“อนุชา” นำ กมธ.พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าฯลงพื้นที่ “สะเอียบ” รับฟังความเห็นผู้ผลิตสุราชุมชน
“อนุชา” นำ กมธ.พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าฯ รับฟังข้อเสนอแนะจากกลุ่มผลิตสุรากลั่นชุมชน จ.แพร่ พร้อมนำข้อเสนอไปพิจารณาอย่างรอบคอบ-ครอบคลุมทุกมิติ
วันนี้ (22 ส.ค.65) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. สภาผู้แทนราษฎร (พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าฯ) พร้อมด้วย กมธ.และ ส.ส.ประกอบด้วย นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล, นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ, นายภาคิน สมมิตรธนกุล, นายจีรเดช ศรีวิราช, นายนิยม วิวรรธนดิฐกุล, นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู และนายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ลงพื้นที่ศึกษาถึงกระบวนการผลิตสุรากลั่นชุมชน และรูปแบบการดำเนินการของผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการด้านการผลิตสุราชุมชน ณ วิสาหกิจชุมชนสุราสักทองแพร่ ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ และร่วมรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าฯโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ข้าราชการในพื้นที่ และผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.แพร่ และจังหวัดใกล้เคียงให้การต้อนรับ
นายอนุชา เปิดเผยว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ เพื่อมาศึกษากระบวนการผลิตสุรากลั่นชุมชน รวมถึงเพื่อมาสอบถาม รับฟังความคิดเห็น ของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะได้นำข้อมูลที่ได้รับในครั้งนี้ไปประกอบการพิจารณาและนำเสนอรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากประชาชนในพื้นที่ ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ มีการประกอบอาชีพผลิตสุรากลั่นชุมชนที่มีชื่อเสียง อันเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดมาช้านาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ทั้งนึ้ เพื่อให้ได้รับทราบข้อมูลและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างกฎหมายจากผู้ประกอบการผลิตสุรากลั่นชุมชนในพื้นที่ จ.แพร่ และจังหวัดใกล้เคียง (น่าน เชียงใหม่ พะเยา) นำข้อมูลมาประกอบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าฯต่อไป
ตัวแทนชมรมอนุรักษ์ภูมิปัญญาสุราพื้นบ้าน เสนอต่อ กมธ.ฯ ว่า เพื่ออำนวยความสะดวกและเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ ขอให้เพิ่มจำนวนพนักงานและเพิ่มแรงม้าในการผลิตได้ไม่เกิน 50 แรงม้า รวมทั้ง ขอให้พิจารณาการเก็บภาษีผลิตสุรา ซึ่งปัจจุบันมีความซ้ำซ้อนระหว่างภาษีสรรพสามิตและภาษีสรรพกร ทำให้ผู้ประกอบต้องแบกรับภาษีที่ซ้ำซ้อน และไม่สามารถนำภาษีดังกล่าวไปลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ ขอให้เปิดเสรีสุรากลั่นชุมชน สามารถผลิตเบียร์และสุราผสมได้ เพื่อประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ในระดับรากหญ้า และเพื่อเป็นการแข่งขันกับสุราที่นำเข้าจากต่างประเทศ และขอให้เพิ่มรายการแสตมป์ในดีกรีที่หลากหลายตรงกับความต้องการของตลาดให้สามารถแข่งขันกับสุราขาวต่างประเทศ โดยให้สามารถปรุงแต่งกลิ่นสี รสได้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค ส่วนการยื่นขออนุญาตฉลากเพื่อเปิดภาชนะบรรจุสุรา ขอให้แก้ไขฉลากเฉพาะบางส่วน ไม่ต้องยื่นให้กรมสรรพสามิตพิจารณาใหม่ แต่ให้ยื่นต่อสรรพสามิตในพื้นที่พิจารณา เพื่อความสะดวกและลดความซ้ำซ้อนในการพิจารณา
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ขอชื่นชมความเข้มแข็งของชุมชนในการรวมกลุ่มผลิตสุรา ถือว่าเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน และสามารถเสียภาษีให้กับประเทศชาติปีละเป็นจำนวนมาก เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ประกอบการ เกิดการจ้างงานในระดับรากหญ้าให้มีอาชีพทำกินโดยสุจริต ถูกต้องตามกฎหมาย และยังคงความอนุรักษ์ภูมิปัญญาสุราพื้นบ้านสืบทอดต่อไป ขอให้ช่วยกันส่งเสริมชุมชนให้มีจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเข้าไปส่งเสริมพัฒนาการศึกษาของบุตรหลานในชุมชน และพัฒนาคุณภาพชีวิต วัฒนธรรมในท้องถิ่นให้อยู่อย่างยั่งยืน
“สำหรับข้อเสนอแนะ ทาง กมธ.ฯ จะนำไปพิจารณาประกอบร่างกฎหมายฯ อย่างละเอียดรอบคอบ ครอบคลุมทุกๆ มิติ ทั้งประโยชน์ของผู้ประกอบการ และผลกระทบต่อผู้บริโภค รวมทั้งต่อสังคม” นายอนุชา ระบุ.
Source link
from World eNews Online https://ift.tt/4xhzupV
via World enews
Labels: news, World eNews Online, worldnews
0 Comments:
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home