ใครจะไปทนไหว “ครอบครัวชินวัตร” Top Down ไม่เห็นค่าคน เล่นเกมยื้อขับงูเห่า กะตีให้ตาย สุดท้ายจะไหลออกเป็นกองทัพ! ** เอาที่สบายใจเลยลุง! บารมี “ลุงป้อม”จะนำพปชร. ชนะศึกเลือกตั้ง-ลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯ
ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ใครจะไปทนไหว “ครอบครัวชินวัตร” Top Down ไม่เห็นค่าคน เล่นเกมยื้อขับงูเห่า กะตีให้ตาย สุดท้ายจะไหลออกเป็นกองทัพ!
ความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยที่จะจัดการกับ “7งูเห่า” หลังจากโหวนสวนมติพรรครับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2566 โดยทางพรรคมอบให้คณะกรรมการวินัยจริยธรรม เชิญส.ส.ที่ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค มาชี้แจงครั้งแรก วันที่13 มิ.ย. เพื่อสอบถามสาเหตุ
แต่เห็นว่าล่าสุด พรรคเพื่อไทยจะไม่เร่งกระบวนการสอบสวน และส่งให้กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคลงมติขับออกจากพรรคในเร็ววัน จะไม่นำเรื่องการไม่โหวตตามมติพรรค มาเป็นหนึ่งในข้อกล่าวหา เนื่องจากรัฐธรรมนูญให้เอกสิทธิ์ส.ส.ในการลงมติ การขับออกจะไม่ทำให้เสร็จโดยเร็ว เพราะกลัวว่า จะเป็นการเข้าทางกลุ่มส.ส.ที่ต้องการจะย้ายออกจากพรรค หากโดนขับออก ก็สามารถหาพรรคการเมืองใหม่สังกัดได้ใน 30 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด
แนวทางของพรรคเพื่อไทย เลยจะเล่นเกมยื้อโดยใช้วิธีการพิจารณา สอบสวน ทยอยเรียกมาชี้แจงให้ยาวนานที่สุด เพื่อที่จะไม่ให้กลุ่มส.ส.ดังกล่าว หาพรรคสังกัดใหม่ได้ทันเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
นี่แม้จะคิดสางแค้นด้วยวิธีดัดหลัง แต่ตามหลักแล้ว หากมีการยุบสภา ส.ส.จะต้องหาพรรคสังกัดใหม่ ภายใน 30 วัน และหากรัฐบาลอยู่ครบวาระ ส.ส.ต้องหาพรรคสังกัดภายใน 90 วัน เชื่อว่า ในทางการเมือง ส.ส.ที่ไม่อยากอยู่กับพรรคเพื่อไทย อาจจะแก้เกมโดยเลือกใช้วิธี หากพ้นเดือนกันยายนไปแล้ว พรรคเพื่อไทยยังไม่ขับออก ก็จะขอลาออกจากส.ส. เพื่อไปสมัครเป็นสมาชิกกับพรรคการเมืองใหม่ได้อยู่ดี
ฟังว่าสิ่งที่พรรคเพื่อไทยหวั่นใจ ตอนนี้คาดว่าในการลงมติช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ในเดือนกรกฎาคมนี้ อาจจะมีส.ส.ที่ยังไม่เคยแสดงตัว แต่มี “สัญญาใจ” กับพรรคการเมืองอื่น จะฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมติพรรคเพิ่มจำนวนมากขึ้น เนื่องจากเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายในรัฐบาลประยุทธ์ หลังจากนั้นไม่ว่า “พล.อ.ประยุทธ์” จะเลือกแนวทางยุบสภาฯ หรือ อยู่ครบวาระตามรัฐธรรมนูญ จะเหลือเวลาเพียงไม่กี่เดือนที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ จึงทำให้ส.ส.ที่คิดจะย้ายพรรค กล้าแสดงตัว เปิดเผยเจตจำนงทางการเมืองมากขึ้น
ฟากฝั่ง “งูเห่า” อย่าง “จักรพรรดิ ไชยสาส์น” ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย 1 ใน 7 ส.ส.ที่โหวตสวนมติพรรค ดูเหมือนจะโนสน โนแคร์ ว่ายอมรับได้หมด ถ้าจะพยายามยื้อออกไปก็รับได้ หรือจะขับออกก็รับได้ หรือจะให้อยู่กันไปอย่างนี้ก็ไม่เป็นไร
ขณะเดียวกัน ตั้งข้อสังเกตว่าตลอดการอภิปรายงบประมาณ 3-4 ครั้งที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทย อย่างมากก็ “งดออกเสียง” แล้วจะได้ไปคุยต่อใน วาระ2 แต่ทำไมครั้งนี้กลายเป็น ไม่รับหลักการ คิดอะไรอยู่ มีแผนอะไร
ตราบใดที่กระบวนการบริหารพรรคยังเป็นอย่างนี้ บริหารแบบ Top Down หรือมองจากบนลงมาล่างเพียงอย่างเดียว ส.ส.ไม่สามารถสะท้อนความเห็นอะไรได้เลย ทำให้ส.ส.หลายคนเริ่มอึดอัด และไม่ได้มีเฉพาะตนเองเพียงคนเดียว
“จักรพรรดิ” ยังยอมรับว่า เลือกตั้งครั้งหน้าจะไปอยู่กับ “ภูมิใจไทย”
เพราะ ตั้งแต่สมัย “ประจวบ ไชยสาส์น” ผู้เป็นบิดา , “ชวรัตน์ ชาญวีรกูล” บิดา “อนุทิน” , “ชัย ชิดชอบ” บิดา “เนวิน” ต่างเป็นนักการเมืองรุ่นใกล้เคียงกัน มีความคุ้นเคย รักใคร่กันดี จนมาถึงรุ่นลูก “เนวิน- อนุทิน” และตัวเองต่างคุ้นเคยกันดี การเลือกตั้งครั้งหน้า จึงขอไปอยู่กับพรรคที่รู้สึกสบายใจดีกว่า
อย่างที่รู้ๆกัน ในพรรคเพื่อไทย เวลานี้อ้างการปรับโครงสร้างถ่ายเลือดใหม่ โดย “ทักษิณ ชินวัตร” ให้ชูลูกสาว “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ขึ้นเป็น “หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย” ส.ส.สายเชลียร์ ต่างก็ยกให้เป็น “ศูนย์รวมจิตใจ” ของคนเพื่อไทย แต่ในทางปฏิบัติ ก็เพียงต้องการผลทางจิตวิทยาต่อลูกพรรคว่า “ครอบครัวชินวัตร”ยังดูแลพรรค เป็นเจ้าของพรรค ที่ปลุกความเชื่อว่า เลือกตั้งครั้งหน้าจะพาส.ส.เข้ามาแบบ “แลนด์สไลด์” ยึดอำนาจรัฐคืนมาให้ได้ แต่การบริหารจัดการแบบ “บนลงล่าง” อย่างที่ “จักรพรรดิ” สัมผัสมา ก็สะท้อนว่า พรรคไม่ให้ค่าคนที่เคยอยู่ร่วมกันมา
ตัวอย่างไม่ใช่แค่ “7งูเห่า” ใครที่มีแนวโน้มจะตีตัวออกห่าง ก็จะโดนกีดกันกระทำแบบไม่ให้เกียรติกัน ถูกบางคนปักธงไว้ว่าจะไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง
บางคน ตอนอภิปราย ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ. 2566 พรรคได้ตัดคลิป และโพสต์คลิป ส.ส.คนหนึ่งที่อภิปราย ลงในโลกโซเชียลพรรคไปแล้ว ต่อมาได้ลบออก เพียงเพราะบางคนมองว่า รอบหน้าคงจะย้ายพรรค จับขึ้นบัญชีดำเอาไว้ ไม่ให้ความเป็นธรรม ทั้งที่คนๆ นั้น ยืนยันตลอดจะขอร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ไม่ไปไหน
สรุปว่า งานนี้ “ครอบครัวชินวัตร” จัดให้ด้วยความแค้น ไม่เห็นค่าคน ไม่สนหัวใคร กะจะตีให้ตาย แบบนี้ใครจะไปทนไหว คนในพรรคอึดอัดขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายแทนที่จะหยุดอยู่แค่งูเห่าไม่กี่ตัว จะพัฒนาไหลออกเป็น “กองทัพงูเห่า”…โปรดติดตามอย่ากระพริบตา
** เอาที่สบายใจเลยลุง! บารมี “ลุงป้อม”จะนำพปชร. ชนะศึกเลือกตั้ง-ลุงตู่กลับมาเป็นนายกฯ
ขณะที่เทศกาลม็อบไล่ลุงตู่ “ประยุทธ์ออกไป” ผุดกันขึ้นมาอีกวาระ ราวกับจะแข่งกับเทศกาลดนตรีในสวนที่กำลังเป็นกระแส และขณะที่คอการเมืองวิพากษ์วิจารณ์ความนิยมของรัฐบาลลุง ตกต่ำ และพรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นแกนหลักรัฐบาลก็ดูจะสาละวันเตี้ยลง จากปัญหาภายใน อนาคตมองไม่เห็นว่าจะกลับมาอย่างไรในการเลือกตั้งครั้งหน้า
“ไพบูลย์ นิติตะวัน” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กลับมองตรงกันข้ามว่า ความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้ง หลัง “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มอบหมายแกนนำพรรครับผิดชอบแต่ละภาคแล้วว่า เมื่อทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ งานนี้จะมีเฮ!!
ถามว่า ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน “ไพบูลย์” บอกว่า ตอนนี้เสถียรภาพของพรรคดีมาก ทุกฝ่ายเป็นเอกภาพ แบ่งหน้าที่กันเรียบร้อยแล้ว ไม่มีความขัดแย้งกัน เชื่อว่าถ้าพรรคมีความเข้มแข็ง เลือกตั้งจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายอย่างที่หัวหน้าพรรคตั้งใจไว้… ย้ำว่า ทั้งหมดนี้ “ลุงป้อม” หัวหน้าพรรคกำกับดูแล เรียกว่าเป็น “แม่ทัพ” สู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน เพราะเป็นเสาหลักศูนย์รวมจิตใจของส.ส.พรรคทุกคน
ดังนั้น สิ่งนี้คือจุดแข็งของพรรค “ลุงป้อม” เป็นแม่ทัพ จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับ ส.ส.ทุกคน รวมทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้งใหม่ที่จะเข้ามา
ผู้นำต้องมีบารมีพอที่จะควบคุมให้พรรคเดินหน้าได้ เรียกว่า “ลุงป้อม”มีครบครัน มั่นใจว่าเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคพลังประชารัฐยังเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ สิ่งสำคัญ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยังจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐฒนตรี ที่พรรคจะเสนอชื่ออีกครั้งอย่างแน่นอน ซึ่งสะท้อนว่า “พี่น้อง 3ป.” ลุงป้อม-ลุงตู่ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเสมอ
งานนี้จะเป็นอย่างไร คงอยู่ที่ประชาชนจะตัดสิน ก็ต้องรอดูกันต่อไป วันนี้ก็เอาที่ลุงสบายใจไปก่อนก็แล้วกันนะจ๊ะ
Source link
from World eNews Online https://ift.tt/BFhf17N
via World enews
Labels: news, World eNews Online, worldnews
0 Comments:
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home