World enews: ธรรมดาที่ไหน “หนุ่ยเทวดา” บอดี้การ์ดตระกูลชิน จากร่อแร่ผงาดขึ้นเป็น “รองผู้การ” ** อภิปรายร่างแก้ไขรธน.เดือด ส.ว.ซัด ปิยบุตร คนเนรคุณแผ่นดิน!!

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ธรรมดาที่ไหน “หนุ่ยเทวดา” บอดี้การ์ดตระกูลชิน จากร่อแร่ผงาดขึ้นเป็น “รองผู้การ”

ฮือฮากันในแวดวงสีกากี เมื่อการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับผู้กำกับการ (ผกก.) ถึง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2564 จำนวน 1,955 ตำแหน่งนั้น ปรากฏชื่อของ “พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย” ประจำ บช.ส. หรือ “ผกก.หนุ่ย” เจ้าของฉายา “หนุ่ยเทวดา” อดีตนายตำรวจติดตาม “ปู” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขยับเป็นรองผู้บังคับการกลุ่มงานผู้เชี่ยวชาญการข่าว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (รอง ผบก.กชข.)

เรียกว่า “บอดี้การ์ดตระกูลชิน” จากครั้งหนึ่งที่ร่อแร่ในวันที่ไร้บารมีของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ “ผกก.หนุ่ย” กลับมาได้ดิบได้ดี อีกครั้งในพ.ศ.นี้ ซึ่งถ้ายังจำกันได้ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2562 เขาเคยถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง หลังจากปรากฏภาพติดตาม “ยิ่งลักษณ์” ไปชมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซีย และผลการสอบสวนที่ว่ากันว่า เอกสารหลักฐานวีรกรรมของเขาถูกปิดลับเป็นปริศนา แต่ถึงอย่างนั้นก็มีเล็ดลอดออกมาว่า “หนุ่ยเทวดา” ขาดงาน บินต่างประเทศโดยไม่ลาอยู่หลายครั้ง จุดหมายปลายทางก็แล้วแต่ผู้เป็นนายตัวจริงจะไปผลุบโผล่ที่ไหนบ้าง มีทั้ง ดูไบ และยุโรป ซึ่ง โทษวินัย บ้างก็ว่า ร้ายแรงจนถึงขั้นให้ออกจากราชการ แต่เจ้าตัวก็ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งถูกปลดออกจากราชการ ต่อคณะอนุกรรมการ ก.ตร. แล้วเรื่องก็เงียบหายไป

พ.ต.อ.วทัญญู วิทยผโลทัย - พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข
เห็นว่า ในการแต่งตั้งครั้งนี้ “พ.ต.อ.วทัญญู” ซึ่งเป็น นรต.รุ่น 49 เพื่อนร่วมรุ่นเป็น ผบก.ไปก่อนหน้าแล้ว คือ “พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ” ผบก.ปอท.บช.ก.และ “พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ” ผบก.สุราษฎร์ธานี งานนี้ “หนุ่ยเทวดา” จึงอาศัยความมีลำดับอาวุโสสูงสุดของ บช.ส. ได้เลื่อนตำแหน่งตามกฎอาวุโส

กระนั้นก็ดี ข่าววงในวงการสีกาบอกว่า การแต่งตั้งนายพันรอบนี้ ผบ.ตร. “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ไม่เป็นตัวของตัวเอง มีความพลิ้ว สู้ ผบ.ตร. คนก่อนๆ ไม่ได้ แม้จะไม่มีข่าวอื้อฉาวซื้อขายเก้าอี้ แต่ เด็กเส้น คนตีตั๋วก็เยอะ ก็เลยออกมาอย่างที่เห็นๆ

พ.ต.อ.วทัญญู ขณะติดตาม ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ของพรรค์นี้ วงในสีกากีเขาว่า นอกจากฝีมือแล้ว วาสนาอันมาจากบารมีเพราะแบ็กดีก็มีส่วนสำคัญผลักดันด้วย

ไม่รู้ “ผกก.หนุ่ย” จะอยู่ในข่ายไหน จากคนที่เคยร่อแร่ๆ จะถูกปลดออกจากราชการอยู่รอมร่อเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา วันนี้ผงาดขึ้นเป็นรองผู้การ…เอาเป็นว่า ไม่ธรรมดาก็แล้วกัน.

** อภิปรายร่างแก้ไขรธน.เดือด ส.ว.ซัด ปิยบุตร คนเนรคุณแผ่นดิน!!

เรื่องรัฐธรรมนูญ ถ้ามีการแตะ มีการถกกันในสภาเมื่อไร รับรองว่าบรรยากาศการอภิปรายไม่มีคำว่าจืดชืด

อย่างการพิจารณา ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ที่เรียกกันว่า “ฉบับไอติม” หรือ “ฉบับประชาชน” อันมีที่มาจากกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มรีโซลูชั่น” ที่เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมรัฐสภา เป็นวาระแรก เมื่อวานนี้ (16 พ.ย.) ก็ดุเดือดตั้งแต่เริ่มเปิดหัว

ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ใช้สโลแกนในการโปรโมต สั้นๆ ง่ายๆ ให้รับรู้กันคือ “ล้ม โละ เลิก ล้าง” … ล้ม คือ ล้มวุฒิสภา 250 เสียงที่มีอำนาจโหวตนายกฯ…โละ หมายถึงโละศาลรัฐธรรมนูญ เซ็ตซีโร แล้วนับหนึ่งใหม่ ตามกติกาที่ทางกลุ่มรีโซลูชั่นออกแบบ

ปิยบุตร แสงกนกกุล และ พริษฐ์ วัชรสินธุ
เลิก คือ เลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนปฏิรูปประเทศ ตามทิศทางที่คสช.กำหนด และ… ล้าง คือล้างมรดกรัฐประหารจากยุคคสช.

ในการชี้แจงต่อที่ประชุมรัฐสภา ถึงหลักการของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้ก่อตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า กับ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” เลขาธิการคณะก้าวหน้า แบ่งกันชี้แจงคนละ 2 หัวข้อ

“ไอติม” ชี้แจงหัวข้อ ล้มส.ว. กับ เลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยเปรียบเปรยว่า ประเทศไทยกำลังป่วยร้ายแรงด้วย 3 โรค คือ โรคเศรษฐกิจอ่อนแอ โรคเหลื่อมล้ำเรื้อรัง และโรคประชาธิปไตยหลอกลวง ซึ่งเป็นผลจากไวรัส “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” …หากต้องการทำให้ประเทศแข็งแรง ก็ต้องฆ่าไวรัส ผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ใน 4 ข้อ คือ ล้มวุฒิสภา ให้เหลือสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว เพราะส.ว.ขาดความชอบธรรมทางประชาธิปไตย มีอำนาจล้นฟ้า แต่ไม่มีที่มายึดโยงจากประชาชน รัฐสภาดีที่สุดคือรัฐสภาที่ไม่มีวุฒิสภา การพิจารณากฎหมายก็รวดเร็ว แถมประหยัดงบด้วย

นอกจากนี้ ต้องเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพราะการกำหนดแนวทางบริหารประเทศล่วงหน้า 20 ปี ไม่มีใครเขาทำกัน และถ้ารัฐบาลต่อไปไม่ทำตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็จะมีความผิดด้วย อันนี้นอกจากจะเป็นเครื่องมือสืบทอดอำนาจของรัฐบาลประยุทธ์ แล้วยังใช้เล่นงานคู่แข่งทางการเมืองได้ด้วย

จากนั้นถึงคิวที่ “ปิยบุตร” ลุกขึ้นมาชี้แจงในเรื่อง โละศาลรัฐธรรมนูญ และ ล้างมรดกรัฐประหารจากยุคคสช. โดยระหว่างนั้นได้กล่าวถึง 250 ส.ว. ที่เป็นมรดกของคสช. ด้วย… ทำให้ “กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ” ส.ว.คนดังจากพิจิตร เจ้าของแอคชั่นชี้หน้า ตามด้วยวาทะ”ส.ส.ขี้ข้าโจร” ก็ลุกขึ้นประท้วงว่า เป็นการชี้แจงเท็จ เพราะอย่างน้อย ส.ว.ก็มาจากรัฐธรรมนูญ แต่คนที่กำลังอภิปราย ไม่สมควรที่จะมาชี้แจงรัฐธรรมนูญ หรือมาเสนอร่างรัฐธรรมมนูญ เพราะว่า“เป็นคนเนรคุณแผ่นดิน”

กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ
เจอเข้าไม้นี้ ”ปิยบุตร”ไม่ว่าอะไร แต่ “ทั่นโรม” รังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ทนไม่ได้ จึงลุกขึ้นประท้วง และขอให้ถอนคำพูด คำว่า “คนเนรคุณแผ่นดิน” ซึ่ง “ส.ว.กิตติศักดิ์” ก็ยอมถอน แล้วเปลี่ยนเป็นคำว่า “เป็นคนที่ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์”แทน ทำให้ “รังสิมันต์” ต้องลุกขึ้นประท้วงอีกครั้ง จนประธานในที่ประชุมต้องขอให้ถอนคำพูด ซึ่ง “ส.ว.กิตติศักดิ์” ก็ยอมถอนคำพูดดังกล่าวทั้งหมด

สำหรับร่างรัฐธรรมนูญ ที่อ้างว่าเป็นร่างของประชาชนนี้ เมื่อพิจารณาถึงที่มาแล้ว และผู้ที่ร่วมผลักดันแล้ว ก็สามารถอนุมานได้ว่า เป็นร่างของ “ประชาชนกลุ่มสามนิ้ว” กลุ่มที่เพิ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มีการกระทำที่เป็นการล้มล้างการปกครอง และสั่งให้หยุดการกระทำดังกล่าวเสีย

เมื่อต่อ “จิ๊กซอว์” ให้เห็นภาพอย่างนี้แล้ว โอกาสที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะผ่านวาระ 1 คงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะในเงื่อนไขที่ต้องมีเสียงส.ว. เห็นชอบด้วย ไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนส.ว.ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ หรือไม่น้อยกว่า 84 เสียง

ยิ่งส.ว.ชุดปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นสายอนุรักษ์นิยม ที่ไม่ค่อยถูกชะตากับพวกคณะก้าวหน้า ของธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ปิยบุตร แสงกนกกุล ในเรื่องมาตรา112 หนักอยู่แล้ว …และยิ่งจะมาแก้รัฐธรรมนูญ โละส.ว.ทั้งหมด แล้วใครจะยอมขานชื่อเห็นชอบให้ผ่านวาระแรกได้

ร่างนี้จึงคว่ำเห็นๆ คว่ำตั้งแต่อยู่ในมุ้ง!!