“สุรชาติ” ลั่นต้องชนะเลือกตั้งซ่อม 30 ม.ค. พาศักดิ์ศรีคนหลักสี่-จตุจักร เข้าสภาฯ
“สุรชาติ” เมินโดยร้องหาเสียงค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โอดค่ารถแพงจนคนไม่ได้ใช้งาน ลั่นมุ่งมั่นทำงานรับใช้ ปชช. ชูการเมือง-ขรก.ต้องให้เกียรติ ปชช. หวังร่วมปฏิรูประบบราชการ กับ “เพื่อไทย” ย้ำ 30 ม.ค.ต้องชนะ พาศักดิ์ศรีคนหลักสี่-คนจตุจักร เข้าสภาฯไปด้วยกัน
วันนี้ (28 ม.ค. 65) ที่เวทีปราศรัยชั่วคราวสวนสาธารณะเคหะทุ่งสองห้อง พรรคเพื่อไทยจัดปราศรัยใหญ่ช่วย นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 9 กทม. เขตหลักสี่-จตุจักร เบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย หาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนถึงวันลงคะแนนในวันที่ 30 ม.ค. 65 นี้ โดย นายสุรชาติ ได้ขึ้นปราศรัยตอนหนึ่งว่า การเป็น ส.ส.เป็นความฝันเดียว ซึ่งที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนเคยช่วยกันทำให้ฝันนั้นเป็นจริงมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่วันนี้่มีฝันที่ยิ่งใหญ่กว่า คือ อยากเป็นผู้แทนราษฎร ที่จะทำงานรับใช้ประชาชน เพื่อทำให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้น แต่เรื่องนี้ไม่สามารถทำคนเดียวได้ พี่น้องประชาชนและพรรคเพื่อไทย หากร่วมมือกันจะทำได้
นายสุรชาติ ยังได้กล่าวถึงการออกมาพูดถึงนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในระหว่างการด้วยว่า เมื่อครั้งเป็น ส.ส. ปี 2554 ในช่วง 2 ปีกว่าๆ นั้น ได้มีส่วนในการผลักดันโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดง โดยมีโอกาสเข้าพบอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อขอให้พิจารณาอนุมัติสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง ในยุคที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลให้ได้ เพราะมีความสำคัญกับพี่น้องประชาชนชาว กทม. 3-4 เขต รวมไปถึงพี่น้องในปริมณฑล ก็จะได้ใช้ประโยชน์ และสุดท้ายรถไฟฟ้าสายสีแดง ก็ได้รับการอนุมัติให้ก่อสร้างในสมัยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่นำโดยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ แต่วันนี้พี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตหลักสี่ส่วนใหญ่แทบจะไม่ได้ใช้รถไฟฟ้าสายสีแดง เนื่องจากราคาค่าโดยสารยังคงสูงเกินไป ทั้งที่เราสร้างรถไฟฟ้ามาเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้ใช้ ไม่ได้สร้างเอาไว้เป็นอนุสาวรีย์หรือให้เฉพาะคนที่มีเงินได้ใช้
“ใครก็ตามที่พยายามร้องเรียนเรื่องนี้ หรือพยายามดึงให้ผมเข้าสู่ความขัดแย้งนั้น คงไม่สามารถทำตามเป้าหมายได้ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา 17 ปี พี่น้องประชาชนรับรู้ดีว่าการทำงานทั้งหมดเป็นการทำเพื่อประชาชน และการหาเสียงครั้งนี้เพื่อกลับเข้าสภาฯไปทำงานรับใช้ประชาชน” นายสุรชาติ กล่าว
นายสุรชาติ กล่าวย้ำด้วยว่า การเมืองของตน คือ การให้เกียรติประชาชน นโยบายก็ต้องเป็นนโยบายที่ให้เกียรติประชาชน สำหรับตนนโยบายที่ให้เกียรติประชาชนเช่นนั้น คือ นโยบาย SML ที่ให้พี่น้องประชาชนได้มีอำนาจในการใช้งบประมาณและตัดสินใจแก้ปัญหาในชุมชนด้วยตัวเอง นี่คือจุดเริ่มต้นของประชาธิปไตยและการให้เกียรติประชาชน แล้วขณะนั้นตนได้ใช้ความเป็นผู้แทนราษฎรเข้าไปร่วมประสานงานโครงการนี้ ซึ่งเขตหลักสี่ เป็นพื้นที่ที่ทำโครงการ SML ได้มากที่สุดใน กทม.
นายสุรชาติ กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่ตนพูดเสมอ คือ การปฏิรูประบบราชการ ตนใช้เวลา 17 ปี เป็นผู้รับใช้ประชาชน ทุกครั้งที่เห็นนักการเมือง หรือข้าราชการทำตัวเหนือประชาชน ตนจะเดินไปบอกเสมอว่าไม่มีใครอยู่เหนือประชาชนได้ ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงจะต้องเกิดขึ้น แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะไม่ใช่การทำลายล้าง แต่จะเปลี่ยนแปลงด้วยทัศนคติที่ดี
“ผมเชื่อว่า พรรคเพื่อไทยที่เคยปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่มาแล้ว ซึ่งไม่เพียงทำให้ประชาชนมีความสุข แต่พี่น้องข้าราชการก็มีความสุขมากขึ้นด้วย และเราจะทำอีกครั้งหนึ่ง” ผู้สมัครเบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย กล่าว
ในตอนท้าย นายสุรชาติ กล่าวว่า 17 ปีที่ผ่านมา ตนล้มลุกคลุกคลาน ผิดหวังมากกว่าสมหวัง เมื่อ 3 ปีที่แล้ววันที่แพ้การเลือกตั้ง วันต่อมาผมขึ้นรถแห่ขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่พี่ป้าน้าอามอบให้ วันนั้นเป็นวันที่ตนต้องเสียน้ำตา เพราะไม่ว่าตนจะไปจุดไหน ก็จะมีพี่ป้าน้าอามาร้องไห้กับความพ่ายแพ้ของตน แต่นั้นคือสิ่งที่ทำให้ตนมีกำลังใจในการออกไปหาพี่ป้าน้าอาทุกวัน และบอกตัวเองว่าวันนี้จะแพ้ไม่ได้อีกแล้ว
“ผมจะต้องชนะเพื่อทวงศักดิ์ศรีให้พี่ป้าน้าอา และพี่น้องคนหลักสี่ คนจตุจักร ทุกคน วันอาทิตย์ที่ 30 ม.ค.นี้ เราจะชนะไปด้วยกัน แล้วผมจะแบกเอาศักดิ์ศรีคนหลักสี่ และคนจตุจักรเข้าสภาฯ” นายสุรชาติ กล่าวทิ้งท้าย
Source link
from World eNews Online https://ift.tt/3o5Xvhm
via World enews
Labels: news, World eNews Online, worldnews
0 Comments:
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home