เรื่องใหญ่กว่านายกฯ8ปี
นายกฯ ๘ ปี ไม่ใช่ศูนย์กลางของจักรวาลครับ
ไม่ต้องดิ้น ไม่ต้องพล่าน
แค่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย จบแบบไหนก็เป็นแบบนั้น
แล้วเดินหน้ากันต่อ
มีนักการเมือง นักกฎหมายบางคนสื่อทำนองว่า คนที่บอกว่าให้รอศาลรัฐธรรมนูญตีความ คือการใช้ปัญญาครึ่งเดียว
ผิดกับตัวเองไปไกลกว่า เพราะสติปัญญาเจริญงอกงามมากจากการถกเถียง
และบอกว่าการรอให้คนอื่นตัดสิน โดยไม่หาความรู้เลย ไม่ใช่พลเมืองในระบอบประชาธิปไตย
ฟังดูเหมือนทำตัวให้ฉลาดเข้าไว้
ก็เพราะไม่มีใครฟังใคร แต่ละคนเป็นผู้รู้กันหมด ก่อนศาลตัดสินวิจารณ์กันเข้ารกเข้าพงทั้งคนพูดคนฟัง สุดท้ายกลายเป็นการสร้างชุดข้อมูลขึ้นมา แถมยังบอกไม่ให้เชื่อศาลอีก แล้วปักใจเชื่อกันตามนั้น
เมื่อศาลวินิจฉัยออกมาต่างออกไป…ฉิบหายซิครับ ไม่มีใครฟังศาล เพราะคิดว่าข้อมูลแรกที่ได้รับมานั้นถูกต้อง
มันเป็นแบบนี้มานับ ๑๐ ปีแล้วครับ
การวิจารณ์ทำได้เสมอในทุกเรื่อง แต่ต้องไม่ละเมิดผู้อื่น หรือผิดกฎหมายอื่นใด
แต่เมื่อถึงเวลาหยุดฟังก็ต้องหยุด
กรณีนายกฯ ๘ ปี ขณะนี้ควรรอครับ
รอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ที่วิจารณ์กันว่ามี ๓ แนวทาง “ลุงตู่” ไปหรือไม่ไปตอนไหน พูดกันมาเยอะแล้ว พูดอีกก็เหมือนเดิม จะพูดใหม่ก็พูดได้ แต่ไม่ควรยึดเอาตามความคิดตัวเอง แล้วไปกดดันศาลรัฐธรรมนูญ
ให้ศาลวินิจฉัยตามแนวทางที่ตนเห็นด้วยเท่านั้น
ถ้าต่างออกไป คือรุมยำศาล
ตอนนี้นักการเมืองจากพรรคเพื่อไทยกำลังทำเรื่องที่ว่านี้อยู่
ประทานโทษ คำสั่งศาล กับ คำวินิจฉัยศาล ยังแยกไม่ออก แต่ดันทำตัวเป็นผู้รู้
“ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย” พูดไว้ตามนี้ครับ
“…หลังคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญก็ยังไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนคนไทยได้ แต่ในทางตรงกันข้ามกลับยิ่งสร้างข้อกังขาและนำไปสู่คำถามตามมาอีกมากมายว่า สรุปแล้วประเทศไทยจะเดินหน้าไปในทิศทางไหน…”
ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องแล้วออกคำสั่งให้นายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย
ศาลยังไม่ได้วินิจฉัยครับ
ที่จริงไม่อยากหยิบเอาคำพูดเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้มาพูดถึงสักเท่าไหร่ เพียงแต่นี่คือมาตฐานการแถลงข่าวของนักการเมืองในนามพรรคการเมือง
มันคือการโจมตีศาล
หลับตานึกภาพล่วงหน้าได้เลยครับ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ๒๓ สิงหาคมที่ผ่านมาไม่ใช่วันครบ ๘ ปี ในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ “ลุงตู่” พรรคเพื่อไทยกับมวลชนของเขาจะดิ้นเป็นไส้เดือนถูกขี้เถ้า
ไม่ใช่เรื่องของกฎหมาย
แต่มันไม่ถูกใจ
มันก็เหมือนที่ “ชลน่าน ศรีแก้ว” เอาแต่ไล่ให้ “ลุงตู่” ลาออก แต่ตอนที่มวลมหาประชาชนออกมาเรียกร้องให้ “ยิ่งลักษณ์” ลาออก วันนั้นหายหัวไปไหน
ครับ..มีเรื่องใหญ่กว่านายกฯ ๘ ปีเยอะ
โลกกำลังเข้าสู่วิกฤตอดอยาก
เฟซบุ๊ก Kobsak Pootrakool ของ กอบศักดิ์ ภูตระกูล อดีต ๔ กุมาร เขียนไว้ให้คิดหาวิธีเตรียมตัวกันล่วงหน้าครับ
…วิกฤตอาหารโลก …. “ข้าวจะยาก หมากจะแพง” ยิ่งขึ้น
ภัยแล้งที่รุนแรงสุดในรอบ ๕๐๐ ปีในยุโรป รวมถึงภัยแล้งในจีนและพื้นที่อื่นๆ
กำลังจะทำให้วิกฤตอาหารโลกลุกลามยิ่งขึ้นไปอีกระดับ
ภาพของแม่น้ำที่แห้งขอดจนถึงพื้น
ซากเมือง
ซากเรือจม
Spanish Stonehedge
Hunger Stones หรือหินของความหิวโหยที่คนเมื่อช่วงศตวรรษที่ ๑๕
สลักฝากข้อความไว้ที่หินใต้แม่น้ำว่า “If you see me, cry” หรือ “ถ้าคุณเห็นข้อความนี้ จงร้องไห้เถอะ”
รวมไปถึงพระพุทธรูปเก่าแก่ในจีนอายุ ๖๐๐ ปี ที่โผล่จากน้ำขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
กลายเป็นภาพจำที่กำลังออกมาให้ทุกคนได้เห็น ได้ตื่นเต้น กับสิ่งที่ไม่ค่อยได้เห็นเหล่านี้
แต่ข้างหลังภาพดังกล่าว คือ สัญญาณอันตรายที่ชี้ว่า วิกฤตอาหารโลกจะแย่ขึ้นจากเดิม
สองในสามของยุโรปกำลังเผชิญภาวะภัยแล้ง ดังเห็นในแผนที่ด้านล่าง
ปัญหาได้กระจายไปยังทุกพื้นที่
โปรตุเกส สเปน ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี อิตาลี และประเทศอื่นๆ ในยุโรปตะวันออก ต่างถูกกระทบการผลิตของข้าวโพด ข้าวสาลี น้ำมันโอลีฟ ถั่วเหลือง เมล็ดดอกทานตะวัน
นอกจากนี้ แม่น้ำที่แห้งยังกระทบต่อไปยังการขนส่งทางน้ำ ซึ่งเป็นช่องทางขนส่งสำคัญของยุโรป ที่จะไม่สามารถขนส่งสินค้าเกษตรได้ในช่วงนี้ ทำให้ผลผลิตเกษตรที่ออกมาสู่โลกลดลง
ในพื้นที่อื่นๆ ของโลก ก็ประสบปัญหาภัยแล้งเช่นกัน
สหรัฐตะวันตกก็กำลังเผชิญปัญหานี้อย่างรุนแรง ทำให้ผลผลิตฝ้ายปีนี้ลดลง ๔๐0%
จีนตะวันตกเฉียงใต้ ที่แม่น้ำแยงซีที่ระดับน้ำลดลงและแห้งขอดในบางส่วน
กระทบต่อการผลิตข้าว ข้าวโพด
นอกจากภาคการเกษตรแล้ว ยังกระทบการขนส่งทางน้ำ และการผลิตกระแสไฟฟ้า
บางมณฑลเช่น เสฉวน ที่พึ่งพาไฟฟ้าจากเขื่อน ต้องประหยัดการใช้ไฟฟ้า หยุดจ่ายในบางส่วน
กระทบไปถึงการผลิตของโรงงานสำคัญหลายแห่ง เช่น Toyota Foxconn Tesla
ในส่วนของแอฟริกา ความแห้งแล้งในพื้นที่ Greater Horn of Africa ได้ส่งผลกระทบต่อ เอธิโอเปีย เคนยา โซมาเลีย
ทำให้คนหลายสิบล้านคนกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร
หมายความว่า ระดับของความรุนแรงของวิกฤตอาหารโลกที่จะเพิ่มขึ้น
ซ้ำเติมปัญหาเดิมที่เกิดมาจาก สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่กระทบสินค้าเกษตรบางอย่างเช่น ข้าวสาลี
ปัญหาปุ๋ยแพง จากการ Sanctions รัสเซียและเบลารุส ที่ทำให้เกษตรกรทั่วโลกต้องประหยัดการใช้ปุ๋ย ทำให้ผลผลิตออกมาน้อยในฤดูกาลนี้
แล้วยังมาถูก “ผีซ้ำด้ำพลอย” จากภัยแล้ง
ทั้งหมดนี้จะทำให้ปัญหาเงินเฟ้อในบางประเทศ เช่นในยุโรปและประเทศต่างๆ อาจจะอยู่ในระดับสูงไปอีกระยะ จากราคาอาหารที่เพิ่มขึ้น และจากราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มสูงขึ้นจากการลดและหยุดส่งก๊าซของรัสเซีย
ยุคข้าวยากหมากแพง คนอดอยาก กำลังมาเยือน
โชคดีที่ไทยเราเป็นผู้ผลิตอาหาร เราคงได้รับประโยชน์บางส่วน และผ่านเรื่องนี้ไปได้ครับ…
คนที่อยู่ในอำนาจ เตรียมรับมือไปถึงไหนแล้ว
ส่วนคนที่อยากได้อำนาจคิดอะไรเผื่อไว้หรือยังนอกจากจะพาพ่อกลับบ้าน
ถึงประเทศไทยจะโชคดีที่เราเป็นครัวโลก บรรพบุรุษสร้างมา แต่ความเป็นครัวโลกก็ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะพลเมืองรุ่นใหม่ไม่ให้ความสำคัญมากนัก เนื่องจากทำรายได้ไม่ทันใจ
แต่สุดท้ายแล้ว ประเทศที่ปลูกเองกินเองอย่างไทยนี่แหละครับจะรอด.
The post เรื่องใหญ่กว่านายกฯ8ปี appeared first on .
Source link
from World eNews Online https://ift.tt/iyc7ZUV
via World enews
Labels: news, World eNews Online, worldnews
0 Comments:
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home