งานเล็กงานใหญ่ยังไม่ไปนะวิ! “พิ้งกี้ สาวิกา” กับดรามาเห็นต่างออกอีเวนต์ ** “ลุงมิ่ง” ดรีมทีมเศรษฐกิจของ “ลุงป้อม” มาจับกับ “สันติ พร้อมมาก”
ข่าวปนคน คนปนข่าว
** งานเล็กงานใหญ่ยังไม่ไปนะวิ! “พิ้งกี้ สาวิกา” กับดรามาเห็นต่างออกอีเวนต์
กลายเป็นประเด็นขึ้นมา สำหรับ “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช ดาราสาวที่เพิ่งได้รับอิสรภาพ ประกันตัวออกมาจากการเป็นผู้ต้องหาคดี Forex 3D แชร์ลวงโลกอันอื้อฉาว แล้วมีกระแสแพร่สะพัดว่าเจ้าตัวสุดฮอต เตรียมรับงานออกอีเวนต์ รัวๆ โดย “เต๋า ทีวีพูล” โพสต์ลงโซเชียลฯ ทำนองว่า “งานแน่น พิ้งกี้สุดฮอต! and รับงานอีเวนต์แรก ที่เชียงใหม่ (Poolstar)” ซึ่งพอข่าวกระพือออกไปเท่านั้นเอง “ดรามา” ความเห็นต่างก็พุ่งตรงมาลงที่ “พิ้งกี้” รัวๆ เช่นกัน
อันว่าดรามาความเห็นต่าง มีทั้งฝ่ายที่เป็น “FC” ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของดาราสาว กล่าวต้อนรับการกลับมาของ “พิ้งกี้” ที่ห่างหายไปจากวงการเข้าไปนอนในคุกมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม พอศาลให้ประกันตัว มีอิสระเมื่อ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็อยากจะชื่นชมผลงานตามประสาคนรักกัน
ก่อนนี้ “พิ้งกี้” ที่เพิ่งกลับมาใช้ชีวิตปกติอีกครั้งก็แว่วว่ามีคนติดต่อให้ออกงาน แต่เจ้าตัวและผู้จัดการยังไม่กล้ารับ โดยจะขอพักใจพักกาย ไปทำบุญสักระยะ
ขณะที่อีกฝ่ายจัดทัวร์มาลง มองว่า “พิ้งกี้” ไม่สมควรที่รับงานใดๆเพราะคดียังไม่เคลียร์ อเนจอนาถใจกับประเทศไทย ที่ผู้ต้องหาคดีร่วมกันกู้ยืมเงินแชร์อันเป็นการฉ้อโกงประชาชนที่มูลค่าความเสียหายนับหมื่นล้านบาทยังเฉิดฉาย เชิดหน้าชูตาในวงการบันเทิงได้อีก ทั้งที่ผ่านมาก็ใช้ความเป็นดาราดึงดูดคนให้ร่วมลงทุนไม่ใช่หรือ?
เรียกว่า สงสารเหยื่อที่ถูกหลอกลวง ต้มตุ๋น สิ้นเนื้อประดาตัวไม่มีโอกาสเหมือนพิ้งกี้
บ้างก็ว่า เธอโชคดีที่มีผู้คนคอยให้กำลังใจ และช่วยเหลือป้อนงาน ก่อนหน้าก็ลือกันสะพัด ถึงเบื้องหลังการประกันตัวด้วยวงเงินกว่า 5 ล้านบาทนั้นได้ “ไฮโซเพชร” อดีตสามี ที่ยังมีสายใยของมิตรภาพหยิบยื่นให้
ดรามากันพอได้ปะทะตลอดทั้งวัน ทางหนึ่งก็น่าเห็นใจดาราสาวภาพจำดีๆ ผลงานวงการบันเทิงก็มีมาก ขณะที่ภาพที่ไปเอี่ยวร่วมหัวจมท้ายกับแก๊ง “อภิรักษ์ โกฎฐิ” CEO แชร์ลวงโลก Forex 3D ก็วนเวียนหลอกหลอนเหยื่อหลายๆคน การใช้ชีวิตบนเส้นทางเดิม รับงานอีเวนต์ หรือ โชว์ตัวจากนี้ย่อมมีทั้ง คนรัก และคนเกลียด อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น
เรื่องของความคิดคนนั้น นานาจิตตัง เรื่องของความผิดและกระบวนการยุติธรรม ก็ต้องว่ากันตามหลักฐานข้อเท็จจริง กาลเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ เยียวยาจิตใจของทั้งสองฝ่าย
ต่อมา เพจ “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช ที่มีผู้ติดตามกว่า 9.7แสนคน แอดมินจึงออกโรงมาแจ้งว่า พิ้งกี้ ณ เวลานี้ ยังไม่มีออกงานใดๆ เอาเป็นอันว่า นาทีนี้ พิ้งกี้ งานเล็กงานใหญ่ ยังไม่ไปนะวิ!
** “ลุงมิ่ง” ดรีมทีมเศรษฐกิจของ “ลุงป้อม” มาจับกับ “สันติ พร้อมมาก”
เมื่อการเมืองชัดเจนขึ้น ว่า “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะแยกกับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ซึ่งจะไปใช้พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นนั่งร้านอันใหม่ … กติกาเลือกตั้งก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นแบบบัตรสองใบ สูตรปาร์ตี้ลิสต์ หาร 100
หลังจากนี้ก็ได้เวลานับถอยหลังสู่โหมดเลือกตั้ง พรรคการเมืองกดสวิตช์ “ติดเครื่องดูด” เสนอเงื่อนไขจูงใจ …บรรดาส.ส. ทั้งบ้านใหญ่ บ้านไม่ใหญ่ เริ่มขยับขยาย ย้ายพรรคแบบไม่ต้องเหนียมกันแล้ว
โดยเฉพาะพรรคของ“น้องตู่” ก็มาเล่นตกปลาในบ่อของ“พี่ใหญ่” ทำให้ผู้พี่ต้องไปหาคนมาเสริมทัพ ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ว่า ต้องได้ส.ส.ไม่น้อยกว่า 150 เสียง เพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง
ล่าสุดมีข่าวถึงขั้นคอนเฟิร์มว่า “ลุงมิ่ง” มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีต รมว.พาณิชย์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และอดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ พร้อมทีมงาน จะเข้ามาเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคลุงป้อม… ตามข่าวบอกว่าจะมีการเปิดตัวกันวันนี้ (6ธ.ค.)หรืออย่างช้าก็สัปดาห์หน้า
คงจำกันได้ว่า ตอน “ลุงมิ่ง” เป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ทั้งพรรคมีส.ส. 6 คน มีจุดยืนไม่เข้าร่วมรัฐบาลลุงตู่ แต่ต่อมาถูก 5 ส.ส.ลูกพรรค แหกจุดยืนหันไปหนุนรัฐบาลลุงตู่ ทำให้“ลุงมิ่ง” ตัดสินใจลาออก ทิ้งเก้าอี้หัวหน้าพรรคและตำแหน่งส.ส. แบบไม่เสียดาย
เคยมีข่าวว่า “ลุงมิ่ง” จะไปร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจไทย ของ “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา แต่สุดท้ายก็เงียบไป
มามีข่าวอีกทีก็ช่วงต้นเดือนต.ค.65 ซึ่ง “พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย” ที่มี “ดำรงค์ พิเดช” ส.ส.บัญชีรายชื่อ เป็นประธานที่ปรึกษาพรรค จัดประชุมใหญ่วิสามัญที่ จ.สุพรรณบุรี แล้วมีมติเปลี่ยนชื่อพรรคเป็น “พรรคโอกาสไทย” และตั้ง “มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์” เป็นหัวหน้าพรรค เตรียมนำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง แทน “สุชิน เพียรทอง” ที่นั่งเป็นหัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าฯในตอนนั้น
จุดพลิกผันเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า กฎหมายเลือกตั้งส.ส.แบบใช้บัตรสองใบ หาร 100 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งก็เป็นที่รับรู้กันว่ากติกานี้ไม่เอื้อพรรคเล็ก …ไม่มีแล้วที่ได้ 3-4 หมื่นคะแนน ก็ได้เป็นส.ส.แม้จะถูกกระแนะกระแหนว่าเป็น “ส.ส.ปัดเศษ” ก็ยังได้เดินเข้าสภาฯ เข้าป่ากล้วย
แต่กติกาใหม่นี้ ถ้าหวังจะได้เป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ สัก 1 เก้าอี้ ต้องได้ไม่ต่ำกว่า 370,000 คะแนน แล้วพรรคเล็กๆ จะไปเอาคะแนนมาจากไหน เพราะบัตรเลือกตั้งก็ใช้ 2 ใบ เวลาหัวคะแนนพรรคใหญ่ออกซื้อ ก็จะซื้อควบ คือให้ราคาสูง ถ้าเลือกทั้งคนและเลือกพรรค…ขณะที่พรรคเล็ก ไม่มีกระแส ขาดกระสุน จึงต้องตัดสินใจทางการเมืองเสียใหม่ รวมทั้ง “ลุงมิ่ง”ด้วย
“ดำรงค์ พิเดช” บอกว่า “ลุงมิ่ง” เพิ่งมายื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคโอกาสไทย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง และสัปดาห์นี้ ก็มีข่าวว่าจะไปเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจให้ “พรรคลุงป้อม”
ที่ผ่านมาหากพูดถึงทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ …ในยุคเริ่มแรก ก็จะมี “ทีม4กุมาร” ที่มี “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ เป็นหัวหน้าทีม มี “อุตตม สาวนายน” อดีต รมว.คลัง และ “สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์” อดีตรมว.พลังงาน ร่วมเป็นเสาหลัก
แต่เมื่อทีม “4กุมาร” ถูกพิษการเมือง ต้องออกนอกวงจร ทีมเศรษฐกิจของพลังประชารัฐ ที่ไม่ใช่รัฐมนตรีคนนอก ซึ่งเป็นโควตาของ“ลุงตู่” ก็เห็นจะมีเพียง “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ที่รั้งตำแหน่งเลขาธิการพรรคอยู่เท่านั้น
เห็นชัดว่าพลังประชารัฐยุคนี้ ขาดทีมเศรษฐกิจ จึงต้องมีการดีล การดูด เอา“ลุงมิ่ง”มาเสริม และยกให้เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเพื่อสร้างจุดขาย
ต้องติดตามว่า เมื่อ“ลุงมิ่ง” มาเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคลุงป้อมแล้ว จะเอาอะไรมาเสนอขาย นโยบายจะเปรี้ยงแค่ไหน ที่สำคัญคือจะไปกันได้ด้วยดีกับ “สันติ พร้อมมาก” ที่เคยเล็งว่าจะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคเองหรือไม่
Source link
from World eNews Online https://ift.tt/X7KrqsW
via World enews
Labels: news, World eNews Online, worldnews
0 Comments:
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home