเพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ชินวัตร ในฐานะในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ซึ่งแน่นอนก็เชื่อกันว่า “อุ๊งอิ๊ง” ไม่แคล้วจะเป็น 1 ใน 3 ชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย ที่ “โทนี่”ภูมิใจนำเสนอ

นอกจากจะเลือดข้นกว่าน้ำ ในสถานการณ์ที่หา “นอมินี” ที่จะเป็นคนของ “ชินวัตร” ไว้วางใจได้ยากแล้ว “อุ๊งอิ๊ง” ย่อมมีเปรียบมากกว่าใคร

แต่ก็นั่นแหละ แค่เปิดตัวมา ราศียังไม่ทันเปล่งประกาย แสงจากสปอตไลต์ก็นำมาซึ่งการขุดคุ้ยอดีตขึ้นมาหลอน จริงหรือไม่จริงไม่รู้ ประเด็น “ข้อสอบเอนทรานซ์รั่ว” กลายเป็นเรื่องที่อุ๊งอิ๊ง ถูกขยี้ บี้รัวๆ จากฝั่งตรงข้าม โดยเฉพาะ “เจ้เอ๋” ปารีณา ไกรคุปต์ เจ้าเก่ารับน้องไปเบาๆ

ขณะที่ เรื่องของ “โชคชะตา” ดวงดาวของ อุ๊งอิ๊ง ก็ตามมา โดย ชนม์ทรรศน์ ฤทัยผ่อง หรือ “ซินแสเข่ง” ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์พยากรณ์แห่งประเทศไทย จับตาแล้ววิเคราะห์ดวง “อุ๊งอิ๊
” แพทองธาร ชินวัตร ที่ว่ากันว่า อาจก้าวสู่แคนดิเดตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กับ “รุ่นลุง” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เจ้าของตำแหน่งคนปัจจุบัน

“ซินแสเข่ง” บอกว่า ถ้าเทียบดวงความแกร่งและมั่นคง ระหว่าง “ลุงตู่” กับ “อุ๊งอิ๊ง” ถือว่า ราศีดีไม่ห่างกัน แต่จุดปัญหาความแตกร้าวมีอยู่ในดวงชะตาเหมือนกัน ซึ่งหากแก้ไขต้องรู้วิธีป้องกันประกอบกับประสบการณ์ และอำนาจบารมีที่ต่างกัน หากจะสู้ก็สูสีสู้กันได้แบบชัวร์ๆ

ซินแสเข่ง ยังว่า “อุ๊งอิ๊ง” ประกาศชัดเจนเป็นตัวแทนของ “ทักษิณ” กลายเป็นชี้เหตุภัยร้ายดับอนาคตทางการเมือง กับความหายนะที่ส่อแววแห่งความล่มสลายของพรรค ทั้งที่ยังไม่ได้ประกาศเป็นแคนดิเดตนายกฯอย่างเป็นทางการ เท่ากับชี้จุดสร้างศัตรูให้ตนเองแตกแยก ทางการเมืองล่วงหน้า

จุดเด่นในดวงชะตาของ “อุ๊งอิ๊ง” ต้องเป็นตัวของตัวเอง ห่วงใยครอบครัวได้ แต่ชีวิตใครชีวิตมัน ต้องไม่นำพาบิดา หรือคนในตระกูลเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะดวง “โทนี่” ตกดวงดับอับโชค ไม่สำเร็จในชีวิต มีเงินล้นฟ้าแต่ไร้อำนาจอีก 10 ปี ก็ไม่พ้นบ่วงกรรมชีวิตต้องดิ้นรนตลอด

ถ้าไม่อยากให้เป็นตัวทำลายดับอนาคตฝันลูกให้นักการเมืองรุ่นใหม่สู้ด้วยภาวะตนเอง จะมีโอกาสที่จะได้เห็นอนาคตของลูกสาวรุ่งได้อีก 30 ปี แต่ถ้าแทรกแซง อาจต้องดับก่อนขึ้นตำแหน่งผู้นำไม่เกิน 3 ปี จบในปี 2568 แน่นอนฟันธง !
งานนี้ “อุ๊งอิ๊ง” ร่างอวตารของ “โทนี่” เวอร์ชั่นนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน เมื่อดวงว่ามาแบบนี้ ก็เตรียมเอาปากกามาวง และ โปรดติดตามกันต่อไป

** “ลุงตู่”ว่าไง? โพลเลือกตั้งถึงเวลาเปลี่ยนรัฐบาล”เพื่อไทย” นอนมา “พิธา” นั่งนายกฯ

แพ็กกระเป๋าสองใบใหญ่ บินลัดฟ้าไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศที่สกอตแลนด์ เพื่อร่วมประชุม COP26 ถกสิ่งแวดล้อมโลกแล้ว สำหรับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งก็ถือเป็นครั้งแรกประเดิมหลังโควิดคลี่คลาย แอบบ่นเสียดายไม่ได้อยู่ร่วมเปิดประเทศในวันนี้ (1พ.ย.)

นายกฯ ไม่อยู่ในประเทศ แต่แวดวงการเมืองก็ไม่ได้ลดดีกรีความร้อนแรง เมื่อมีผลโพล “สวนดุสิตโพล”อกมาให้ได้เป็นประเด็นพูดถึงกัน

สวนดุสิตโพลเขาว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณีความเคลื่อนไหวของพรรคการเมือง พบว่า ประชาชนมองว่าการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองต่างๆ ณ วันนี้ แสดงให้เห็นถึงความแตกแยกในพรรคการเมือง ร้อยละ 60.09 คิดว่า น่าจะมีการเลือกตั้งส.ส.ในต้นปี65 ร้อยละ 57.86 หากมีการเลือกตั้งใหม่ ก็จะทำให้ได้เปลี่ยนรัฐบาล ร้อยละ 58.31

และ ถ้ามีการเลือกตั้งคิดว่า “พรรคเพื่อไทย” น่าจะได้คะแนนเสียงมากที่สุด ร้อยละ 32.94 รองลงมาคือ พรรคก้าวไกล ร้อยละ 25.21

ประเด็นที่ฮือฮากัน นั่นคือ ผลที่บอกว่านายกรัฐมนตรีที่อยากได้ คือ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 28.67 รองลงมาคือ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ร้อยละ 21.27

สรุปว่า โดยภาพรวมประชาชนคิดว่าถึงเวลา แล้วที่จะเลือกตั้งใหม่ ร้อยละ 70.29 เพราะ ดูจากการขยับตัวของพรรคการเมือง ทั้งพรรคเล็กพรรคใหญ่ในช่วงนี้ ดูเหมือนจะเป็นการเตรียมตัวรับการเลือกตั้งใหม่ ที่อาจจะเกิดขึ้นไวกว่ากำหนดเดิม

ถึงแม้ประชาชนจะมองว่า การเคลื่อนไหวของแต่ละพรรคในช่วงนี้สะท้อนให้เห็นถึงความแตกแยกภายในพรรค และเป็นเพียงการสร้างกระแส แต่ก็ต้องยอมรับว่า ฝ่ายประชาชนเองก็ลุ้นอยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วเหมือนกัน

กระแสของพรรคเพื่อไทย ยังคงไปได้ด้วยดี แต่กระแสนายกฯจากการสำรวจครั้งนี้ กลับเป็น “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ที่มีกระแสดีมากขึ้น ต้องมารอดูกันว่า ถ้ามีการเลือกตั้งจะมีการเปลี่ยนขั้วการเมืองได้จริงหรือไม่ เพราะการเมืองเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และทุกความเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองนั้น ก็อยู่ในสายตาของประชาชนเสมอ

งานนี้โพลก็คือโพล แต่ก็คงเป็นสัญญานถึงพรรคพลังประรัฐ กับ “ลุงตู่” ได้ไม่มากก็น้อย พรรคใหญ่อย่างพรรคพลังประชารัฐไม่อยู่ในสายตา นี่ไม่ธรรมดาแล้วล่ะ และการที่ความนิยมในตัว “ลุงตู่”ตามหลัง “พิธา” นี่บ่งบอกว่า ลุงๆ เหนื่อยแน่!!