Tuesday, September 6, 2022

วาระ8 ปี“บิ๊กตู่-ป้อม” จบเร็ว ไปต่อ !?



เมืองไทย 360 องศา


มีรายงานล่าสุด เมื่อวันที่ 5 กันยายนว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ได้เรียกประชุมนัดพิเศษในวันพฤหัสที่ 8 กันยายนนี้ เพื่อพิจารณาคดี “8 ปีนายกฯ” ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ ไม่มีการนัดประชุมมาก่อน มีเพียงการนัดประชุมในวันที่ 14 กันยายนนี้ เพื่อลงมติวินิจฉัยกรณีความสิ้นสุดการเป็นรัฐมนตรีของ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือไม่ จากคดีประมูลรถซ่อมบำรุงทางขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา

มีรายงานว่า นายวรวิทย์ กังศศิเทียม ประธานศาลรัฐธรรมนูญ แจ้งว่า ได้รับคำชี้แจงของพยาน 3 ปาก คดี 8 ปี นายกฯ เรียบร้อยแล้ว คือคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 จึงนัดประชุมพิเศษวันดังกล่าวขึ้น เพื่อที่จะอภิปรายคำชี้แจงและหลักฐานต่างๆ ว่า สิ้นข้อสงสัยเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้แล้วหรือยัง หากยังไม่สิ้นข้อสงสัย ต้องแสวงหาหลักฐานและพยานเพิ่มเติมต่อไปหรือไม่ ทั้งนี้หากสิ้นข้อสงสัย ก็จะนัดวินิจฉัย

มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ก.ย.65 ทีมกฎหมายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นำโดยพล.ต.วิระ โรจนวาศ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้รับผิดชอบจัดทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ได้ส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญ และศาลได้รับเอกสารดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

เป็นเอกสารที่มีเนื้อหาสาระเหตุผลประกอบคำร้องรวมกว่า 30 แผ่น เนื้อหาที่ยื่นชี้แจงไปนั้นระบุว่า การนับวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีไม่ควรนับตั้งแต่ปี 2557

พล.ต.วิระ โรจนวาศ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้รับผิดชอบการจัดทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ประเด็นระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้า การส่งคำชี้แจงดังกล่าวว่า ได้ส่งเอกสารคำชี้แจงให้ศาลรัฐธรรมนูญเรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีจำนวน 30 กว่าแผ่น โดยเนื้อหาในเอกสารได้ชี้แจงตามหลักเกณฑ์ในข้อกฎหมายตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นอย่างที่เคยได้บอกไว้ ซึ่งเน้นการแก้ต่างในทุกประเด็น

เมื่อถามว่า เอกสารคำชี้แจงได้ระบุหรือไม่ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งเมื่อใด พล.ต.วิระ กล่าวว่า เราเน้นเฉพาะหลักกฎหมายตามที่เขาว่าเท่านั้น โดยพล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ว่าอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื้อหาคำชี้แจงดังกล่าวทีมกฎหมาย พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทำคำชี้แจงไปครบถ้วนทุกประเด็นตามที่ถูกร้องเรียน โดยชี้ให้เห็นถึงที่มาที่ไปของการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ก่อนหน้านั้น นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ได้เปิดเผยว่าได้เห็นเนื้อหาในคำชี้แจงของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ส่วนรายละเอียดเป็นอย่างไรไม่สามารถนำความลับมาเปิดเผยได้ ซึ่งก็ไม่มีอะไร เขากล่าวหาว่าอะไรทางนี้ก็แก้ไปทั้งหมด

ถามว่า จากการได้เห็นเนื้อหาคำชี้แจงแล้วเห็นว่าคำชี้แจงดังกล่าวฟังขึ้นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ในความคิดเห็นของผมคิดว่าฟังขึ้นตอบไปทุกประเด็นและตรงกับใจ” คิดว่าถ้าเปิดเผยออกมาคนที่เห็นก็จะรู้ว่าชี้แจงขึ้น

เมื่อถามว่าคำชี้แจง ได้ระบุหรือไม่ว่าควรนับอายุ 8 ปี เริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ชี้ชัด “การชี้ชัดเป็นเรื่องของศาล แต่ชี้ชัดอย่างเดียวว่า ไม่ใช่วันที่ 24 สิงหาคม 2557 แต่บอกไม่ถูกจะนับเมื่อไหร่”

การประชุมนัดพิเศษของศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 8 กันยายน เพื่อพิจารณาคำร้องคดี วาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถือว่าเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย นั่นคือ “เร็วมาก” แม้ว่ายังไม่รู้ว่าในการประชุมวันนั้นศาลจะสรุปแล้วนัดวันวินิจฉัยตามมาหรือไม่ หรือว่าจะมีการเรียกพยาน หลักฐานหรือมีการไต่สวนเพิ่มเติมหรือไม่ แต่เมื่อประมวลดูแล้วถือว่าเป็นการส่งสัญญาณว่าจะได้ข้อยุติในเวลาอันรวดเร็ว จากเดิมที่คาดว่าน่าจะมีการวินิจฉัยในราวปลายเดือนกันยายน แต่เมื่อมีการประชุมนัดพิเศษ วันที่ 8 กันยายน มันก็พอคาดหมายว่าน่าร่นเวลาเข้ามาไม่เกินกลางเดือน

อย่างไรก็ดี เมื่อพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้วก็ต้องถือว่าไม่ควรช้า เพราะมันมีผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน และหากมีการส่งคำชี้แจงจากผู้ที่เกี่ยวข้องคือ ผู้ถูกร้องคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพยานที่ต้องส่งคำให้การอีกสองคนคือ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ และ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขานุการคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ครบถ้วนแล้ว ก็น่าจะจบเร็ว เพราะจะว่าไปแล้วมันเป็นเรื่องข้อกฎหมายสามารถพิจารณาวินิจฉัยได้เร็ว

ขณะเดียวกันการจบเร็วแบบนี้ อีกทางหนึ่งย่อมเป็นผลดีกับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หลังจากถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ มาระยะหนึ่งแล้ว อย่างน้อยก็จะเกิดความชัดเจน ไม่ว่าจะออกมาในทางบวก หรือลบ เพราะหากออกมาในทางบวกได้ “ไปต่อ” ก็จะได้เดินหน้าเต็มตัว อย่างน้อยในวาระของรัฐบาลที่เหลืออยู่ในช่วง 6-7 เดือนที่เหลือ โดยเฉพาะการวางแผนรับมือปัญหาต่างๆ รวมไปถึงการเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปก ที่ถือว่าเป็น “งานช้าง” ที่รออยู่ในเดือนพฤศจิกายน นี้

ในทางตรงกันข้าม หากออกมาในทางลบ ไม่ได้ไปต่อ ก็ถือว่าชัดเจนและต้องทำใจ เก็บของกลับบ้าน มีอยู่แค่นี้ แม้ว่าหากออกอย่างหลังย่อมมีผลกระทบหนักหน่วงมากกว่า โดยเฉพาะกระทบกับพรรคการเมืองหลายพรรค เช่น พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล รวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะตัดสินใจกันอย่างไร โดยเฉพาะในเรื่องการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จะเอาเป็นแบบ “แคนดิเดตบัญชีนายกฯ” ที่เวลานี้มีชื่อของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือจะเอา “คนนอก” อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งต้องใช้เสียงสองในสาม กว่าห้าร้อยเสียง มันก็ไม่ง่าย

ดังนั้น ไม่ว่าการประชุมนัดพิเศษของศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 8 กันยายน จะมีการวินิจฉัยปมวาระ 8 ปี นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้เลยหรือไม่ หรือจะมีการไต่สวน หรือเรียกเอกสารเพิ่มเติมอีกหรือไม่ แต่ถือว่ามาเร็วเกินคาด โดยเฉพาะ “บิ๊กตู่” แม้จะต้องลุ้นว่าจะได้ไปต่อหรือไม่ แต่ก็ถือว่าได้เวลาชัดเจนเสียที รวมไปถึง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่นาทีนี้ก็คงต้องลุ้นเหมือนกัน แต่อีกไม่กี่อึดใจก็จะรู้ดำรู้แดงกันแล้ว !!

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/9SPCLQV
via World enews

Labels: , ,

0 Comments:

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home