World enews: ไหวมั้ยลุงๆ? “อุ๊งอิ๊ง” เรตติ้งทิ้งห่าง “พิธา” หายใจรดต้นคอ “ลุงตู่”… “หมอหนู”มาแว้ว ได้แต้มเพิ่ม “ลุงป้อม-ลุงมิ่ง” รั้งโหล่ ** ปักหมุดไว้รอพิสูจน์ได้! คำทำนายของ “ครูใหญ่เนวิน” หลังเลือกตั้งทุกพรรคร่วมจัดรัฐบาลได้

ข่าวปนคน คนปนข่าว

** ไหวมั้ยลุงๆ? “อุ๊งอิ๊ง”เรตติ้งทิ้งห่าง “พิธา” หายใจรดต้นคอ “ลุงตู่”… “หมอหนู”มาแว้ว ได้แต้มเพิ่ม “ลุงป้อม-ลุงมิ่ง” รั้งโหล่

ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่เข้มข้น แต่ละค่ายพรรคต่างตีเกราะเคาะไม้ ประกาศ”ขุมกำลัง” และ “ตัวหัวหน้า” ที่จะลงลุยสู้ศึกเลือกตั้ง ไผเป็นไผ ก็คุยข่มกันไป แต่”เรตติ้ง”เที่ยวล่าสุดที่ “นิด้าโพล” สำนักโพลที่เชื่อถือได้ สำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 4/2565” น่าสนใจทีเดียว

เมื่อถามถึงคนที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 34.00 ระบุเป็น “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พรรคเพื่อไทย เพราะ ชื่นชอบพรรค-นโยบาย และอยากเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ชื่นชอบผลงานในอดีตของตระกูลชินวัตร

อันดับ 2 ร้อยละ 14.05 ห่างจาก “อุ๊งอิ๊ง”กว่าครึ่ง ระบุว่าเป็น “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ความหวังของพรรครวมไทยสร้างชาติ เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา บ้านเมืองสงบ ขณะที่บางส่วนระบุว่าจะได้บริหารประเทศอย่างต่อเนื่อง

อันดับ 3 ไล่ “ลุงตู่” มาติดๆ ชนิดหายใจรดต้นคอ ร้อยละ 13.25 ระบุว่าเป็น “เสี่ยทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พรรคก้าวไกล เพราะต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ มีวิสัยทัศน์และแนวคิดแบบคนรุ่นใหม่

อันดับ 4 ร้อยละ 8.25 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ ขณะที่อันดับ 5 ร้อยละ 6.45 เป็น “หญิงหน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เพราะชื่นชอบนโยบายของพรรค มีประสบการณ์ด้านการบริหารประเทศ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ต้องการเปิดโอกาสให้ผู้หญิงเข้ามาบริหารประเทศ

อันดับ 6 ร้อยละ 6.00 เป็น “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” พรรคเสรีรวมไทย เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา ชื่นชอบวิธีการทำงาน ส่วน อันดับ 7 ร้อยละ 5.00 ระบุว่าเป็น “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย พรรคที่มาแรงที่สุดในวันนี้ เพราะ ชื่นชอบนโยบายพรรคภูมิใจไทย และชื่นชอบผลงานที่ผ่านมา

อันดับ 8 ร้อยละ 2.65 ระบุว่าเป็น “กรณ์ จาติกวณิช” พรรคชาติพัฒนากล้า เพราะ มีความรู้ความสามารถ และมีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ อันดับ 9 ร้อยละ 2.60 ระบุว่าเป็น “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” พรรคเพื่อไทย และ อันดับ 10 ร้อยละ 2.30 ระบุ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” พรรคประชาธิปัตย์ อับดับ 11 ร้อยละ 1.10 เป็น “ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” พรรคสร้างอนาคตไทย

นอกจาก”บิ๊กเนม” ที่มีชื่อดังกล่าวแล้ว ยังมีอันดับอื่นๆ อีก ร้อยละ 4.35 ที่จะเลือก “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯกทม.คนปัจจุบัน… “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ… “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” พรรคประชาชาติ… “หนูนา” น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา พรรคชาติไทยพัฒนา… “ลุงมิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ พรรคพลังประชารัฐ… “พี่เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ พรรคไทยศรีวิไลย์… เป็นต้น

เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง รายไตรมาส ครั้งที่ 3/65 เดือนกันยายน 2565 พบว่า กลุ่ม”บิ๊กเนม” ที่มีชื่อแคนดิเดตนายกฯ อย่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ มีสัดส่วนลดลง

ในขณะคนที่มีเรตติ้งเพิ่มขึ้น คือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร… “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์… “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์”… “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล… “กรณ์ จาติกวณิช” เป็นต้น

งานนี้ใครเรตติ้งตก ก็ต้องทำการบ้านหนักขึ้น เช่นเดียวกับ คนที่ตามผู้นำก็ต้องขยันเป็นธรรมดา ห่วงก็แต่ “ลุงป้อม-ลุงมิ่ง” ที่ออกตัวแรงแต่รั้งท้ายนี่สิ …ไหวมั้ยลุง?

** ปักหมุดไว้รอพิสูจน์ได้! คำทำนายของ “ครูใหญ่เนวิน” หลังเลือกตั้งทุกพรรคร่วมจัดรัฐบาลได้

นานๆจะเคลื่อนไหว แต่ออกมาแต่ละครั้งสะกดคอการเมืองต้องตั้งอกตั้งใจรับฟัง สำหรับคำนายของชายชื่อ “เนวิน ชิดชอบ”
“เนวิน” พะยี่ห้อที่ขึ้นหิ้งนักการเมืองเก๋าเกมผู้เป็น “ครูใหญ่” ของพรรคภูมิใจไทย ที่นาทีนี้มีบรรดาอดีตส.ส.หลั่งไหลเข้ามาเป็นขุมกำลังกันล้นหลาม จนถูกยกเป็นพรรคเต็งที่มีสิทธิ์จะชนะเลือกตั้งด้วยจำนวนส.ส.ที่ไม่เป็นรองใคร มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลสูง รวมไปถึงแคนดิเดตนายกฯ หนึ่งเดียวของพรรคที่ชื่อ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล ที่จะท้าชิงกับ “ลุงๆ” และ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร แห่งครอบครัวเพื่อไทย ที่ “โทนี่ วู้ดซั่ม” ทักษิณ ชินวัตร ส่งเข้าประกวดเป็นตัวตายตัวแทนตระกูลชิน

เพราะ ศึกเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ใหญ่หลวงนัก หนึ่งนั้นเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่ลุงๆ จะไปต่อ โดย “สองลุง” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา “ลุงตู่”แสดงความชัดเจนร่วมหัวจมท้ายกับพรรครวมไทยสร้างชาติว่า ขอไปต่อ แม้จะอีกสองปีก็ตาม กับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ “ลุงป้อม” ที่ไฟต์บังคับต้องแบกพลังประชารัฐเข้ามาสืบต่ออำนาจให้ได้ แม้เวลานี้จะยักแย่ยักยัน ร่อแร่เต็มกลืน ขณะที่กวาดตามองขั้วที่ขัดแย้งอย่าง “เพื่อไทย” ก็หมายมั่นประโคมโอ่ จะแลนด์สไลด์ โดยมี “ก้าวไกล” ที่ก็ยังมั่นใจจะมีคนรุ่นใหม่ให้การสนับสนุนพาเข้าป้ายเลือกตั้งได้ไม่น้อยกว่าเดิม

คำถามสำคัญว่า เมื่อภาพการเมืองวุ่นวาย และเต็มไปด้วยความขัดแย้ง มองข้ามช็อต หลังเลือกตั้งนาวารัฐจะไปกันยังไง ขั้วแต่ละขั้ว จะเป็นอย่างไร?

“เนวิน” ไปให้สัมภาษณ์รายการข่าว สถานีโทรทัศน์ Thai pbs ฟันธงตรงๆว่า หลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 การเมืองไทย ไม่มีมิตรแท้ ไม่มีศัตรูถาวร สิ่งที่เป็นกลไกสำคัญที่สุด การตัดสินของประชาชน ณ วันลงคะแนนเลือกตั้ง จะเป็นตัวบังคับให้นักการเมือง และพรรคการเมืองต้องรู้ว่า ประชาชนต้องการอะไร

ส่วนการแบ่งขั้วการเมือง จะทำให้เป็นปัญหาจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ “เนวิน” บอกว่า เรื่องแบ่งขั้ว เลิกคิดได้แล้ว ถ้าเมื่อไรเรายังแบ่งขั้ว แบ่งสี อยู่แบบนี้ บ้านเมืองมันไปไหนไม่ได้ พร้อมกับยกตัวอย่าง ส่วนหนึ่งที่บุรีรัมย์มาถึงวันนี้ และพัฒนาแบบก้าวกระโดดใน 10 ปี เติบโตกว่าจังหวัดอื่นๆ เพราะเราไม่มีขั้ว

ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทย มั่นใจว่าโยบายที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน จะเป็นสิ่งที่ทำให้พรรคการเมืองต้องตัดสินใจร่วม หรือไม่ร่วมกัน

ขณะที่ ประเด็นความสัมพันธ์ที่มีต่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่มีอดีตเป็นภาพจำ หากต้องจับมือจัดตั้งรัฐบาล “ครูใหญ่เนวิน” บอกว่า เป็นเรื่องในอดีต คำถามวันนี้คือว่า วันนี้พรรคเพื่อไทยเป็นของใคร? ขับเคลื่อนด้วยใคร ใครกำหนดนโยบายพรรค ใครบริหารพรรค ถ้าหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค แกนนำพรรคในปัจจุบันเป็นผู้บริหารทั้งหมด แล้ว”ทักษิณ” จะมีความขัดแย้งอะไรกับ “อนุทิน” รวมไปถึง ทักษิณ ในอดีตกับ อนุทิน ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

“อย่าเอาตัวผมมาเป็นที่ตั้งสิ ผมไม่ได้เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทยนะ ผมแค่ครูใหญ่ ผมเป็นแค่ลุงเนวิน”

ครูใหญ่พรรคภูมิใจไทยตบท้ายมาแบบนี้ คอการเมืองก็ต้องอดใจรอรับชมต่อไป ตอนนี้ปักหมุดไว้ล่วงหน้าเพื่อพิสูจน์คำทำนายนี้กันได้เลยพี่น้อง.