World enews: “เศรษฐา” แคนดิเดตนายกเบอร์ 1″อุ๊งอิ๊ง” ที่ 2 ไพ่ในมือ “โทนี่”… “ธรรมนัส” ตัวช่วย หรือตัวซวย!?? **มุกกอดมาอีกแล้ว 3 ป.จะขอไปต่อ “ลุงป้อม” เชื่อพปชร. ไม่มีเลือดไหล!!

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**”เศรษฐา” แคนดิเดตนายกเบอร์ 1″อุ๊งอิ๊ง” ที่ 2 ไพ่ในมือ “โทนี่”… “ธรรมนัส” ตัวช่วย หรือตัวซวย!??

ห้วงเวลาหาเสียงเตรียมเลือกตั้งครั้งใหม่ที่คาดกันว่าจะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ข่าวคราวความเคลื่อนไหวการเมืองก็จะมีมากเป็นพิเศษ

พรรคการเมืองแต่ละพรรคก็ต่างงัดสรรพวิธีมาใช้ เพราะเพื่อสร้างกระแส ปั่นเรตติ้ง แนวนโยบาย และ ตัวบุคคลที่จะขาย ก็มี “หิน” ถูกโยนออกมา สับขาหลอกกันบ้าง อย่างพรรคครอบครัวชินวัตร ของ “โทนี่ วู้ดซั่ม” ทักษิณ ชินวัตร ตอนนี้ก็ตีปิ๊บ “แลนด์สไลด์” รัวๆ แต่จะทำได้ดั่งตั้งเป้ามั้ย นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง เพราะในความเป็นไป “เลือดไหล”ก็ยังไม่หยุด ทุกพื้นที่ที่มั่นในแดนอีสาน จุดชี้วัดแพ้-ชนะก็ใช่ว่าจะมั่นคงเหมือนเดิม

กวาดตามอง คงเหลือพื้นที่ภาคเหนือที่พอจะอุ่นใจได้บ้าง แต่หากอ้าแขนรับ “ผู้กอง” ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้ามาตามที่ลือๆ กันว่าเป็นดีลลับอะไรนั่น ก็แปลว่า “โทนี่” เองก็หวั่นไหว อยากได้ขุนพลมาเสริมทัพ ซึ่งก็ย้อนแย้งตัวเองว่า ไหนบอกมั่นใจจะแลนด์สไลด์ และมั่นใจแล้วหรือกับการเอา “ธรรมนัส” กลับบ้านเก่าจะช่วยได้จริง ? วันนี้มีคำถามว่าธรรมนัส จะเป็น “ตัวช่วย” หรือ “ตัวซวย” พี่โทนี่ น่าจะรู้ดีกว่าใคร

ที่แน่ๆ ตอนนี้ที่ “โทนี่” มั่นใจก็คือตัวเลือก “นอมินี” ที่จะเอามาขาย เป็น “แคนดิเดตนายกฯ” ของพรรคโดยข่าวถูกปูมาเป็นระยะ และมาโหมหนักในเวลานี้ ชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” นักธุรกิจอสังหาฯ เจ้าของแบรนด์ แสนสิริ นั่นเอง

มีข่าวว่า ในชื่อของแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งเสนอได้พรรคละ 3 คน แนวทางของพรรคเพื่อไทย จะชู “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นลำดับแรก ขณะที่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะทำงานด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นลำดับสอง

เรียกว่า ครอบครัวชินวัตร โดย “อุ๊งอิ๊ง” นั้นยังไม่พร้อม ต้องเพิ่ม “เศรษฐา” มาขาย “แพ็คคู่” สู้ศึก!!

“อุ๊งอิ๊ง” ในฐานะผู้ดูแลครอบครัวเพื่อไทย ก็ยอมรับว่าการเปิดชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” ว่าจะเข้ามาเป็นบัญชีแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 1 ส่วนตัวเองอยู่อันดับ 2 ก็ไม่มีปัญหา แต่ขณะนี้พรรคยังไม่ได้เลือก หรือตัดสินใคร หรือแม้แต่รายชื่อที่เสนอออกมา พรรคก็ยังไม่ได้สรุป

ทักษิณ ชินวัตร
เอาเป็นว่า “อุ๊งอิ๊ง” เอ่ยปากผ่านสื่อยังไม่สรุป แต่ “พ่อโทนี่” กลับ “ล็อกเป้า” เลือกคนที่ใช่ของตัวเองไว้แล้ว โดยเหตุผลที่เลือก “เศรษฐา” ในสายตาของทักษิณเชื่อมั่นว่า เป็นผู้มีความเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะ วันนี้ปัญหาปากท้อง และเศรษฐกิจ เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ เครดิตของ “เศรษฐา”ในฐานะเจ้าของกิจการ ก็น่าจะตรงใจกลุ่มเป้าหมายที่อยากได้นายกฯ มาดูเศรษฐกิจ จึงได้มีการประสานหารือกันมาระดับหนึ่ง

ว่ากันว่า ที่ผ่านมา แม้ “เศรษฐา” จะมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลชินวัตร แต่ก็ไม่ได้ตอบรับเสียทีเดียว โดยในทีท่าที่ยังไม่ตอบรับก็ลับฝีปากวิพากษ์วิจารณ์การเมืองอยู่บ่อยครั้ง ไปพลางๆ

เรียกว่า เป็นนักธุจกิจใหญ่ มีใจให้การเมืองมานานแล้ว

จาก ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด “เศรษฐา” มักมีชื่อในโลกโซเชียลฯ อยู่ตลอดในช่วงหลังๆ จากการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง และแน่นอนว่า โทนี่ ย่อม “อวยยศ” ตบรางวัลเป็นขวัญกำลังใจให้คนกันเอง ยกตัวอย่างรางวัล “คนเคลื่อนไทย” ของกลุ่มแคร์ คอมมูนิตี้ ที่ตั้งขึ้นมาให้ “โทนี่” มีเวทีเล่นการเมือง โฆษณา อวดโอ่สรรพคุณของตัวเอง ด้อยค่าฝ่ายตรงข้าม นั่นไง

แพทองธาร ชินวัตร
ว่ากันตามทำนอง “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยเบอร์ 1 ก่อนหน้า “อุ๊งอิ๊ง” ที่เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ก็ไม่ได้ตื่นเต้น หวือหวาอะไร เพราะรู้ๆ กันอยู่…ถือเป็นไพ่ในมือของ “โทนี่” ที่เลือกเล่นไดั

ที่น่าสนใจกว่า เมื่อถึงเวลาสู้รบเลือกตั้งกันจริงๆ “โทนี่ วู้ดซั่ม” จะมีไพ่เด็ดใบไหนหงายออกมาอีกมั้ย ??
นี่ต่างหากที่ต้องติดตามดูกันต่อไป

**มุกกอดมาอีกแล้ว 3 ป.จะขอไปต่อ “ลุงป้อม” เชื่อพปชร. ไม่มีเลือดไหล!!

เพราะการไปปรากฏตัวของบรรดาส.ส.ต่างพรรค ในงานเบิร์ธเดย์ “อาจารย์ใหญ่ เนวิน ชิดชอบ” ที่บุรีรัมย์ เมื่อสัปดาห์ก่อน ถูกตีความว่า เขาเหล่านั้นเตรียมย้ายไปซบพรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล แน่นอน

และในวันนั้นก็มี ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ โผล่ไปให้เห็นหน้าถึง 8 คน จึงมีการวิเคราะห์ วิจารณ์กันว่า พลังประชารัฐ ก็หนีไม่พ้นปัญหา “เลือดไหล” เนื่องจากกระแสความนิยมของพรรค และตัว “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่ในช่วงขาลง แถมมีเวลาเหลือแค่ 2 ปีที่จะเป็นนายกฯได้ ไหนจะยังมีปัญหาเอกภาพภายใน ความขัดแย้งสะสมที่รอวันแตกหักอีก

มีการแจกแจงให้เห็นว่า กลุ่มไหน สายใครบ้าง ที่เตรียมเก็บกระเป๋า โบกมือลา พปชร.

อย่างเช่น กลุ่ม 8 ส.ส.ข้างต้น ที่ไปบุรีรัมย์ในวันนั้น ส่วนใหญ่อยู่ในสายของ “วิรัช รัตนเศรษฐ” ถูกกาหัวว่าไปแน่

ยังมีกลุ่มส.ส.กรุงเทพฯ ที่คิดว่าขืนอยู่ต่อคงไม่แคล้วสอบตก เพราะคนกรุงเบื่อ “ลุงตู่”แล้ว ต้องหาทางขยับขยาย เอาตัวรอดไว้ก่อน … ยังมี 6 ส.ส. “กลุ่มปากน้ำ” ที่เคยโหวตสวนมติพรรคในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเป็นที่รู้กันวงในว่า กลุ่มนี้ไม่กินเส้นกับ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่รั้งตำแหน่งผู้อำนวยการพรรคอยู่ …

ถ้าพรรคปล่อยให้ “เสี่ยเฮ้ง” มีอำนาจบริหารจัดการ คัดคนลงสมัครรับเลือกตั้ง นอกจาก “กลุ่มปากน้ำ” จะไม่อยู่ด้วยแล้ว ตระกูล“คุณปลื้ม” บ้านใหญ่ชลบุรี ก็ไปด้วยเช่นกัน … ยังมี “กลุ่มพ่อมดดำ” ก็จะย้ายกลับไปเพื่อไทย ช่วย “อุ๊งอิ๊ง” ลุ้นแลนด์สไลด์ …
นี่ยังไม่นับถึง “กลุ่มเพชรบูรณ์” ของ “สันติ พร้อมพัฒน์” เลขาธิการพรรค และ “กลุ่มสามมิตร” ที่มี “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” รมว.อุตสาหกรรม และ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม เป็นแกนนำ ซึ่งมีส.ส.อยู่ในกลุ่มประมาณ 20 คน ก็ยังไม่เผยไต๋ ว่าจะเอาอย่างไร จะอยู่หรือไป

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
แถมท้ายด้วยการวิเคราะห์ถึงเส้นทางของ“ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าหากพลังประชารัฐต้องตกอยู่ในสภาพ “แพแตก”ดังว่า “ลุงตู่” ก็คงเผ่นไปเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” นั่งเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ …แต่ก็มีความเสี่ยงเพราะเป็นพรรคตั้งใหม่ จะได้ส.ส.ถึง 25 คน ซึ่งเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ ที่จะทำให้ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี มีผลหรือไม่ก็ไม่รู้ … แต่ถ้าจะให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ ก็คงต่อรองว่าต้องมีคนเดียว ห้ามมี เบอร์ 2 เบอร์ 3

ภาพจึงออกมาเหมือน “ลุงตู่” ก็เตรียมจะโดดหนี “ลุงป้อม” ไปอีกคน

ล่าสุด เมื่อเช้าวานนี้ ก่อนการประชุมครม.“ลุงป้อม” ก็ได้ออกมาสยบกระแสข่าว “เลือดไหล” โดยตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า… ไม่มีใครออกสักคน ไม่มีข่าว มีแต่ข่าวที่พวกคุณพูดไปเอง และย้ำว่าภายในพรรคยังเหนียวแน่น !!

เช่นเดียวกับ“สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” แกนนำ “กลุ่มสามมิตร” ก็ยืนยันว่าไม่ย้ายไปไหน เลือกตั้งครั้งหน้าจะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ และจะยังสนับสนุน “ลุงตู่” เป็นแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1

เมื่อ “ลุงป้อม” และ “สุริยะ” ออกมายืนยันเช่นนี้ กระแสความปั่นป่วน ในพรรคพลังประชารัฐก็ดูจะสงบลง

และด้วยเหตุนี้กระมัง จึงเป็นที่มาของภาพในช่วงหลังการประชุม ครม. ที่ “ลุงป้อม” กำลังยืนสนทนากับรัฐมนตรี ของพรรคพลังประชารัฐ ก็ปรากฏว่า “ลุงตู่” ได้แอบย่องมาทางด้านหลัง แล้วเข้ามาสวมกอด เอามือลูบพุงพี่ใหญ่ พร้อมกับออดอ้อนว่า… “ไม่ไปไหนหรอก แหมมีเรื่องให้ง้อได้ทุกวัน”