ชาวดอย KUB Coin ฝากถึง “อาทิตย์ SCB -ท็อป จิรายุส” เจ็บนี้อีกนาน ** ฮั่นแน่! รู้นะคิดอะไรอยู่ “พ่อมดดำ-สุชาติ ” ฟาด ประยุทธ์ -พปชร. สร้างผลงานหวังกลับเข้าคอก”โทนี่”?
ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ชาวดอย KUB Coin ฝากถึง “อาทิตย์ SCB -ท็อป จิรายุส” เจ็บนี้อีกนาน
กรณี “เอสซีบี เอกซ์” ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงความคืบหน้าการเข้าลงทุนในบริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด มูลค่า 1.78 หมื่นล้านบาท โดยระบุขยายเวลาการเข้าทำธุรกิจเดิมออกไปอย่างไม่มีกำหนด
เดิมนั้น ดีลนี้ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) บริษัทลูก ของยานแม่ SCBX ที่จะเข้าครอบงำกิจการตลาดคริปโตฯทางลัด เคยคาดว่า ธุรกรรมเทกโอเวอร์ บิทคับจะทำเสร็จสิ้นภายในไตรมาสแรกของปี 2565 แต่ผ่านมา 8 เดือน ล่วงเลยการเข้าทำ “ดีลดิจิเจนท์” หรือ การเข้าตรวจสอบธุรกิจของบิทคับ ก็ไม่มีวี่แววจะออกหัวออกก้อย ผู้ถือหุ้นทวงถาม ผู้บริหารก็เงียบกริบ
จน”ดาวมฤตยู” ย้าย SCBX ค่อยประกาศ ขอแจ้งให้ทราบว่า การเข้าทำธุรกรรมซื้อขายหุ้นใน Bitkub ดังกล่าวอยู่ภายใต้การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง และมีเงื่อนไขว่า ผลการสอบทานธุรกิจของ Bitkub ในส่วนที่เป็นสาระสำคัญต้องเป็นที่น่าพอใจ และคู่สัญญาได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้นครบถ้วน
ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างกระบวนการสอบทานธุรกิจ และระหว่างการหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง โดยมีการขยายเวลาการเข้าทำธุรกรรมออกไปจากกำหนดการเดิม
พูดง่ายๆ ดีลนี้ภาษาชาวบ้านเขาเรียกว่า “เท” กันนั่นแหละ ส่วนเหตุผลที่จะทำให้ “ไปต่อไม่ได้” มีตั้งแต่ ตลาดคริปโตฯในวันนี้ดิ่งเหวแบบกู่ไม่กลับ ย่อมกระทบมูลค่าตลาดของบิทคับ ลดลงไปตาม ประกอบกับไม่มีใครรู้ว่า SCBX ไปเจออะไรในระหว่างทำดีลดิลิเจนท์ “ตรงปก” หรือ “ไม่ตรงปก” อย่างไร จึงขอผัดผ่อนตรวจสอบไปแบบไม่มีกำหนด
ที่แน่ๆ ภาพลักษณ์ของ “บิทคับ” กับภาพจริงอาจจะสวนทางกัน ไปย้อนประวัติการถูก ก.ล.ต.ตรวจสอบก็จะเห็นว่า ยูนิคอร์น รายนี้มีปัญหามาตั้งแต่เริ่ม ทั้งระบบงาน ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ธรรมาภิบาล ที่ถูก ก.ล.ต.สั่งให้แก้ สั่งปรับ โดยเฉพาะการพิสูจน์ตัวตน หรือ KYC ของลูกค้า และ Market Maker ซึ่งปรากฏมาในรูปของบัญชีปลอม หรือ “บัญชีม้า” เป็นจุดอ่อนของ บิทคับ
นี่เป็นเรื่องที่คนในวงการเขาวิตกกัน พวกบัญชีม้า นอมินี ถ้าแฝงเข้ามามากไม่ดูให้ดีๆ พวกนี้สามารถใข้ช่องทางทำเรื่องผิดกฎหมายได้เพียบ ทั้งฟอกเงิน และ ปั่นตลาด
บัญชีปลอมก่อปัญหาแค่ไหนก็ลองดู เหตุผล “อีลอน มัสค์” มหาเศรษฐีเจ้าของเทสลา ที่บอกลาดีลซื้อทวิตเตอร์ นั่นปะไร
ขณะที่ตอนประกาศดีลว่า SCBX จะเข้าเทกฯบิทคับ เหรียญ KUB ของบิทคับ ราคาไต่ระดับพุ่งทะยานขึ้นไปเรื่อยๆ มากกว่า 1000% มีนักเทรดที่แห่แหนเข้ามาเก็งกำไรกันครึกครื้น แต่ก.ล.ต.ตรวจไปตรวจมา กลับว่า KUB เข้ามา ลิสต์ในตลาดตัวเองแบบไม่ได้มาตรฐานตั้งแต่แรก แถมปีแรกๆ “สร้างดีมานด์เทียม” อีกต่างหาก โดย Market Maker กับผู้บริหารบิทคับเอง รู้เห็นเป็นใจถูกก.ล.ต.สั่งปรับเป็นเงินหลายล้าน และสั่งแบนผู้บริหารไม่ให้มาข้องแวะบิทคับอีกหลายเดือน
ไม่นับรวมเรื่องการทำการตลาดแบบ “บ้าคลั่ง” ของบิทคับ ที่ปูพรมแคมเปญ10บาท ก็เล่นได้ เข้าถึงกลุ่มเยาวชน เด็กมหาวิทยาลัย จ้าง “เอนฟูเอนเซอร์” ดารา คนดัง เน็ตไอดอล อีกมากมายแทรกซึมไปตามรั้วโรงเรียน และสถานศึกษา สร้างลัทธิ “บิทคับ” ฝังหัวให้วัยรุ่น วาดหวัง “สร้างตัวด้วยคริปโต” ซึ่งตอนนี้ก็พิสูจน์แล้วว่า “ตลาดซิ่ง” นั้นอันตรายแค่ไหน ไม่ต่างกับ”บ่อนพนัน” ที่นักเล่นหมดเนื้อหมดตัวเอาง่ายๆ สุดท้ายกลายเป็น”ชาวดอย” ที่ติดเหรียญอยู่ที่ราคาสูงๆ หาทางลงไม่ได้จนถึงทุกวันนี้
“อาทิตย์ นันทวิทยา” หัวเรือใหญ่ SCB แม้จะชื่นชอบ “ท็อป” จิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้ง บิทคับ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ใกล้ชิดสนิทสนมเพียงใด ต้องการอยากจะจบดีลใจจะขาด แต่หากเรื่องแบบนี้ยังปรากฏให้เห็นกับ บิทคับ แน่นอนว่ามันเหมือนไวรัสโควิด ที่ระบาดติดต่อจะทำให้ภาพลักษณ์ธนาคารเก่าแก่ดูแย่ไปตามกัน ถ้ายังดันทุรังไปต่อ ก็ต้องมีคำตอบที่ชัดเจนให้ผู้ถือหุ้นกันดีๆ ก็แล้วกัน
ส่วนฝ่าย “ท็อป จิรายุส” ก่อนนี้ว่ากันว่า ถ้าดีล 17,850 ล้าน ระหว่างไทยพาณิชย์ กับบิทคับ ลุล่วง มีการประเมินกันว่า “ท็อป จิรายุส” ผู้ก่อตั้ง บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จะมีเงินไหลเข้ากระเป๋าส่วนตัว 4,260 ล้านบาท จากการเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่เขาถืออยู่ 23.87%
จากที่กำลังจะรวยเละ ตอนนี้ดีลส่อเละ เพราะ SCBX เลื่อนไม่มีกำหนด ก็ไม่รู้ว่าจะยังมีหวังอยู่แค่ไหน ? แต่ชาวดอย KUB Coin ฝากมา เขาหมดหวังกับบิทคับ ไปนานแล้ว และที่โดนแกงครั้งนี้ บอกได้คำเดียว…เจ็บนี้อีกนาน!!
** ฮั่นแน่! รู้นะคิดอะไรอยู่ “พ่อมดดำ-สุชาติ ” ฟาด ประยุทธ์ -พปชร. สร้างผลงานหวังกลับเข้าคอก”โทนี่”?
มีคนจับอาการ “สุชาติ ตันเจริญ” หรือ พ่อ“มดดำ”คชาภา ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ดูแปลกๆ ตั้งแต่ออกมาอัด “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ฟาดหวดทำนองสั่งสอนให้มีความรับผิดชอบต่อสภาฯ อย่าชิ่งหนีตอบกระทู้เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า อยู่ดีๆ “พ่อมดดำ” เกิดเฮี้ยบขึ้นมานั้น ผิดปกติวิสัย แถมหมู่นี้ให้ความเห็น “ด้อยค่า” พรรคพลังประชารัฐของตัวเองทำประชาชนเดือดร้อน แบบที่ถ้าคอการเมืองมองผ่านๆ ก็รู้สึก “สะใจ” และพูดได้ตรงใจประชาชน เพราะ “ลุงตู่” กำลังอยู่ในช่วง “ขาลง” และ พปชร. ก็ไม่ปึ้กเหมือนก่อน แต่ความนี้ถ้าถามฟากฝั่งรัฐบาล และส.ส.พลังประชารัฐ ก็ชักไม่พอใจ “สุชาติ” ยิ่ง “ศึกอภิปราย” ที่จะมีขึ้นหลังเทศกาลวันหยุดยาวก็พลันมีคำถาม รองประธานสภาฯ อัดนายกฯ แบบนี้ จะทำหน้าที่ประธานประชุมสภาฯ ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างไร?
ด้อยค่าพรรคตัวเอง เห็นที “สุชาติ” จะไม่เหมาะทำหน้าที่ ประธานการประชุม อภิปรายไม่ไว้วางใจ เสียแล้ว
“สุชาติ” นั้นนอกจาก เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 สมัยที่ 2 ของพรรคพลังประชารัฐ อดีตเคยเป็น รมช.มหาดไทย ส.ส.ฉะเชิงเทรา 9 สมัย อดีต รองหัวหน้าพรรคชาติไทย และพรรคไทยรักไทย อีกทั้งยังเป็นอดีตส.ส.ในกลุ่ม 16 ตำนานกลุ่มการเมืองชื่อดังในอดีต และแกนนำกลุ่มบ้านริมน้ำ
“สุชาติ” ถือเป็นนักการเมืองที่มากสีสันผู้หนึ่ง ตอนเข้าพปชร. คนก็ไม่แปลกใจ เพราะ “สุชาติ” อยู่ข้างทหารมาตลอด สมัยเป็นส.ส. พรรคสามัคคีธรรม ก็เคยโหวต “บิ๊กสุ” พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกฯ
วีรกรรมส่วนตัวสมัยกำลังคึก มีกรณีสมัยเป็น รมช.มหาดไทย จนได้ฉายา”ตี๋กร่าง”
สมัย “รัฐบาลอภิสิทธิ์” ก็ส่ง “นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์” ภรรยา มาเป็นรมช.ศึกษาธิการ ซึ่งถ้าจำได้ มีคดี “ไทยเข้มแข็ง” ที่อื้อฉาวเกิดขึ้นช่วงนั้น และพบชื่อ “สุชาติ” ถูกป.ป.ช. สอบพร้อม“นริศรา” ภรรยา และ พวกรวม 17 ราย
พอมาถึงสมัยรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ “พ่อมดดำ”มาอยู่ พปชร. ซึ่งก็รู้อยู่แล้ว พปชร. เสนอ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ และพรรคได้ผลักดันให้ เป็นรองประธานสภาฯ ดังที่เห็น
มาวันนี้ “สุชาติ” ปล่อยของ บอกว่าลงมติให้“ประยุทธ์” แล้วบอกคิดผิด ด่า “ประยุทธ์” ทำประเทศเสียหาย
คำถามจากคนในพปชร. จึงมีว่า “พ่อมดดำ” ทำแบบนี้ เป็นผู้กตัญญู หรือไม่ พปชร. มีบุญคุณ ให้เป็นรองประธานสภาฯ จะไปอยู่ “เพื่อไทย” กับ “โทนี่ วู้ดซั่ม” ทักษิณ ชินวัตร ต้องด่าประยุทธ์ ด่า พปชร. เป็นใบเบิกทาง เพื่อไปสมัครเป็น “ครอบครัวเพื่อไทย” ที่กำลังสร้างภาพ สร้างความเชื่อว่า “แลนด์สไลด์” โดยอ้างชาวบ้านมาเป็นเหตุผล แบบนี้มันใช่เหรอ ?
เรียกว่างานนี้ รู้นะ “สุชาติ” คิดอะไรอยู่ !
** ใครหว่า? “นายกสมาคมกีฬา” เลวบัดซบ ชนแล้วหนี ให้ลูกที่เป็นตำรวจวางแผนหาแพะรับแทน
กลายเป็นประเด็นร้อนที่โซเชียลฯ สนใจติดตาม หลังจาก “ทนายตั้ม” ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ออกมาเปิดเผยเรื่องราวอื้อฉาว
“ษิทรา” โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า เมื่อวันก่อนมีเหยื่อเมาแล้วขับมาขอคำปรึกษา ผู้ก่อเหตุเป็นคนดัง และยศใหญ่โตแห่งแวดวงกีฬาแห่งประเทศไทย มีฐานะร่ำรวย ขับรถราคาแพง แต่ชนแล้วให้ลูกชาย ที่มียศตำรวจมาวางแผนหาคนรับผิดแทน เนื่องจากรถไม่มีประกัน คลิปหลักฐานมีหมด ไม่รอดแน่ แถมตัวเองก็น่าจะเมากรึ่มอยู่ สุดท้ายหนีหายไม่รับผิดชอบ
ทำแบบนี้กับประชาชนตาดำๆ ได้ยังไงครับ ผมให้เวลาคุณติดต่อเหยื่อ เพื่อรับผิดชอบ 24 ชั่วโมง ถ้าไม่ติดต่อมา เรื่องใหญ่แน่ ทำผิดก็ต้องรับผิดครับ #ตำรวจรังแกประชาชนอีกแล้ว #รวยแล้วหนีทำไม
ตำรวจดีๆ ก็มี แต่ถ้าไม่ดี ต้องทำให้ไม่มีที่ยืนครับ มีปัญญาขับรถหรู ก็ช่วยทำประกันด้วยนะครับ เกิดเหตุอะไรขึ้นมาจะได้มีคนจ่าย ไม่ต้องหนีหาย สร้างภาระให้กับคนอื่น”
“ทนายษิทรา” ยังฝากคำใบ้ ผู้ก่อเหตุคดีนี้ ในความเห็นของโพสต์ด้วยว่า คือ “นายกสมาคมกีฬาแห่งหนึ่งแห่งประเทศไทย” ซึ่งปรากฏต่อมามีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก ต่างระบุถึง ความเลวบัดซบที่ยอมรับไม่ได้กับ “คนใหญ่โต” ดังกล่าว และต่างช่วยกันไขปริศนาชายลึกลับผู้นี้ จะเป็นใครหว่า? กระแสหนึ่งก็ชี้ไปที้นายกสมาคมกีฬายอดฮิตของคนไทย อีกกระแสก็บอกว่า ไม่ใช่
เอาเป็นว่า นาทีนี้หลายคนคิดตรงกันว่า น่าจะเป็น “คนที่คุณก็รู้ว่าใคร” ก็รอทนายตั้มมาเฉลยก็แล้วกัน
Source link
from World eNews Online https://ift.tt/2vhLHZG
via World enews
Labels: news, World eNews Online, worldnews
0 Comments:
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home