Wednesday, May 31, 2023

ด้อมส้มยี้-ด้อมแดงขยะแขยง แชร์ให้ระวัง “โจรชูวิทย์” คิดปั่น-เสี้ยมดีลลับ ** “ก้าวไกล” เน้นจัดอีเวนต์ถี่ ได้แค่ตั้งกก.เปลี่ยนผ่านฯ โชว์ให้เห็นว่า “คืบหน้า” แท้จริงเป็นเกมยาวที่“เพื่อไทย” ถือไพ่เหนือ จ่อฮุบเก้าอี้“ประธานสภาฯ” พ่วง “กระทรวงเกรด เอ”



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ด้อมส้มยี้-ด้อมแดงขยะแขยง แชร์ให้ระวัง “โจรชูวิทย์” คิดปั่น-เสี้ยมดีลลับ

กลายเป็นประเด็นทำให้ “ด้อมส้ม-ด้อมแดง” ต้องออกแรงแสดงความคิดเห็นและแชร์บอกต่อๆกัน หลังจาก “ทนายอานนท์ นำภา” แกนนำม็อบ3นิ้ว โพสต์เตือนพวกพ้อง “ระวังชูวิทย์ไว้” อันเนื่องมาจาก “โจรแว่นดำ” ทำรู้ดี ออกมาแฉว่ามี “ดีลลับ” พรรคเพื่อไทย เคลื่อนไหวเจรจาจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่จะไม่มีก้าวไกล

ทั้งด้อมส้มและด้อมแดง ส่วนใหญ่เห็นพ้องกันว่า จะตีความอย่างไร “ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์” ที่เรียกตัวเองว่า “โจร”กุเรื่องดีลลับนี้ขึ้นมา ย่อมเจตนาไม่ดี ประสงค์ร้าย แน่นอน!!

โดยซ่อนวาระ “รับงาน” เอามา “ปั่น” และ“เสี้ยม”ให้ก้าวไกลแตกแยก กับเพื่อไทย

ส่วนจะทำเพื่อใคร? ใครที่อยู่เบื้องหลังได้ประโยชน์ ? มีชื่อของ “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ถูกพาดพิงถึง เพราะ “ชูวิทย์” มักแอบอ้าง ตัวเองเป็นเพื่อนสนิท “บิ๊กแดง” และ เป็น Back แข็งปั๋งหนุนตัวเอง จึงกล้าออกฤทธิ์ออกเดชมากมาย

เรียกว่า “ด้อมส้ม-ด้อมแดง” หูตาสว่าง รู้ทัน รู้พฤติกรรมของคนหิวแสงอย่างชูวิทย์กันล่ะ

ด้อมทั้งหลายในโซเชียลฯ จึงร่วมด้วยช่วยแฉ “ชูวิทย์” นี่แหละ “จอมปั่น –ลวงโลก-เสี้ยม” สร้างความแตกแยก และ ที่สำคัญเป็น “ไส้ศึก” ที่อาศัยลูกมั่วสถานการณ์ สร้างสตอรี่โกหกรายวันเข้ามาเอาแสงจากฝ่ายประชาธิปไตย

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
ที่ผ่านมาแสดงตัวเป็น “ด้อมส้ม” มาตลอด จนคนระดับบนๆของพรรคก้าวไกลก็เคลิ้มกับแสงของชูวิทย์เขียน MOU เอาใจชูวิทย์ จะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ทั้งๆ ที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรค เคยหาเสียงรณรงค์ ปลดล็อกกัญชา เพราะเป็นหนี้บุญคุณสรรพคุณทางการแพทย์ ของสมุนไพรกัญชา

พอได้ใจก็ปั่นเรื่องโกหกรายวัน พ่นน้ำลายเขียนบรรยายในเฟซบุ๊ก เป็นคุ้งเป็นแคว

แต่เพราะ “ชูวิทย์” เป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ พร้อมจะหักหลังทุกคนที่คุยด้วย แม้แต่ช่วงเข้าหาคนใหญ่คนโต ก็อัดคลิปเขาไว้เพื่อแบล็กเมล์

ไม่เชื่อก็ต้องไปถามหลายๆคน ที่เจอกันมาแล้ว ไม่เว้นแม้แต่คนที่ “ชูวิทย์”อ้างเป็นเพื่อนสนิทบิ๊กทหารคนนั้น ด้อมส้ม-ด้อมแดง จึงเห็นซึ้งถึงตัวตนชูวิทย์

ไหนจะภาพในอดีตที่ฟ้อง เดินคล้อง “นกหวีด” ไปกับ กปปส. ตีสนิท “ลุงกำนัน” ที่เป็นพวกเดียวกับลุงๆ

ก่อนหาเสียงเลือกตั้ง ยังทำงานให้กับเพื่อนซี้ “เสธ.หิ” หิมาลัย ผิวพรรณ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ชเลียร์นายกฯลุงตู่ เป็นนายกฯ ที่ดีที่สุด!!

มาถึงการตีสนิทก้าวไกล แสร้งท่องคำ “มีเรา ไม่มีลุง” ให้ตายใจ ทำดีกับเพื่อไทย หาเรตติ้ง วันดีคืนดีเชื่อขนมกินได้เลยว่าคนอย่าง ชูวิทย์ พร้อมจะเผาไร่ส้ม ทำลายรังแดง อย่างไม่ต้องสงสัย!

อานนท์ นำภา
สรุปว่า ที่ “ด้อมส้ม-ด้อมแดง” เตือนกันให้พึงระวัง “ชูวิทย์” ไว้ เพราะคิดมาดีแล้วว่า คนที่เรียกตัวเองเป็นโจร ซึ่งโจรก็โจร ด้วยนิสัยถาวร โกหก-หักหลัง อยู่ในกมลสันดาน คนแบบนี้จะทำทุกอย่างที่ก้าวไกลและเพื่อไทยให้พังพาบ ปั่นข่าว “ดีลลับ” ให้สัมพันธ์แดง-ส้ม สะบั้น จนตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยไม่ได้ จึงขอกันให้หยุดเชื่อ หยุดให้ค่าชูวิทย์

คราครั้งนี้ โจรชูวิทย์ จะร้องเอ๋งๆ คร่ำครวญใช้มุกเก่าๆ ชี้หน้าคนนั้นคนนี้ จ้องใส่ร้ายกลั่นแกล้งก็คงไม่ได้ผล เพราะนี่เป็นเสียงของคน “ข้างมาก” และเหนือสิ่งอื่นใด เป็นผลจากการทำตัวเองล้วนๆ หางโผล่ออกมาให้คนเขาจับได้ไล่ทันเอง ไม่มีใครเชื่อถือ มีแต่รังเกียจ ไล่ให้ไปไกลๆ

นี่คือ โจรชูวิทย์ วันนี้ที่ด้อมส้มยี้ราวกับเห็นขี้-ด้อมแดง เห็นแล้วขยะแขยง!!

** “ก้าวไกล” เน้นจัดอีเวนต์ถี่ ได้แค่ตั้งกก.เปลี่ยนผ่านฯ โชว์ให้เห็นว่า “คืบหน้า” แท้จริงเป็นเกมยาวที่“เพื่อไทย” ถือไพ่เหนือ จ่อฮุบเก้าอี้“ประธานสภาฯ” พ่วง “กระทรวงเกรด เอ”

เอาเข้าจริง บทสรุปจากนัดหมายหารือ 8 พรรค ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวาน (30 พ.ค.) ไม่น่าจะถึงขั้น“ข่าวดี” อย่างที่ “ว่าที่นายกฯทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พยายามตีปี๊บ

โดยโพสต์จั่วหัวว่า “ข่าวดีความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล” ซึ่งคีย์เวิร์ดที่ต้องการสื่อสาร ไม่ใช่คำว่า “ข่าวดี” แต่เป็นคำว่า “ความคืบหน้า” มากกว่า

โดย “เสี่ยทิม” บอกว่า หัวหน้า(ว่าที่)พรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 8 พรรค มีมติร่วมกันเพื่อจัดตั้ง “คณะกรรมการประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน” โดยมี “ว่าที่นายกฯทิม” เป็นประธาน ด้วยตัวเอง

พร้อมตัวแทนจาก 8 พรรคการเมือง ได้แก่ ศิริกัญญา ตันสกุล – เผ่าภูมิ โรจนสกุล – ทวี สอดส่อง – อนุดิษฐ์ นาครทรรพ – วิรัตน์ วรศสิริน – กัณวีร์ สืบแสง – วสวรรธน์ พวงพรศรี – เชาวฤทธิ์ ขจรพงศ์กีรติ

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร่วมแถลงข่าวกับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว
นอกจากนี้ ยังตั้งคณะทำงานอีก 7 คณะ เพื่อเตรียมการทำงานตอบสนองปัญหาของประชาชนด้านต่างๆ อาทิ คณะทำงานด้านค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันดีเซล และราคาพลังงาน, ด้านภัยแล้ง เอลนีโญ , ด้านการแก้ไขรธน. และด้านการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง เป็นต้น

เป็นการตั้งคณะทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าไปทำหน้าที่รัฐบาล รวมถึงในสภาผู้แทนราษฎรนั่นเอง

เข้าใจว่า จะเป็นการพูดคุยจัดสรรโควตารัฐมนตรี และตำแหน่งแห่งที่ต่าง ซึ่ง “โกต๋อม” ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ออกมาแพลมๆ ว่า เริ่มมีการพูดคุยกันบ้างแล้ว

แต่ถึงเวลาจริงกลับไม่มี “วาระ” เกี่ยวกับการจัดสรรตำแหน่งใดๆ เลย

อีกทั้งก่อนหน้านัดหมาย ก็เป็น“ค่ายสีส้ม”เอง ที่ดูเหมือนยังไม่รู้จะชวนมาพูดคุย “วาระ” อะไรด้วยซ้ำ รู้แค่ว่าต้องมี “อีเวนต์” เพื่อโชว์ภาพว่าการจัดตั้งรัฐบาล “มีความคืบหน้า” เลี้ยงกระแสไปเรื่อยๆ

ถึงขนาด “บิ๊กเพื่อไทย” อาทิ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชชยชัย รองหัวหน้าพรรค และ“เฮียเสริฐ” ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค ยังบ่นงึมงำ ผ่านสื่อว่า รู้แต่ว่า “พรรคแกนนำ” นัดมา แต่ไม่ยักแจ้งว่าจะคุยเรื่องอะไร

จึงเชื่อได้ว่าว่า “อีเวนต์” ที่จัดขึ้น แบบค่อยไปหา “วาระ” เอาข้างหน้า ก็เพื่อกลบกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งจาก “กูรูการเมือง” กระทั่ง “สภากาแฟข้างทาง” ที่มองไปในทิศทางเดียวกันว่า โอกาสที่ “แด๊ดดี้ทิม” จะถึงฝั่ง ได้ขึ้นขึ้นวอ ไปชูคอบนทำเนียบฯ ค่อนข้างริบหรี่

เพราะรู้กันว่า อุปสรรคตั้งไข่ “รัฐบาลก้าวไกล” ยังมีอีกเพียบ ไม่ว่าเสียงสนับสนุนที่ยังไม่ถึง 376 เสียง กึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา ล่าสุดคาดว่า จะมีส.ว.ชูมือให้ไม่ถึง 10 คน จากที่คุยโขมงว่า ล็อบบี้ได้แล้วไม่ต่ำกว่า 20 ราย

หรือชนักส่วนตัวเรื่องการถือหุ้นสื่อ ที่ กกต. เริ่มขยับเรียกข้อมูลจากผู้ร้อง ที่ว่ากันว่า “รอดยาก” แถมอาจหนักกว่าสมัย “เสี่ยเอก” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โดนเสียอีก ถึงขั้นอาจ “ร่วงยกค่าย” ฐาน “เสี่ยทิม” รับรองผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค

หนาหูที่สุด ไม่พ้นข่าวลือ-ข่าวลวง “ดีลลับ” ที่ออกมาแบบสารพัด แม้ยากจะฟังได้ แต่เชื่อเถอะ “คนค่ายส้ม” มีสะดุ้งทุกครั้งที่มีข่าว

8 พรรคร่วมจัดอีเวนต์ ตั้งบอร์ดประสานงานในช่วงเปลี่ยนผ่าน
สะท้อนได้จากท่าทีที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดของ “พิธา” เองเกี่ยวกับปมการเสนอชื่อ ผู้ทำหน้าที่ “ประมุขนิติบัญญัติ” ประธานสภาผู้แทนราษฎร

ที่ก่อนหน้านั้นปล่อย “ลูกหาบ” ออกมาแยกเขี้ยวใส่ “ค่ายดูไบ” พรรคเพื่อไทย ว่าเป็นโควตาของพรรคเบอร์ 1 พร้อมเหตุผลความจำเป็น ที่ต้องมีคนอยู่บนบัลลังก์ เพื่อคุมวาระสำคัญของพรรค จนถูก “สอนมวย” ไปหลายดอกว่า “สำคัญผิด” ถึงอำนาจ และหน้าที่ของประธานสภาฯ

ด่าหนักไปถึงขั้นได้ ส.ส.มากที่สุด แต่อย่าริ “กินรวบ” เลยทีเดียว

ที่ทำเอาสะดุ้งกันทั้งค่ายสีส้ม ไม่พ้นเสียงคำรามของ “หมอชลน่าน” นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่เปรยๆ ว่าอาจพิจารณา “ถอนตัว” หากไม่เห็นความสำคัญของ 141 เสียง

แม้จะมาจากความขัดแย้งกับ “ผู้พันปุ่น” น.ต.ศิธา ทิวารี ตัวตึงของค่ายไทยสร้างไทย แต่เชื่อเถอะว่าเป็น“คำขู่” ที่ส่งไปถึง “ค่ายสีส้ม” ให้คิดหนักๆ ในเรื่องการต่อรอง

กระทั่ง “พิธา” ต้องออกมาโพสต์ “หย่าศึก”การแย่งชิงเก้าอี้ประธานสภาฯ ด้วยการระบุว่า เรื่องนี้จะมีการพูดคุยกันระหว่าง “ก้าวไกล-เพื่อไทย” แค่ 2 พรรคเท่านั้น

ด้วยรู้ว่าหากแตกหักจากปม “ประมุขนิติบัญญัติ” ก็คงทำให้เส้นทางสู้เก้าอี้ “สร.1” ยิ่งตีบตันนั่นเอง

จึงไม่แปลกที่ “โผ ครม.” ที่ว่ากันว่าตั้งใจหลุดออกมาจาก “ค่ายสีส้ม” จะประเคนกระทรวงเกรดเอ ให้ทั้ง “คมนาคม-พลังงาน-พาณิชย์” ที่ถือว่าเข้าทาง “ค่ายดูไบ” เป็นอย่างยิ่ง

เปย์กันแบบสุดๆ แบบดีไม่ดี ต้องยอมสละ “มหาดไทย-เกษตรฯ” กระทรวงใดกระทรวงหนึ่งให้อีกด้วย เพราะต้องเอาใจ พรรคเพื่อไทย ที่พร้อมงัดแผน 2 แผน 3 ซึ่งไม่มี “ก้าวไกล” อยู่ใน “สมการรัฐบาล” ออกมาใช้

ด้วยทรงการเจรจาที่ “เพื่อไทย” พรรคอันดับ 2 ถือไพ่เหนือกว่าแบบเห็นได้ชัดขนาดนี้ ก็เชื่อว่า จะฟาดเก้าอี้ “ประมุขนิติบัญญัติ” ไปครอง พร้อมกระทรวงเกรดเอ แบบเลือกได้ค่อนข้างแน่นอน

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/b7hBRDp
via World enews

Labels: , ,

Man missing off Florida coast after falling overboard on his first ever cruise


A man is missing and feared dead after reportedly falling off a Carnival Magic cruise ship off the Florida coast.

The cruise company has not officially released the name of the man who fell of the ship, but a woman has identified the man to media outlets as her partner, 35-year-old Ronnie Lee Peale Jr. The US Coast Guard is participating in the search for Mr Peale, who fell of the ship about 185 miles east of Jacksonville in the early hours of Monday.

This story will be updated.

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/ZL7XFgz
via World enews

Labels: , ,

บันทึกหน้า 4



ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด “ดีลลับ” กลับมาเป็นข่าวร้อนอีก คราวนี้เป็น “ดีลลับลังกาวี” โดยมีกระแสข่าวว่าจะผลักให้พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นฝ่ายค้าน แล้วให้พรรคเพื่อไทยถอยไปเป็นรัฐบาลขั้วใหม่กับพรรคภูมิใจไทย (ภท.), พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.), พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เพื่อให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับบ้านในเดือน ก.ค.นี้ พร้อมกับปรากฏภาพ เสี่ยนิดนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรค พท. และ เสี่ยหนู-นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. อยู่ในเฟรมเดียวกันที่สนามคิงเพาเวอร์ สเตเดียม เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 28 พ.ค. ทำเอาแกนนำพรรค พท.เรียงหน้าปฏิเสธกันยกใหญ่ แต่ข่าวสะพัดว่า ดีลลับ จบตั้งแต่หลังเลือกตั้่ง 3 วันแรกแล้ว ส่วนแกนนำพรรคการเมืองบางคนไปพบกันตามสถานที่ต่างๆ เป็นควันหลงมากกว่า0

ส่วนที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ก.ก. อวดอ้างตัวเองเป็นว่าที่นายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย เปลี่ยนโปรไฟล์ใน pita.IG ว่า 30th Prime Mimister-Elect of Thailand ต่อมาแก้ไขใหม่เป็น 30th Prime Mimister-designate of Thailand แล้วยังเดินสายไปพบตัวแทนกลุ่มอาชีพต่างๆ นั้น เป็นการทำเกินบทบาทตัวเอง เสมือนว่าได้รับการโหวตในสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกฯ แล้ว และยังร่วมกันจัดตั้งคณะเตรียมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล หรือ Transition team กับหน่วยราชการด้วย พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จึงบอกว่า “มันไม่ควร ข้าราชการยังทำงานอยู่กับรัฐบาลปัจจุบัน วันหน้าทางรัฐบาลก็เตรียมข้อมูลต่างๆ ส่งมอบด้วย” พิธา ทราบแล้วเปลี่ยน อย่าทำให้ข้าราชการเขาลำบากใจเลย หากอยากเตรียมตัวเพื่อเป็นนายกฯ ก็ทำอยู่แต่ภายในพรรคตัวเองก็ไม่มีใครว่า และหากหน้าแหกขึ้นมา หมอจะไม่รับเย็บด้วย!…0

ที่พรรคประชาชาติ นายพิธา แถลงผลการประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ว่า หัวหน้าพรรค 8 พรรคมีมติตั้งคณะกรรมการประสานงานช่วงเปลี่ยนผ่าน มีประธานคือ นายพิธา และตันแทนพรรคร่วม พร้อมตั้งคณะทำงาน 7 คณะ คือ 1.คณะติดตามค่าไฟ น้ำมัน ดีเซล พลังงาน 2.ติดตามปัญหาภัยแล้ง 3.ติดตามปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ 4.ติดตามการแก้รัฐธรรมนูญ 5.ติดตามเศรษฐกิจปากท้อง เอสเอ็มอี 6.ทำงานแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม PM 2.5 และ 7.ติดตามเรื่องแก้ปัญหายาเสพติด ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯ พรรค พท.และพรรค ก.ก.จะหารือกัน ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค พท. กอดและจับมือนายพิธา พร้อมประกบมือกับนายพิธาเป็นรูปหัวใจกันหวานชื่น ก่อนกล่าวปิดท้ายว่า “เน้นย้ำไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เพื่อตั้งรัฐบาลของพี่น้องประชาชนให้ได้” แต่ที่แกนนำ พท.ยังไม่พูดคือ หากศาลรัฐธรรมนูญสั่งนายพิธาให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จากการถือหุ้นสื่อ หรือ ส.ว.ไม่โหวตให้นายพิธา ทำให้เสียงไม่ถึง 376 พรรค พท.คงต้องอ้างความชอบธรรมในฐานะพรรคอันดับ 2 เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเอง…0

ภายหลัง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.พรรค ก.ก. เปิดโปง ส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก ทั้งนายกฯ และ ผบ.ตร.ก็งัวเงียตื่น สั่งให้ตรวจสอบ ทำขึงขังหากใครเกี่ยวข้องจะฟันทั้งวินัยและอาญาตามสูตร ส่วยธุรกิจสีเทา รวมทั้งการซื้อขายเก้าอี้ในวงการตำรวจ เป็นปัญหาเรื้อรังมานาน พล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจ 9 ปีไม่แก้ปัญหา ซ้ำยังปล่อยให้ระบาดหนักกว่าเดิม ขณะที่ นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย (สขบท.) ยืนยันว่า “ปัญหาส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกมีมายาวนานกว่า 20 ปี นับตั้งแต่ยุค คสช.จนถึงขณะนี้ มีความรุนแรงที่สุดกว่าทุกยุค เพราะหากจ่ายส่วยรายเดือน เดือนละ 25,000-27,000 บาท จะสามารถบรรทุกน้ำหนักเกินได้แบบไม่จำกัด …ขณะนี้พบว่ามีรถบรรทุกจ่ายส่วยประมาณ 120,000 คัน หรือคิดเป็นมูลค่า 1,000 ล้านบาทต่อเดือน” ก็ต้องถามว่าเงินสีเทาเหล่านี้จัดส่งไปให้ผู้บังคับบัญชาระดับไหนบ้าง? จับตา พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก ผบ.ตร.ให้สอบเรื่องดังกล่าว ถ้าเอาผิดได้แค่ตำรวจชั้นผู้น้อย แต่เอาผิดผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่ได้ ปัญหาก็จะวนลูปมาที่เดิมอีก!…0.

 

แซมซาย

The post บันทึกหน้า 4 appeared first on .

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/8zIYF9g
via World enews

Labels: , ,

Everything we know about the Florida boardwalk shooting


At least nine people, including a one-year-old, were injured in a shooting that took place on Memorial Day at a boardwalk in Hollywood, Florida.

Gunfire broke out around 6.30pm local time along the Hollywood Oceanfront Broadwalk between Johnson Street and Garfield Street on Monday (29 May).

The shooting seemed to be a result of a dispute between “two different groups”, according to Hollywood Police Department public information manager Deanna Bettineschi.

Videos from the incident on Monday (29 May) evening showed crowds of people running for cover as gunfire occurred.

Police swiftly responded to the incident and began treating those who had suffered gunshot wounds.

The victims include four children between the ages of one and 17 years old, as well as five adults between 25 and 65 years old. As of Monday evening, one victim was in surgery while eight others were stable.

The Hollywood Police have detained one person of interest while searching for one additional suspect.

Here’s everything we know so far.

How the shooting unfolded

Gunfire suddenly erupted around 6.30pm on Memorial Day (29 May) as individuals and families walked along the Hollywood Oceanfront Broadwalk near Johnson Street and North Broadwalk.

The boardwalk, which is lined with shops and eateries, is a popular tourist destination as it is approximately 20 miles north of Miami.

However, it was expected to be even busier due to the holiday weekend.

The shooting occurred after two groups began having a dispute, according to Ms Bettineschi, the public information manager for the Hollywood Police.

One witness, Jamie Ward, told the Associated Press that several young men were fighting in front of one of the stores when one pulled out a gun.

Security camera footage from the boardwalk showed people frantically running and taking cover near a convenience store, a Ben & Jerry’s and a Subway shop as the gunfire began.

Another witness, Alvie Carlton Scott III, told AP he was on the beach when he heard gunshots. Mr Scott said he hid behind a tree and then fled the area after a police officer told people to run.

The mayor of Hollywood, Josh Levy, said in a statement that he was “deeply saddened and angered” by the shooting.

“People come to enjoy a holiday weekend on the beach with their families and to have people in complete reckless disregard of the safety of the public and to have an altercation with guns in a public setting with thousands of people around them is beyond reckless,” Mr Levy said in a press conference.

Footage posted to social media from witnesses showed law enforcement, first responders and good samaritans attending to victims of the shooting.

The victims

Police said nine people, including four children, suffered gunshot wounds.

The victims were taken to Memorial Regional Hospital and Joe DiMaggio Children’s Hospital to be treated for their injuries.

The names of the victims have not yet been released, though preliminary information indicated that the victims included a one-year-old child, three people under the age of 17, and five people between 25 and 65 years old.

However, Yanet Obarrio Sanchez, a spokesperson for Memorial Healthcare System told USA Today that the hospital was tending to six adults and three children, it is unclear if the hospital was treating the 17-year-old victim as an adult

The suspects

One person of interest in the shooting has been detained but authorities are searching for an additional suspect, Ms Bettineschi said in a press conference.

The suspect is described as a Black male with dreadlocks. He was last seen wearing a black short sleeve shirt and camouflage shorts.

Ms Bettineschi said anyone with videos or photos from the incident should send them to hollywoodpdtips@hollywoodfl.org.

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/9IbDewx
via World enews

Labels: , ,

Tuesday, May 30, 2023

“รอรับได้เลย”



ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งเสร็จ สีสันการปราศรัยหาเสียงก็ได้จบลง เหลือไว้เพียงความทรงจำบนเวทีที่เหล่าแกนนำหาเสียง ได้งัดกลยุทธ์ กลวิธีในการดึงดูดผู้คน อย่างขวัญใจชาวเสื้อแดง อย่าง “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย

เบอร์หนึ่ง ไม่เคยเป็นสองรองใคร บนเวทีปราศรัยบนเวทีเพื่อช่วยพรรคเพื่อไทยหาเสียง โดย “เต้น” เคยได้แปลงเพลง “ลุงตู่อยู่ไหน” จนกลายเป็นไวรัลกันแล้วรอบหนึ่ง ว่า  “ลุงตู่ ลุงตู่ อยู่ไหน อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ใน…..เลือกลุงตู่ เลือกลุงตู่ เลือกลุงตู่

ไม่เชื่อลองดูจะ…… ” ซึ่งตอนนั้นก็ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไวรัล

รอบนี้ “เต้น” ได้ไปออกรายการทีวี ช่วงเช้าของวันที่ 29 พ.ค.โดยมีประชาชนไปแสดงความเห็นจากการถ่ายทอดสด โดยผู้ประกาศข่าวได้อ่านความเห็นส่วนหนึ่ง ว่าขอให้ “เต้น” ร้องเพลง

แน่นอนว่า เข้าทางกันเห็นๆ มีหรือจะไม่รับไว้  พี่เต้น  “ณัฐวุฒิ” ก็จัดให้ ไม่รอช้า  ขับกล่อมบทเพลงเป็นของขวัญแฟนๆ

แถมหยอด นิดหน่อย ก่อนตามธรรมเนียม “ร้องเพลงจากพรรคเพื่อไทย ถึงพรรคก้าวไกล ”

 “รอรับได้เลย ไม่เคยบิดพลิ้ว  สัญญา คือสัญญา  ปรารถนาเพียงเธอได้พบ อย่า ทวงสัญญา โดยสายตา …. ”  ซึ่งเป็นบทเพลง สุดฮอตฮิต ของนักร้องดังอย่าง “ติ๊ก ชีโร่”  ออกมา

ร้องมาแล้ว ก็ต้องขยี้กันต่อ เรียกอารมณ์กันต่อเนื่อง ผู้ประกาศข่าว จึงได้เปรยไปว่า  “ก้าวไกล ฟังเอาไว้ ฟังดีๆ พร้อมที่จะฟังหรือไม่ ”

แถมมีการ บอกให้ เต้น มองตรงๆไปที่กล้อง เรียกได้ว่า รับส่ง กันอย่างครึกครื้นกันเลยทีเดียว เตัน  นั้นก็ไม่มีพลาดอยู่แล้ว  หัวเราะเอิ้กอ้าก ตามประสาคนอารมณ์ดี และร้องเพลงอีกรอบ “รอรับได้เลย ไม่เคยบิดพลิ้ว  สัญญา คือสัญญา  ปรารถนาเพียงเธอได้พบ อย่า ทวงสัญญา โดยสายตา ”

เอาเป็นว่า แฟนคลับเพื่อไทย ถ้าหากติดใจ ก็ไปติดต่อส่วนตัวกับ เต้น หากต้องการฟังเพลง นี้กันจนจบ หรือ เรียกแฟนคลับส้ม มาร่วมฟังกันด้วย ก็คงรื่นเริงกันไม่หยอก ลดอุณหภูมิร้อนฉ่า กันตอนนี้ได้ไม่มากก็น้อยแน่.

เจ้าพระพาย

The post “รอรับได้เลย” appeared first on .

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/stZcHkp
via World enews

Labels: , ,

Dani Dyer chooses matching initial names for newborn twin daughters: ‘My heart feels so full’




Dani Dyer has revealed the names of her twin daughters, Summer and Star, a week after giving birth.

The reality TV star, 26, who is already mother to son Santiago, welcomed the identical twins on 22 May.

The babies are her first with Premier League footballer Jarrod Bowen.

Sharing a string of photographs of the girls on social media, the daughter of EastEnders actor Danny Dyer wrote on Instagram: “Summer & Star. Our first week together and enjoying every moment of the newborn bubble.

“It’s been amazing watching Santi be a big brother he has melted my heart in ways I couldn’t imagine and he just feels like such a big boy all of a sudden.

“My heart feels so so full and so excited for our journey together as a family of five.”

One of the images shows one baby in a vest emblazoned with the words: “I’m Summer. That’s my sister Star,” while the other wears one saying: “I’m Star. That’s my sister Summer.”

Other photographs show the babies being cuddled by their parents Dani and Jarrod, 26, big brother Santiago, two, and grandfather Danny, 45.

When she announced the twins’ birth last week, Danny commented on the post: “Can’t stop smiling.”

Dyer shares Santiago with former partner Sammy Kimmence.

She dated Kimmence before she appeared on Love Island in 2018 and later rekindled their romance after her split from Jack Fincham, with whom she won the reality show.

Dyer later separated from Kimmence, who was jailed for three and a half years in 2021 for defrauding two pensioners out of more than £34,000.

She has also starred alongside her soap actor father on a number of shows, and they co-host a podcast together, called Sorted With The Dyers.

In 2021, Dani made an appearance on EastEnders as a pregnant taxi driver, Jeanette, who picked up Danny’s character from Albert Square.

Additional reporting by PA

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/AY2bhOZ
via World enews

Labels: , ,

Twilight star Rachelle Lefevre says she won’t bring her non-binary child to Target after Pride merch removed




Twilight star Rachelle Lefevre has hit back at Target’s decision to remove items from its Pride collection, with the actor revealing that she won’t be bringing her non-binary child to the store for a while.

The 44-year-old recalled how she and her seven-year-old first noticed the displays in their local Target in a video shared to her Instagram over the weekend. As she pointed out where the collection used to be, before it was taken down, she recalled her child’s happy reaction to the merchandise.

“My seven-year-old, who’s non-binary, saw it and said: ‘Look, Mom. It’s pride, look. They’re going to celebrate me,” she recalled. “And because some people complained and threw some stuff to the ground, I don’t know what happened, they have moved their Pride selection to the back of the store.”

She then tearfully shared that she won’t be bringing her child to Target throughout the month of June, which is Pride Month in the US.

“So the next time my seven-year-old comes to Target, or rather, I can’t bring them here anymore, at least for the entire month of June. Because if they walk in, and all the other people who walk in go, ‘Where’d it go?’” she said, referring to the Pride merchandise. “[They] are going to realise that they are being successful in trying to erase them.”

Lefevre concluded her video by criticising Target’s decision to take down the collection amidst backlash and threats to employees.

“We could do so much better than this,” she said. “We’re not supposed to negotiate with terrorists. We can do so much better than this.”

In the caption, she also tagged Target, as she accused the brand of taking its “performative allyship” to the “next level”. She also claimed that the retailer could have handled the situation in a different way, as opposed to taking the Pride collection down.

“And don’t anyone come back at me with ‘it was a security issue’ because this is a billion dollar company – if they really care, they can hire extra security but instead they chose to send the message that LGBTQ+ people aren’t worth protecting or fighting for,” she added.

Lefevre added a follow-up to the caption, in which she criticised anyone who wrote “hateful, ignorant garbage” in the comments of her video. She also encouraged those people to focus on finding more happiness in their lives.

“I’m sorry for whatever happened to you to make you susceptible to such lies and made your heart so hardened with hate, I truly am and I suggest you use your precious life force to find joy and fill your days with more love and more joy because you clearly aren’t finding it here,” the Homefront star wrote.

The Independent has contacted Lefevre and Target for comment.

On 24 May, Target first announced that it was pulling some of its Pride Month merchandise after several of its employees experienced inappropriate behaviour from upset customers.

“Since introducing this year’s collection, we’ve experienced threats impacting our team members’ sense of safety and well-being while at work,” Target said in a statement. “Given these volatile circumstances, we are making adjustments to our plans, including removing items that have been at the center of the most significant confrontational behavior.”

Several videos posted on social media have shown customers destroying Target’s Pride Month displays and heavily criticising the retail company for including LGBT+ attire.

Although the company did not specify which items it was removing, Reuters reported that the store pulled items from British designer Erik Carnell’s LGBTQ-focused brand Abprallen. According to the report, the backlash stemmed from Carnell’s other merchandise, which includes images of “Satanic” symbols such as pentagrams.

On the Abprallen Instagram account, the designer – who is trans and gay – condemned the response that led to the decision to remove the items, while clarifying that the merchandise was created for Target’s adult section and not for children.

“Not like there’s real problems in the world. Gotta talk about this instead. Satanic panic and transphobia running riot. Eighties mindset without the cool clothes,” Carnell wrote.

Carnell then addressed the outrage over his Target collection, with the designer sharing a photo of the three items he’d created for the company’s adult section for Pride. He reflected on his partnership with Target, which he said began with the company informing him that some of his designs, such as “Satan Respects Pronouns,” would not be a good fit for the store.

“[Target] was observant enough and had the necessary critical thinking skills to realise that my use of occult imagery is as harmless as any horror movie targeted towards adults, but wanted my collection for adults to be a bit less gothic,” he said.

The UK-based designer also said that he has “no desire to make any children trans or make any children gay,” as he noted that being transgender or gay is “not a choice [and] cannot be forced upon anyone”.

In a statement from Abprallen shared with The Independent, Carnell said he has been “incredibly negatively impacted emotionally” by the “false” narrative that his Target merchandise was meant for children.



ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/GY2LHVB
via World enews

Labels: , ,

With elections in Mexico’s most populous state, old ruling party may be nearing its end


Mexico’s former ruling party could face near-extinction in Sunday’s governorship election in the State of Mexico, the largest of Mexico’s 32 states and the last large one governed by the old Institutional Revolutionary Party, the PRI.

The race could also mark a high point for President Andrés Manuel López Obrador’s Morena party, which has imitated — and largely replaced — the old PRI across the rest of Mexico. Nearly five years into his single six-year term, López Obrador remains highly popular.

Polls suggest Morena could win by a wide margin in the State of Mexico, a contest seen by many as a preview of next year’s presidential elections, in which the party is also seen as the favorite.

While the PRI might still hold on to the sparsely populated northern state of Coahuila, which is also electing a new governor Sunday, the loss of Mexico State — a mix of suburbs, slums and agricultural communities that surrounds Mexico City on three sides — would probably spell the end of the PRI as a major player.

For a party that held the presidency without interruption from 1929 to 2000 — and has governed the State of Mexico for 94 years — it would be a humiliating end.

“After June 4 if the PRI loses, you can assert with clarity that it no longer has a future, even though it might take a while to disappear. It might hold on at a regional or local level, but not on a national level. It is coming to its end,” said political analyst Benedicto Ruiz Vargas.

Ruiz Vargas has seen in his home state of Baja California what happens when the PRI goes into a death spiral; many of its members either retire or seek to join Morena. “The old guard that has always been there are governing within a new party. It is the PRI mutating into Morena,” he said.

That would suit López Obrador just fine. Many of the top positions in his government are occupied by former PRI members, like himself.

Sociologist Bernardo Barranco says López Obrador is a bit of a throwback to the charismatic PRI presidents of the 1960s and 70s, who gave out government-built apartments and government-run grocery stores. Unfortunately, they were also corrupt and ran the economy into the ground.

López Obrador “has a style like the PRI had in the 1960s,” Barranco said, adding “there is a nostalgia for that protective state that looked out for people’s incomes.”

In Mexico State, where the current, patrician Gov. Alfredo del Mazo is a third generation PRI politician and governor, López Obrador’s party is running Delfina Gómez, a not very charismatic former schoolteacher whose demeanor very much comes from the classroom.

PRI is running Alejandra del Moral, a former mayor with a long list of university degrees.

But the deciding factors for voters in the State of Mexico are much earthier, and have to do with survival.

When work is scarce, refrigeration technician Juan Ayala runs a small stand selling sunglasses, hats and toys on the sidewalk of the huge municipality of Ecatepec.

He is sure Morena candidate Delfina Gómez will win, because he — like many others in the rough Mexico City suburb — is tired of corruption that has lasted almost a century.

As a reporter speaks with him, a burly young man from a shadowy “autonomous social organization” — that’s what it says on his jacket — passes through and silently demands 50 pesos in payment from every vendor on the side walk, and takes a photo of each one after they pay. The vendors say it happens every week, and those who don’t pay are banned from selling.

“It’s wrong, because they get rich off it. They’ve been doing it for 50 years,” Ayala said.

Leonaro Gonzalez, 61, who works as part of a cleaning crew, says she hopes the PRI will win, if only to return to a past time when crime wasn’t so bad in the State of Mexico. Crime is so common here that when young men carrying pistols climb aboard commuter vans here, they simply announce robberies with phrase “you know the routine, people, wallets and cell phones.”

Gonzalez herself had her wallet and cellphone stolen at gunpoint recently as she exited a subway station at night after a long day’s work.

“It feels terrible, what little you have, and they take it,” said González. “Before, there wasn’t so much crime. Now you don’t feel safe. You can’t even go out at night.”

Everyone agrees that the bigger issues of national party politics aren’t the deciding factor in this largely poor state: Direct cash payments are.

López Obrador established a monthly food aid payment for people over 65 that currently pays about $135 per month. For many here, that — along with scholarships for high school students and other aid programs — are key.

“The issue here is basically money,” said businessman Carlos Sanchez, who says his mother-in-law was able to fix up her house by saving up three months of López Obrador’s monthly payments.

The PRI tried a similar strategy with a debit card dubbed “the Pink Salary” for housewives, but Sanchez said there were often no funds deposited in the cards.

In addition, Sanchez says his high school age son is eligible for a $150 per month scholarship. “Morena may be the same as the other parties, but at least they do give us things,” he said.

It is all part of López Obrador’s ability to tap into a deep historical vein of Mexican leadership as the benevolent leader.

“Morena has to win. The old age pensions, all the other benefits. They give out the wealth of the nation, while the other parties in the past gave you a bag of food or a water tank,” said Ayala, the refrigeration tech.

Barranco, who formerly served on the elections board in the State of Mexico, said the PRI’s own history weighs against it, noting it’s hard to convince people you represent a change if you’ve been in power for 94 years.

While the PRI once produced charismatic if corrupt leaders who were able to provide handouts from the country’s oil wealth or a long stretch of economic growth, by the 1980s economic crises forced the party into a more technocratic, neo-liberal mode.

“On average, seven out of ten people in the State of Mexico want a change. They are sick and tired of the ruling party,” Barranco said.

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/qIAt7ph
via World enews

Labels: , ,

‘อัยยวัฒน์’ปธ.เลสเตอร์ ยอมรับเจ็บปวดผิดหวัง แต่พวกเราจะกลับมาใหม่



คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้
คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ส่งสารถึงแฟนบอลหลังจบฤดูกาล 2022/23
 
วันนี้ พวกเราทุกคนเจ็บปวดและผิดหวัง แต่พวกเราจะกลับมาอีกครั้ง
 
การเดินทางของเราเริ่มต้นในปี 2010 เมื่อเราเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เลสเตอร์ ซิตี้ นับตั้งแต่วันที่เราเข้ามา เรารู้สึกได้ถึงความรักและความคลั่งไคล้ของแฟนบอลทุกคน ตั้งแต่วันนั้น เรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่นั่นคือการพาสโมสรกลับไปเล่นในพรีเมียร์ลีก
 
เราใช้เวลากว่า 4 ปีในการพาทีมไปสู่เป้าหมายที่เราฝัน เราทุ่มเทเพื่อให้สโมสรของเราพัฒนาขึ้นในทุกด้าน เราลงทุนกับตลาดซื้อขายนักเตะ, ทีมงานผู้ฝึกสอน ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ของสโมสร ทั้งหมดก็เพื่อทำให้ทุกคนมั่นใจว่าเราจะเป็นทีมระดับพรีเมียร์ลีกอย่างแท้จริง เรามีช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เราก็ไม่เคยยอมแพ้ และเดินหน้าต่อไป เราเชื่อว่าสิ่งที่เรากำลังสร้างกันอยู่นั้น จะทำให้เราประสบความสำเร็จตามที่เราต้องการได้
 
การเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เรื่องราวหลังจากนั้นคือสิ่งมหัศจรรย์ที่ทุกคนไม่มีวันลืม ฤดูกาลแรกของเราในพรีเมียร์ลีก ทุกคนคิดว่าเราจะตกชั้นแน่นอน อย่างไรก็ตามเรารวมใจกันฝ่าฟันทุกอุปสรรค พวกเรารอดตกชั้น จนได้รับขนานนามจากแฟนฟุตบอลว่า “การหนีตกชั้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ก่อนที่ในฤดูกาลต่อมาเราจะสร้าง “เทพนิยาย” ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการกีฬาด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ทั้งที่ไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น เราเกือบจะตกชั้น
 
เราพา เลสเตอร์ ซิตี้ ไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แฟนบอลของเราได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศค่ำคืนแห่งฟุตบอลยุโรป เราได้ออกไปเยือนเมืองต่าง ๆ ในยุโรปเช่น ปอร์โต้, บรูจ, โคเปนเฮนเก้, เซบีญ่า และ กรุงมาดริด เราต่อยอดความสำเร็จเหล่านั้นด้วยการนำนักฟุตบอลชื่อดังเข้าสู่สโมสร, สร้างสนามซ้อมและศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งใหม่ รวมไปถึง การต่อเติมและขยายความจุของสนาม “คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม” เพื่อรองรับการเติบโตและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของสโมสรในระยะยาว
 
ในปี 2018 เราทุกคนร่วมแสดงความเสียใจกับการจากไปของคุณพ่อของผม คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสรของเรา นั่นคือช่วงเวลาที่ผมและครอบครัวเจ็บปวดมากที่สุดในชีวิต แต่เพราะความรักและการสนับสนุนของทุกคนในครอบครัวเลสเตอร์ ซิตี้ มันทำให้ผมผ่านพ้นช่วงเวลานั้นมาได้ พร้อมทำให้สายสัมพันธ์ของพวกเราแน่นแฟ้นกว่าเดิม และผมสัญญากับทุกคนว่า ในฐานะประธานสโมสรคนใหม่ ผมจะเดินตามรอยของคุณพ่อ พร้อมกับพา เลสเตอร์ ซิตี้ ให้กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิมให้ได้
 
ในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนบนโลกนี้ สโมสรของเราเองก็ประสบปัญหาเหมือนอย่างเช่นหลาย ๆ สโมสร พวกเราสูญเสียรายได้ และจำเป็นต้องปรับตัว แต่เราเองก็ยังคงสนับสนุนชุมชนเลสเตอร์ของเรา พร้อมกับพยายามรักษาผลงานของสโมสรไปด้วย เราสามารถก้าวขึ้นไปอยู่ในกลุ่มท็อปซิกส์ของพรีเมียร์ลีก เราได้กลับไปลงเล่นฟุตบอลยุโรปอีกครั้ง เราก่อตั้งทีมฟุตบอลหญิงของสโมสร เราได้แชมป์เอฟเอ คัพ ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร เราคว้าโล่การกุศล เอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลด์ เราได้ไปเล่นที่ มอสโก, แรนส์, ไอนด์โฮเฟ่น และ โรม เราผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลสโมสรยุโรปเป็นครั้งแรก
 
แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ทั้งหมดที่เราได้สร้างความทรงจำด้วยกันมา แต่ผมอยากให้เราเห็นถึงความพยายามของพวกเราตลอด 13 ปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งหมดทำให้ผมมั่นใจว่า เราจะกลับมาได้อีกครั้ง แน่นอนว่าการตกชั้นคือการถอยหลัง แต่มันจะไม่ใช่จุดจบของพวกเรา
 
ฤดูกาลที่เพิ่งจบลงไปเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากของพวกเราทุกคน และท้ายที่สุดแล้ว เราต้องตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก เมื่อวานนี้ เราทุ่มเททุกอย่างเพื่อหวังที่จะอยู่รอดต่อไปในพรีเมียร์ลีก บรรยากาศในสนามสุดยอดมาก น่าเสียดายที่ในท้ายที่สุด เราไม่สามารถอยู่รอดต่อไปได้ ฟุตบอลลีกเป็นการลงเล่น 38 เกม และเราต้องยอมรับว่าเราทำได้ไม่ดีพอ หลังจากนี้ เราจะต้องกลับมาทบทวนและค้นหาคำตอบว่าทำไมเราถึงมาอยู่ในจุดนี้ เราจำเป็นต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ในครั้งนี้ พร้อมกับนำบทเรียนเหล่านี้มาทำให้พวกเราแข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมทั้งป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดแบบนี้อีกในอนาคต
 
วันนี้ พวกเราทุกคนเจ็บปวดและผิดหวัง แต่ว่าพวกเราจะกลับมา
 
ผมมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ต่อสโมสรแห่งนี้ และผมสัญญาว่าผม ครอบครัว และกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จะทำทุกอย่างเพื่อพาสโมสรแห่งนี้กลับมาสู่พรีเมียร์ลีกให้ได้
 
ผมได้รับข้อความมากมายจากแฟน ๆ ของเรา ทั้งในทางบวกและทางลบ ท่ามกลางข้อความเหล่านั้น ผมก็ยังได้รับข้อความสนับสนุนและกำลังใจมากมายจากผู้คนทั่วสารทิศ ทั้งที่ผมได้เจอในสถานที่สาธารณะ หรือข้อความจากโลกออนไลน์ ทั้งหมดมันมีความหมายกับผมและครอบครัวมาก ๆ
 
ผมและครอบครัวอยากจะขอบคุณทุกแรงสนับสนุนและกำลังใจ และอยากจะบอกกับทุกคนว่า พวกเรายังตั้งใจ มุ่งมั่น และทุ่มเทให้กับ เลสเตอร์ ซิตี้ เหมือนเช่นเมื่อ 13 ปีที่แล้ว บรรยากาศในสนามเมื่อวานนี้ รวมไปถึงข้อความให้กำลังใจ ที่ทุกคนมอบให้เรา เราจะเก็บมันไว้ในใจเสมอ มันเป็นพลังใจของพวกเราทุกคน และเราจะใช้พลังใจเหล่านี้พาทุกคนกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง
 
ฤดูกาลหน้าจะเป็นฤดูกาลที่ยากลำบาก มันจะเป็นปีที่ทุกคนต้องร่วมแรงร่วมใจครั้งใหญ่เพื่อกลับมาสู่ลีกสูงสุดอีกครั้ง และผมขอสัญญาว่าเราจะพยายามและสู้จนพาทีมกลับมาสู่พรีเมียร์ลีกให้ได้
 
ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุน
 
อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
ประธานสโมสร

The post ‘อัยยวัฒน์’ปธ.เลสเตอร์ ยอมรับเจ็บปวดผิดหวัง แต่พวกเราจะกลับมาใหม่ appeared first on .

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/JjfOCKo
via World enews

Labels: , ,

Monday, May 29, 2023

หัวเชื้อจอมโกหก จะปั่นเพื่อ…? เมื่อ “มหาโจรชูวิทย์” แสนรู้อ้างดีลลับรัฐบาลใหม่ ด้อมไม่ไหวจะทน “มรึงจะหิวแสงอะไรนักหนาวะ” ** อยู่ดีๆเรียกหาทัวร์มาลง “พี่เต้” แซะพ่อส้ม112 เลือก “ลุงตู่”ดีกว่า งานนี้ความสงบไม่จบแค่ด่า!!



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** หัวเชื้อจอมโกหก จะปั่นเพื่อ…? เมื่อ “มหาโจรชูวิทย์” แสนรู้อ้างดีลลับรัฐบาลใหม่ ด้อมไม่ไหวจะทน “มรึงจะหิวแสงอะไรนักหนาวะ”

“คือมรึงจะหิวแสงอะไรนักหนาวะ..อยู่เฉยๆเหอะ”
“แสนรู้จริงๆ รู้จนให้เขาทะเลาะกัน”
“รับงาน..ใครมาอีกกกก”

นี่เป็นความเม้นต์บางส่วนของ “ด้อมส้ม” และ “ด้อมแดง” ที่สามัคคีร่วมด้วยช่วยรัวคีย์บอร์ดเข้าใส่ตัวตึง “มหาโจรจอมปั้นน้ำเป็นตัว” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

บ่งบอกอารมณ์อย่างชัดเจนว่า ที่โจรชูวิทย์โพสต์อ้างไปรู้มาถึง “ดีลลับ” รัฐบาลใหม่ ไม่มีพรรคก้าวไกล แฉว่ามีการเจรจาผลักก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน โดยรัฐบาลใหม่ จะรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งได้ ประกอบด้วย เพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ  ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา และ ส.ว.จะโหวตผ่านฉลุย และยังอ้างว่าดีลลับดังกล่าวมีแพ็กเกจพิเศษ “กลับบ้าน” ของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร นั้น…ถือเป็นตัวสร้างสตอรี่รายวัน ขยันปั่น ปั่นไปเพื่ออะไร ?

โจรชูวิทย์ยังโหวกเหวก กลัวคนไม่เชื่อว่า สูตรลับเจรจาตกลงไฟเขียวผ่านตลอด รายงานนี้ยืนยันถึงตัวตนคนเจรจา แต่ขอปิดแหล่งข่าว เมื่อใช้วิชา “โจรการเมือง” จรรยาโจรต้องมี ไม่ขอเอ่ยชื่อผู้ร่วมวงเจรจา ก่อนจะทิ้งท้ายว่า กลิ่นเหม็นเน่า “ประชาธิปไตยจอมปลอม” เริ่มโชยมาแต่ไกล

งานนี้อย่างที่บอกในตอนแรก โจรชูวิทย์เอ่ยปากมา ด้อมส้ม ด้อมแดง รู้ได้ทันที ไม่ต้องนำสืบ ไอ้ที่ปลอมมากกว่าประชาธิปไตยก็ โจรชูวิทย์ นี่แหละ!

ปั่นแต่ละเรื่อง มีแต่เรื่องไม่จริง สังคมพิสูจน์มาแล้วหลายครั้งหลายครา จนตัวเองยอมรับแล้วเรียกตัวเองว่า “มหาโจร” ลดแรงคนนินทา หมาดูถูก เลยต้องชิงดูถูกตัวเองไว้ก่อน

งานประจำคือ รับงานคนนั้นคนนี้มาปั่น ใส่ร้ายป้ายสี ด่าทอ เที่ยวยุแหยงตะแคงรั่ว มั่วข้อมูลจนถูกคนจับได้ “แฉไป ไถไป” หิวแสงตลอดเวลา เป็น “หัวเชื้อ” คนตลบ ตะแลงที่แท้จริง

หมดจากเรื่องนั้น ก็หันหาเรื่องใหม่มาปั่นเพื่อโหนกระแสให้ตัวเองอยู่ในแสงทั้งๆ ที่ตัวตนเป็นตัว “ไร้ราคา” ยังไม่รู้สึก
คราวก่อนไม่นานมานี้ มั่วและแอบอ้างคนใหญ่คนโต จะเป็นคนกลาง ตามที่ถูกร้องขอจาก “ปิยบุตร แสงกนกกุล” นัดให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าก้าวไกลมาหา จะพาไปเจรจากับ “คนที่คุณก็รู้” มีอำนาจจัดตั้งรัฐบาลได้

โถ…คุยใหญ่คุยโต สุดท้ายถึงเวลาไม่มีอะไร ไม่มีใครมาหา..นี่ก็โกหกไปอีกเรื่อง

ย้อนกลับมาถึงเรื่องจัดตั้งรัฐบาล “ด้อมส้ม-ด้อมแดง” ที่ปกติเป็น “น้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง” กลับจับมือกันฟาดโจรชูวิทย์ เพราะ รู้เท่าทันความน้ำเน่าต่ำตมของจอมแถคนนี้

พูดเอามันส์ถ่ายเดียว แต่ไม่รับผิดชอบต่อสังคม

ด้อมๆทั้งหลาย ดักคอไว้ล่วงหน้าเลยว่า ถ้าไม่เป็นอย่างที่พูด เพราะความจริงมีหนึ่งเดียว ประเดี๋ยว โจรชูวิทย์ ก็จะมีข้ออ้าง แสร้งตีหน้าบ้า ใบ้ เล่นละครลิง แบบถนัด

…และ จะ”ตีกิน” ทันที ถ้าเรื่องนั้นเข้าทาง อ้างเป็นผลงานตัวเองอย่างหน้าด้านๆ หาเรื่องมาโกหกใหม่ ต่อยอดให้ตัวเองดูมีเครดิต

โจรอัลไรแบบนี้ สังคมไหนมีก็รังแต่จะทำให้สังคมเสื่อมทราม เด็กเลี้ยงแกะยังมีประโยชน์ เป็นนิทานอีสปสอนใจ แต่โจรชูวิทย์ จอมโกหก หาประโยชน์อะไรไม่ได้ให้สังคมจริงๆ

**อยู่ดีๆเรียกหาทัวร์มาลง “พี่เต้” แซะพ่อส้ม112 เลือก “ลุงตู่”ดีกว่า งานนี้ความสงบไม่จบแค่ด่า!!

มาจะกล่าวบทไปถึง “เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ อดีตส.ส.และ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เคลื่อนไหวในโลกโซเชียลฯ หลังสอบตก ที่ยังปลงไม่ตก ว่าง 4 ปี จะทำอะไร ระหว่าง youtuber นักปราบทุจริต หรือ นักร้องเพลง หรือ พิธีกรข่าว หรือ ดารา ว่างๆ จึงโพสต์เฟซบุ๊กของเจ้าตัว “มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์” ระบุว่า…

“ถ้าให้ผมเลือก ระหว่าง“พิธา”แก้ ม.112 กับ “ลุงตู่”ไม่แก้ ม.112 “ผมเลือกความสงบสุขของบ้านเมือง เลือกลุงตู่ครับ”
ว่ากันตามทำนอง “พี่เต้” ก็มีเหตุผลของพี่เต้ คนที่ชื่นชอบก็กระทืบไลค์กันไป ชื่นชมพี่เต้ ว่าแสดงจุดยืนชัดเจน มีความเห็นต่าง รอบหน้าจะเลือกใหม่

แต่บังเอิญโลกโซเชียลฯ วันนี้ คนที่ “เกลียดลุง” เป็นทุนเดิม และเพิ่มเติมคือ ณ เวลานี้ฝ่าย “ชัยชนะของก้าวไกล” ที่ย้อมโลกเป็นสีส้มมีมากกว่า เขาก็ว่า “มันจบแล้วนาย”

มันจึงทำให้ความคิดนี้ของ “พี่เต้” กวักมือเรียก”ทัวร์”ลงจอดที่บ้านซะอ่วมอรทัย

จากคอมเม้นต์ล้นหลาม มีไม่น้อยที่เห็นว่า “พี่เต้” พักเถอะ พักก็คือพัก เพราะความคิดแบบนี้จึงได้นอนสบายอยู่บ้าน
เริ่มเลอะเทอะ ไร้ราคา เหมือนไม่ได้เอาสมองมาโพสต์ด้วย

ถ้าเลือกลุงก็ไปอยู่กับลุง อย่ามา ** กับพิธา

ก้องี้งัย ถึงได้สอบตก…สอบตกทั้งเลือกตั้ง และวิธีคิด ยินดีกับประชาชนชาวไทยที่ “พี่เต้”ไม่ได้เข้าสภา
สอบตกดีแล้วประชาชนเขาจะได้เจริญ

อย่างว่าแหละ ที่จริงเรื่องนี้ก็นานาจิตตัง ความเห็นของใครก็ของมัน แต่ช่วงนี้โลกเป็นสีส้ม ความสงบจึงไม่จบแค่ลุง แถมตามด่าคนเลือกลุง ด้วยประการฉะนี้

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/ZguQA76
via World enews

Labels: , ,

‘มาซะ’ปลื้มบุรีรัมย์ ปิดฤดูกาลได้ตามเป้า คว้า’ทริปเปิ้ลแชมป์’



ความเคลื่อนไหวหลังเกมฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ 2022/23 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 66 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปได้ 2-0 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า คว้าแชมป์ ช้าง เอฟเอ คัพ 2022/23 ไปครอง พร้อมกันนี้เป็นการครองแชมป์เอฟเอ คัพ เป็นสมัยที่ 6 และเป็นการคว้าแชมป์ รายการที่ 3 ของฤดูกาล 2022/23 ต่อจากการคว้าแชมป์ ไทยลีก 2022/23 และแชมป์รีโว่ คัพ 2022/23
 
ทั้งนี้ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกของเมืองไทยที่คว้า “เทรบ’เบิลแชมป์” คว้า 3 แชมป์ในฤดูกาลเดียว ได้ 2 ครั้งติดต่อกัน
 
มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า “ดีใจมากสำหรับเกมนี้ เป็นเกมสุดท้ายของฤดูกาลที่เราทำผลงานกันได้ดี เกมนี้ต้องยอมรับว่า ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นทีมที่มีคุณภาพสูงมาก ซึ่งเราสามารถที่จะเอาชนะได้แบบไม่เสียประตู มันทำให้ผมมีความสุขมาก ก่อนเริ่มฤดูกาลเราตั้งเป้าหมายไว้ยิ่งใหญ่ คือการคว้า 3 ถ้วยให้ได้ 2 ปีติดต่อกัน เมื่อเราทำได้ก็ดีใจ มันเป็นการมอบของขวัญให้กับแฟนบอล เราได้ทำให้แฟนบอลมีความสุข”
 
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการเตรียมทีมเพื่อสู้ศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก กุนซือชาวญี่ปุ่น เผยว่า “จากนี้เราจะได้พักเบรกกันสั้น ๆ ซึ่งทีมก็เตรียมที่จะเสริมนักเตะต่างชาติ เพื่อให้พร้อมสำหรับฤดูกาลต่อไป และการสู้ศึกในฟุตบอลถ้วยเอเชีย”
 
สำหรับรางวัล ช้าง สปอร์ตแมนชิพ ที่เป็นของ ศุภชัย ใจเด็ด “มาซะ” เผยว่า “ศุภชัย ใจเด็ด เป็นนักเตะที่สุดยอดครับ เป็นกองหน้า ที่ลงมาช่วยทีมเล่นเกมรับได้ตลอด ทำผลงานมาได้ดีตลอดทั้งฤดูกาล”
 
ส่วนเรื่องท้ายเกม มาซาทาดะ อิชิอิ เปิดเผยว่า “เท่าที่ผมเห็นจังหวะแรกเหมือนผู้เล่นบียู จะเอามือไปปัดบอลแต่มาโดนหน้าของทาง โจนาธาน โบลินกิ ทำให้ โบลินกิ ไปแสดงท่าทางที่ไม่ดีออกไป จุดแรกเลยตัวโค้ชก็พยายามที่จะไปห้าม และในจังหวะนั้นทางสตาฟของแข้งเทพ เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ โบลินกิ ตัวโค้ชเองก็พยามจะไปยุติเหตุการณ์ เพราะจังหวะดังกล่าวสตาฟโค้ชแข้งเทพ ไม่ควรจะมายุ่งเกี่ยวกับนักเตะ หลังเกมทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็มาขอโทษทางเรา เพราะคงจะเห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทางผมเองก็อยากจะขอโทษด้วยที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในเกม”

The post ‘มาซะ’ปลื้มบุรีรัมย์ ปิดฤดูกาลได้ตามเป้า คว้า’ทริปเปิ้ลแชมป์’ appeared first on .

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/O4UxoIG
via World enews

Labels: , ,