World enews: ส.ส.รัฐบาลกะโชว์พาว จัดเบิร์ธเดย์ แต่การ์ดตกเลยโดนถล่มเละ!! ** “สันติ พร้อมพัฒน์” รู้หรือยัง ? โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายศูนย์ราชการฯ โซน c 30,000 ล้าน กลิ่นตุๆ “ขาใหญ่” ล็อกสเปก เอื้อพวกพ้องโชยมา

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ส.ส.รัฐบาลกะโชว์พาว จัดเบิร์ธเดย์ แต่การ์ดตกเลยโดนถล่มเละ!!
วันก่อน “ส.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา” ส.ส.เขตวัฒนา คลองเตย พรรคพลังประชารัฐ จัดงานฉลองครบรอบวันเกิดใหญ่โต ส่วนจะเป็นวันเกิดครบรอบปีที่เท่าไร เจ้าภาพบอกว่า… อายุเป็นเพียงตัวเลข ถ้ารักกันก็อย่าถาม

แต่อย่างว่า คนเป็นถึงระดับส.ส.ก็อยากจะโชว์พาว โชว์บารมีว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่ มีส.ส.คนสำคัญในพรรคมาอวยพร …ในโพสต์จึงมีการระบุชื่อไว้หลายคน อาทิ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการฯพรรค พปชร. และอดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ , ศ.ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพปชร. และอดีต รมช.แรงงาน …นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ์ รมช.คมนาคม และเพื่อนๆ พี่ๆ ส.ส. พร้อมแนบภาพบรรยากาศการสังสรรค์ในงาน การรับมอบของขวัญวันเกิด ให้ดูกันแบบจุใจ ว่าใครมากันบ้าง

งานฉลองวันเกิด ส.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา
แล้วก็งานเข้า!! ทัวร์ลง “ส.ส.กรณิศ” เข้าอย่างจัง เพราะภาพที่ลงไปนั้น ทั้งเจ้าภาพ ทั้งแขกเหรื่อ ไม่รักษาระยะห่างไม่ว่า แต่ส่วนใหญ่ไม่สวมหน้ากากอนามัย … และไม่ใช่ไม่สวมเฉพาะตอนถ่ายรูป ตอนที่นั่งโต๊ะซึ่งเป็นแบ็กกราวน์ในภาพส่วนใหญ่ก็ไม่สวม …ถือว่าไม่ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิดอย่างเคร่งครัด เสี่ยงต่อการเกิด “คลัสเตอร์งานวันเกิด” เป็นอย่างยิ่ง !!

หากมองในแง่กฎหมายก็ยังเข้าข่ายความผิดด้วย เพราะตามประกาศ กทม. ฉบับ 45 ร้านอาหาร/เครื่องดื่มทั่วไป เปิดให้บริการตามเวลาปกติ แต่อนุญาตให้มีการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะร้านที่ผ่านมาตรฐาน SHA ของ ททท. และไม่เกินเวลา 21.00 น.เท่านั้น

ส่วนโรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ หรือที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดบริการจัดประชุม สัมมนา จัด “งานพิธีตามประเพณีนิยม” ได้จนถึง 22.00 น. แต่ห้ามบริโภคสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในงานต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย เช่น จำกัดคนร่วมงาน สวมหน้ากากอนามัย จัดอาหารแยกชุด เว้นระยะห่าง โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด อย่างเคร่งครัด …ซึ่งการจัดงานวันเกิดถือว่าเป็นงานตามประเพณีนิยม

… ในขณะที่ผับ บาร์ คาราโอเกะ นักร้องนักดนตรี คนกลางคืน เรียกร้องขอให้รัฐบาลให้ผ่อนคลายมาตรการ เพราะจะล้มละลาย จะอดตายกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง เพราะเห็นว่า การร่วมวงสังสรรค์ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นการเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และแพร่เชื้อโควิด

แล้วนี่เป็นงานเลี้ยง“เบิร์ธเดย์” ของส.ส.พรรคแกนนำรัฐบาล ผู้ที่มาร่วมงานก็เป็นส.ส.สังกัดพรรครัฐบาล เป็นรัฐมนตรี เป็นฝ่ายกำหนดนโยบายควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด แต่กลับ “การ์ดตก” เสียเอง ทั้งเจ้าภาพ ทั้งแขกผู้มาร่วมงาน… แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ทัวร์ลงได้อย่างไร

ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหู นายกฯลุงตู่ ลุงป้อมหัวหน้าพรรค ไม่รู้ว่า “ส.ส.กรณิศ” จะตั้งการ์ดรับไหวหรือไม่

และหลังจากนี้อีกสัปดาห์ สองสัปดาห์ ก็ต้องมาลุ้นกันว่า จะมี“คลัสเตอร์งานเบิร์ธเดย์ส.ส.” หรือไม่!!

** “สันติ พร้อมพัฒน์” รู้หรือยัง ? โครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายศูนย์ราชการฯ โซน c 30,000 ล้าน กลิ่นตุๆ “ขาใหญ่” ล็อกสเปก เอื้อพวกพ้องโชยมา

วงการผู้รับเหมาก่อสร้างไทยตอนนี้กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันเสียงขรม สำหรับโครงการก่อสร้างส่วนต่อขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ โซน c ที่มีมูลค่า 30,000 ล้านบาท ว่า “ขาใหญ่” คนในรัฐบาลสมรู้ร่วมคิด วางแผนจะถวายพานงานนี้ใส่มือบริษัทรับเหมายักษ์ใหญ่เจ้าเก่าพวกพ้องตัวเอง โดยการกำหนด หรือ “ล็อกสเปก” กีดกันผู้รับเหมารายอื่นๆ ไม่ให้เข้ามาแข่งขันได้

เรื่องนี้เริ่มมาจาก มติครม. เมื่อวันที่ 26 พ.ย.61 ตามหนังสือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีด่วนที่สุด ที่ นร 0505/38631 ลงวันที่ 30 พ.ย.61 อนุมัติในหลักการโครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โซนC ของบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด(ธพส.) รัฐวิสาหกิจ สังกัด กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ กรอบวงเงินลงทุนรวม สามหมื่นล้านบาท โดยให้กระทรวงการคลังรับไปพิจารณาแหล่งเงินทุน และวิธีการระดมทุนที่เหมาะสม

ต่อมา เมื่อวันที่ 20 ต.ค.64 บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ ได้ประกาศ ร่างขอบเขตของงาน หรือ TOR (Term of Reference)ว่า ผู้ยื่นข้อเสนอต้องมีผลงานก่อสร้างอาคารสำนักงานที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า 2,250 ล้าน พร้อมแสดงสำเนาสัญญาจ้างด้วย โดยผลงานดังกล่าว จะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้

(1) เป็นผลงานในสัญญาเดียวที่แล้วเสร็จตามสัญญา และ มีการตรวจรับงานเรียบร้อยแล้ว
(2) เป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานเอกชนที่ ธพส.เชื่อถือและไม่ใช่ผลงานอันเกิดจากการรับจ้างช่วง

(3) เป็นผลงานที่จะต้องก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งอาคารสำนักงานตามสัญญา และก่อสร้างในประเทศไทย

และ ข้อที่ 4 เป็นข้อที่เป็นปมประเด็นปัญหาในวงการผู้รับเหมาก่อสร้าง เนื่องเพราะระบุว่า (4) ผู้ยื่นข้อข้อเสนอผลงานดังกล่าว ต้องมีผลงานการก่อสร้างอาคารสำนักงานที่สร้างใหม่ และ ได้รับการรับรองมาตรฐาน LEED ไม่ต่ำกว่าระดับ Gold มีพื้นที่ก่อสร้างไม่น้อยกว่า 65,000 ตารางเมตรด้วย โดยให้นำสำเนาใบรับรอง และเอกสารสัญญาผลงานอาคารสำนักงานที่ได้รับรองมาตรฐานมายื่นก่อนวันประกวดด้วย

สเปกที่กำหนดในข้อ 4 นี้ ว่ากันว่า มีผู้รับเหมาก่อสร้างไทยหลายรายได้มีหนังสือท้วงติงไปที่ บริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ ว่า ผลงานการก่อสร้างอาคารที่ได้รับรองมาตรฐาน LEED (Leadership in Environmental Desigh) ไม่ต่ำกว่าระดับ Gold ซึ่งเป็นเกณฑ์การประเมินระดับนานาชาติ ที่แสดงถึงมาตรฐานในการก่อสร้างอาคารสีเขียว แต่ในข้อ 21 บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ได้กำหนดว่า ให้ผู้รับจ้างต้องดำเนินงานก่อสร้างให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐานอาคารเขียวไทย (TREES) หรือรับการรับรองมาตรฐาน (Thai s Rating of Energy and Environmental Sustainabiliy)

สันติ พร้อมพัฒน์
ดังนั้น ผู้รับเหมาหลายรายจึงมีคำถามว่า แทนที่จะใช้ผลงานก่อสร้างอาคารตามมาตรฐานเขียว (LEED) เพียงอย่างเดียว ทำไมผลงานก่อสร้างที่ได้รับมาตรฐานอาคารเขียวไทย TREES จึงไม่นำมาใช้ในการยื่นผลงานด้วย

ว่ากันแบบแฟร์-แฟร์ คนในวงการผู้รับเหมาเขาก็รู้กันดีว่า มาตรฐานสองอันนี้ สำหรับอาคารที่ต้องการขอมาตรฐานอาคารเขียว (Green Building) ในประเทศไทยนั้น มีเกณฑ์การประเมินหลักๆ ที่นิยมอยู่ 2 เกณฑ์ คือ LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั่วโลกจากสหรัฐอเมริกา และ TREES (Thai’s Rating of Energy and Environmental Sustainability) หรือเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมของไทย

สถาบันอาคารเขียวไทย โดย TREES นั้นถูกออกแบบและกำหนดเกณฑ์การประเมินให้คล้ายกับ LEED แต่ได้มีการปรับเปลี่ยนการประเมินบางหัวข้อเพื่อให้เกณฑ์การประเมินนั้นเหมาะสมกับประเทศไทย

กล่าวได้ว่า งานนี้ ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ ออกข้อกำหนดงานอยากให้ผู้ก่อสร้างกำหนดกรอบการทำงานตามสเปก TREES แต่เวลากำหนด TOR ต้องการแค่สเปก LEED เท่านั้น ก็เลยมีเสียงครหา ต้องการ“เตะหมูเข้าปากหมา” ใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ ตามคำบัญชาของ “ผู้ใหญ่” ในรัฐบาล

เรื่องนี้จะปิดบังกันก็คงยาก ตกลงกันในที่ลับ แต่ TOR มันเปิดเผยชัดแจ้ง เหตุผลก็ย้อนแย้งในตัวเอง เผลอๆ กลิ่นตุๆ นี้จะโชยไปถึงจมูก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รฐมนตรีกลาโหม หรือยัง ไม่มีใครรู้ ก็รู้ๆ ว่าถ้าลุงตู่ รู้เรื่องก็คงเป็นเรื่องแน่ เพราะลุงมักประกาศนโยบายและกำชับหนักหนา ห้ามมีทุจริตคอร์รัปชันเด็ดขาด ทุกโครงการต้องโปร่งใส ตรวจสอบ ตอบคำถามสังคมได้

แต่ก่อนจะไปถึง “ลุงตู่” ก็ต้องถาม “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง คนดูแลกรมธนารักษ์ ต้นสังกัด ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ เจ้าของโครงการ 3 หมื่นล้านนี้รู้เรื่องนี้หรือยัง ?