Friday, November 4, 2022

มีคนคิดขายชาติ



มีใครหมั่นไส้ “พี่ศรี” บ้างหรือเปล่าก็ไม่ทราบ?

ร้องแล้วครับ

ฟ้องคณะรัฐมนตรีทั้งคณะต่อศาลปกครองสูงสุด โทษฐานแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือครองที่ดิน

ด่ายับเป็นมติอัปยศที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสิ้นไร้ความสามารถที่จะแสวงหารายได้เข้าแผ่นดิน ใช้อำนาจโดยไม่สอบถามเจ้าของประเทศที่แท้จริงเลยว่าจะเห็นชอบด้วยหรือไม่

ขายชาติชัดๆ อันนี้เติมให้ครับ

ท้ายคำฟ้อง “พี่ศรี” ขอให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาเพิกถอนกฎ หรือคำสั่ง หรือสั่งห้ามการนำร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ.. .. ไปใช้ใดๆ

ถ้าศาลปกครองสั่งเพิกถอนก็จบครับ

แต่ถ้าไม่ รัฐบาลก็เดินหน้าต่อ

มี ๒ หน้าเท่านั้น

ใครไม่พอใจก็อย่าถึงขั้นลงไม้ลงมือกับ “พี่ศรี”

ถือซะว่านี่คือหนึ่งในการทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ผู้ที่ได้ประโยชน์คือประชาชนทุกคน ไม่แบ่งแยกว่าขั้วไหน สีไหน หรือกี่นิ้ว

กรณีนี้อธิบายกันมาเยอะ มีทั้งเข้าใจ ไม่เข้าใจ และไม่อยากเข้าใจ

มีคำชี้แจงที่น่าจะชัดเจนที่สุดจาก “นิพนธ์ บุญญามณี” อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงมหาดไทย ที่เคยรับผิดชอบงานกรมที่ดิน           

๑.ความเป็นมาเรื่องนี้เริ่มจากเมื่อปี ๒๕๔๒ มีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน โดยเพิ่มมาตรา ๙๖ ทวิ ขึ้นใหม่ โดยอนุญาตให้คนต่างด้าวซื้อที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ไม่เกิน ๑ ไร่ หากนำเงินมาลงทุนไม่น้อยกว่า ๔๐ ล้านบาท และต้องดำรงการลงทุนไม่ต่ำกว่า ๓ ปี ทั้งนี้ เพราะปี ๒๕๔๐ เกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ประเทศต้องการเงินตราต่างประเทศ

๒.ต่อมาปี ๒๕๔๕ ครม.เห็นชอบกฎกระทรวงออกตามความใน ม.๙๖ ทวิ แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน วางแนวปฏิบัติกรณีคนต่างด้าวนำเงินมาลงทุน ๔๐ ล้านบาทขึ้นไป จะขอซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน ๑ ไร่ และต้องดำรงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า ๕ ปี

๓.นับแต่ปี ๒๕๔๕ ถึงปัจจุบัน มีคนต่างด้าวใช้สิทธิตามกฎกระทรวงฉบับปี ๒๕๔๕ ไป ๑๑ ราย ปัจจุบันขายต่อ ๑ ราย และ ๑ ราย แปลงสัญชาติเป็นไทยไปแล้ว คงเหลือ ๘ ราย

๔.เมื่อปี ๒๕๖๓ เกิดวิกฤตโควิด-๑๙ เศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ต่อมาในปี ๒๕๖๔ ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (ศบศ.) ได้เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ประเทศไทย โดยกำหนดรายละเอียดดังนี้

๔.๑ กำหนดประเภทการตรวจลงตรา (วีซ่า) สำหรับผู้พำนักระยะยาว (Long-term resident visa: LTR) : มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาให้วีซ่าเป็นพิเศษแก่คนต่างด้าว ๔ กลุ่ม ได้แก่ ผู้มีความมั่งคั่งสูง/ผู้เกษียณอายุ/ผู้ที่ต้องการทำงานจากไทย/ผู้มีทักษะเชี่ยวชาญพิเศษ

๔.๒ ให้สิทธิประโยชน์ด้านอสังหาริมทรัพย์ : มอบหมายให้กรมที่ดินศึกษาในรายละเอียดแล้วนำเสนอให้ที่ประชุม ศบศ.พิจารณา

๔.๓ ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี : มอบหมายให้กรมสรรพากรเตรียมร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่ผู้ถือวีซ่า LTR

๔.๔ การปฏิบัติพิธีการศุลกากรของติดตัวผู้โดยสาร : มอบหมายให้กรมศุลกากรอำนวยความสะดวกการเดินทางพิเศษสำหรับผู้ถือวีซ่าประเภท LTR เป็นการเฉพาะ เทียบเคียงกับสถานะการเดินทางทางการทูต

๔.๕ จัดตั้งศูนย์บริการผู้พำนักระยะยาว (LTR-Service center) : มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเป็นหน่วยงานหลัก

๕.ปี ๒๕๖๕ กรมที่ดินเสนอร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ที่มีหลักการคล้ายกับกฎกระทรวงปี ๒๕๔๕ เดิม ที่ให้ต่างด้าวเฉพาะกลุ่มผู้ได้รับ LTR Visa เท่านั้น ที่นำเงินมาลงทุน ๔๐ ล้านบาท สามารถซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน ๑ ไร่ และต้องดำรงการลงทุนนั้นไว้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๓ ปี (ลดระยะเวลาการดำรงการลงทุนจาก ๕ ปี เหลือเพียง ๓ ปี แต่ยังคงเป็นระยะเวลาภายในกรอบของมาตรา ๙๖ ทวิ ป.ที่ดิน) เพราะของเดิมไม่ดึงดูดคนมาลงทุน ซึ่ง ครม.เห็นชอบหลักการร่างกฎกระทรวงฉบับนี้เมื่ออังคารที่ผ่านมา

๖.ต่อไปกรมที่ดินต้องนำร่างกฎกระทรวงนี้รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ตามกฎกระทรวงกำหนดร่างกฎที่ต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบ พ.ศ.๒๕๖๕ (มีผลใช้บังคับ ๘ ต.ค.๒๕๖๕) ที่ออกตาม พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.๒๕๖๒ เสียก่อนที่จะดำเนินการประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป

ครับ…รายละเอียดตามนี้ ไม่มีอะไรพิสดาร

ที่บอกว่าขายชาติ ต้องกลับมาพิจารณากันใหม่ เพราะที่ดินเอกชนขายให้เอกชนที่เป็นต่างชาติ บางคนยังโอนสัญชาติทีหลัง

กฎหมายนี้ไม่มีการซื้อขายที่ดินที่เป็นของรัฐแม้ตารางนิ้วเดียว

ปัจจุบันกฎหมายนี้ค่อนข้างเป็นสากล เพราะไม่มีประเทศใดอยู่ได้อย่างโดดเดี่ยวในโลกใบนี้

หากบอกว่า ขายชาติ อังกฤษและสหรัฐอเมริกา เป็นประเทศที่ขายชาติมากที่สุดในโลก เพราะเปิดโอกาสให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้แบบไม่อั้น

ขอให้มีเงินแล้วกำมา

ความแตกต่างของกฎหมายในแต่ละประเทศแตกต่างกันออกไปบ้างในรายละเอียดปลีกย่อย เช่น การเสียภาษี ระยะเวลาการครอบครอง

อย่างออสเตรเลีย เปิดให้ต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ แต่มีเงื่อนไขที่ต่างจากไทย อาทิ ต้องเป็นบ้านในโครงการจัดสรรใหม่ๆ เท่านั้น

ห้ามซื้อบ้านมือสอง เพราะเกรงว่าจะทำให้ราคาบ้านขึ้นกระฉูด กระทบต่อประชาชนในประเทศ

คอมมิวนิสต์อย่าง เวียดนาม ยังให้ต่างชาติเช่าระยะ ๗๐ ปี

ขณะนี้มีการปล่อยข่าว วิพากษ์วิจารณ์กันไปเยอะพอควร พอสรุปความได้ว่า กลัวต่างชาติจะยึดประเทศไทย ชาวนาจะไม่มีที่ทำกิน คนจนถูกกดทับซ้ำซ้อน ฯลฯ              

ที่จริง กฎหมายเขียนเอาไว้ค่อนข้างชัดว่า ให้ต่างชาติซื้อที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน ๑ ไร่เท่านั้่น

เฉพาะที่อยู่อาศัย ไม่ใช่มาแย่งคนไทยทำการเกษตร

แต่ถามว่าในอดีตเคยคิดให้ต่างชาติเข้ามาเช่าที่ดินทำการเกษตรแปลงใหญ่หรือเปล่า ก็ต้องตอบว่าเคยมีความพยายาม

ช่วงรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช “ทักษิณ ชินวัตร” ชักชวนนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งประกอบด้วย วาลิด อาเหม็ด จัฟฟาลี รองประธานบริษัท ซาอุดีซีเมนต์ (SCC) ซึ่งเป็นบริษัทซีเมนต์รายใหญ่ที่สุดในซาอุดีอาระเบีย และเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของกลุ่มบริษัท EA Juffali & Brothers กลุ่มบริษัทอุตสาหกรรมและพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในซาอุดีอาระเบียและภูมิภาคตะวันออกกลาง เข้ามาลงทุนทำนา หรือเช่าที่ดินทำนา หรือการส่งข้าวออกขายต่างประเทศ

มีการจัดตั้งบริษัทรวมใจชาวนาขึ้นมาเพื่อรองรับการเข้ามาลงทุนของนักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย

ถามว่าน่ากลัวมั้ย

“ทักษิณ” มีความเชี่ยวชาญในการจัดตั้งบริษัทนอมินี ฉะนั้นหากดีลกันสำเร็จ การเข้ามาของต่างชาติ เราแทบจะมองไม่ออก

โชคดีว่าอายุรัฐบาลสมัครสั้นเกินไป จึงไม่ได้ไปต่อ

ครับ…เมื่อพูดกันเรื่องขายชาติ ก็นี่แหละครับ

ขายชาติ.

The post มีคนคิดขายชาติ appeared first on .

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/i5mn8we
via World enews

Labels: , ,

0 Comments:

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home