World enews: สุดย้อนแย้ง! “ธนาธร” ออกตัวแรงsaveจะนะ เจอย้อนเจ็บ ครอบครัวรุกที่ป่าสงวน เคยหวงแหนธรรมชาติมั้ย!?

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) เข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น จ.สงขลา ซึ่งเดินทางมาชุมนุมทวงสัญญาที่รัฐบาลเคยระบุจะยุติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ และแก้ไขผังเมืองเอาไว้ก่อน ทั้งนี้มีการจับกุมตัวผู้ชุมนุมขึ้นรถผู้ต้องขังนำตัวไปควบคุมที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรุงเทพฯ และได้รับการปล่อยตัวในช่วงบ่ายของวันที่ 7 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา

ขณะที่ทางด้านบช.น. ได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์เข้าสลายการชุมนุม ว่ามีรายงานพบว่ากลุ่มอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ชาวบ้านเข้ามาแฝงตัวป่วนในการชุมนุมดังกล่าวด้วย ทำให้ต้องรีบสลายม็อบ ยุติการเคลื่อนไหวให้ได้ไวมากที่สุด เพราะอาจจะเกิดเหตุรุนแรงบานปลายได้ และทำตามหลักสากล

ทั้งนี้ทางด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ออกมาเคลื่อนไหว กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ โดยระบุว่า ขอประณามการทำเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่รัฐ จากการสลายการชุมนุมของพี่น้องชาวจะนะ คนทุกคนมีสิทธิที่จะหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติและวิถีชีวิตของตนเอง ชาวบ้านเพียงต้องการปกป้องทะเล ชายหาด และวิถีชีวิตของพวกเขา จากการพัฒนาที่ไม่เห็นหัวคนในพื้นที่ พวกเขาเดือดร้อนเพราะชายหาดของพวกเขาจะหายไป วิถีประมง ซึ่งเป็นรายได้ของพวกเขาจะหายไป ผมเคยไปดูสถานที่จริง ได้เห็นถึงความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ รู้สึกเสียดายหากพื้นที่นี้จะถูกสร้างเป็นนิคมอุตสาหกรรมเพื่อผลประโยชน์จากการขายที่ดิน

ต่อมาในโลกโซเชียลได้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเคลื่อนไหวของนายธนาธร ว่าดูย้อนแย้ง และขอถามกลับว่า ครอบครัวธนาธรไม่คิดหวงแหนธรรมชาติบ้างหรอ ที่โดนคดีรุกที่ป่าสงวน โดยในเพจเฟซบุ๊ก เสธ.Play ยังแสดงความคิดเห็นด้วยว่า “เสธ. รู้สึกประทับใจกับความรักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติของ ฯพณฯท่านธนาธรมาก ๆ เลยครับ

รบกวนไปบอกอาอึ๊มสมพรด้วยนะครับ
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องของการใช้กำลังในการปราบปรามผู้ชุมนุม ก็คือ
1. ณ จุดนั้นเป็นพื้นที่หวงห้าม ไม่สามารถจัดชุมนุมในพื้นที่นั้นได้
2. ชาวบ้านดื้อดึงจัดชุมนุมในพื้นที่หวงห้าม ซึ่งผิด พรบ.ชุมนุมในที่สาธารณะ เจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกก่อนผู้ชุมนุมจะยึดหลักปักฐาน
3. เจ้าหน้าที่ไม่ผลักดันได้หรือไม่? คำตอบคือได้ แต่ก็เสี่ยงโดน ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
4. พูดขอร้องให้ย้ายที่ชุมนุมแล้วไม่ได้รับความร่วมมือ จึงไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ถูกผลักดันด้วยกำลังครับ
จริง ๆ เรื่องนี้จะไม่เป็นเรื่องถ้าผู้ชุมนุมยอมย้ายที่สักหน่อยแล้วมาคุยกัน จบสวยแน่ครับ ที่มันจบไม่สวยแบบนี้เพราะมีใครยุยงหรือเปล่า? ลองไปสืบดูครับ
ใบ้ว่าปกติม็อบพวกนี้จะมี NGO หนุนหลังเสมอ”

อย่างไรก็ตามในคดีที่เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ได้แจ้งเอาผิดกับนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้านั้น เจ้าตัวได้เข้าพบตำรวจป่าไม้ เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2564 ที่ผ่านมา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกคดีบุกรุกป่าสงวน จ.ราชบุรี กว่า 450 ไร่ แต่คงยังให้การปฏิเสธ

โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ฐานยึดถือครอบครองทําประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทําไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทําการด้วยประการใด ๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ป่าไม้ ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือกระทําการใดๆ อันเป็นการทําลายป่าฯ และความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน ภายหลังกรมป่าไม้ แจ้งความเอาผิดกรณีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กว่า 450 ไร่ และออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ พื้นที่อีกกว่า 2,000 ไร่ แต่ประเด็นดังกล่าวนายธนาธรและคณะก้าวหน้า พรรคก้าวไกล ไม่เคยออกมากล่าวถึงเลยแม้แต่ครั้งเดียว