World enews: ศาลรับฟ้องถอนกัญชาเสรี กลุ่มหนุน-ค้านยื่นร้องถี่ยิบ

.vce-row-container .vcv-lozad {display: none}

ศาลปกครองรับฟ้องปมแพทยสภา-5 ส.ส.ฝ่ายค้าน ขอสั่งเพิกถอนประกาศ สธ.ให้นำกัญชากลับเป็นยาเสพติด “วิษณุ” ชี้ ป.ป.ส.ไม่มีอำนาจดันกัญชากลับไปที่เดิม ขณะที่กลุ่มหนุนและค้านยื่นหนังสือกันถี่ยิบ “ชินวรณ์” ลั่นวิปรัฐบาลมีมติเดิม แต่ ส.ส.มีเอกสิทธิ์ไม่ต้องอยู่ภายใต้อาณัติของใคร

จากกรณี ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ กรรมการแพทยสภา และนายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายวิรัตน์ วรศสิริน รองหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และนายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนชาวไทย ยื่นฟ้องนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สธ. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-2 ต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565

เพื่อขอให้ศาลมีคําพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 8 ก.พ.65 เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.2565 โดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่มีการออกประกาศฉบับดังกล่าว และให้กัญชาจัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 8 ธ.ค.63 เรื่องระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภทที่ 5 พ.ศ.2563 ดังเดิม

รวมทั้งขอให้ศาลมีคําสั่งคุ้มครองชั่วคราว ด้วยการทุเลาการบังคับตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว ไว้เป็นการชั่วคราวก่อนการพิพากษาคดีนั้น มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายดำที่ 2417/65 และอธิบดีศาลปกครองกลางได้มีการจ่ายสำนวนให้องค์คณะและแต่งตั้งตุลาการผู้แถลงคดีแล้ว ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในกระบวนการพิจารณาคดี

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่จะมีการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่จะมีขึ้นในวันอังคารที่ 22 พ.ย. โดยมีกระแสข่าวจะทบทวนให้กัญชากลับมาเป็นยาเสพติด ว่าไม่เป็นความจริง ทำไม่ได้ โดยในที่ประชุมจะมีการหยิบยกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับกัญชาขึ้นมาหารือ ว่ามีอะไรที่ ครม.สงสัย และขอให้อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกช่วยชี้แจง

“ถึงอย่างไร ป.ป.ส.ก็ไม่สามารถไปดึงหรือไปแก้อะไรได้เพราะไม่มีอำนาจ และเชื่อว่ากรรมการ ป.ป.ส.แต่ละคนยังไม่มีใครเห็นประกาศดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ต่อให้รับฟังคำชี้แจงแล้ว ก็ไม่มีอำนาจไปยับยั้งการประกาศแต่อย่างใด แต่อย่างน้อยก็ได้รับฟังคำอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น ส่วนจะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้เมื่อไหร่นั้นก็เป็นไปตามขั้นตอน”

ขณะที่ รศ.ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย ได้นำ 5,000 รายชื่อประชาชนที่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … และประกาศกระทรวงสาธารณสุขเรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 มามอบให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข เพื่อผลักดันให้พืชกัญชาได้นำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ต่อไป และไม่ต้องการให้กลับมาเป็นยาเสพติดอีก

โดยนายอนุทินกล่าวว่า รายชื่อผู้สนับสนุนดังกล่าวทำให้เห็นว่ากัญชามีประโยชน์ ถ้าใช้ในทางการแพทย์ สุขภาพ และส่งเสริมเศรษฐกิจ ด้วยชื่อเสียงและเกียรติภูมิของสมาคมนักวิจัยฯ ถ้าทำในสิ่งที่เสียหายก็คงไม่มีใครมาสนับสนุนเรื่องดังกล่าวแน่นอน และหลังจากนี้กระทรวงสาธารณสุขจะหาความร่วมมือกับสมาคมนักวิจัยฯ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายกัญชาต่อไป เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือขยายฐานเพิ่มมากขึ้น

เมื่อถามว่า รายชื่อผู้สนับสนุนดังกล่าวจะสะท้อนไปถึงการประชุมกับ ป.ป.ส.หรือไม่ หลังมีกระแสข่าวว่าจะดึงกัญชากลับมาเป็นยาเสพติด นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีเพราะกัญชาไม่ใช่ยาเสพติด สิ่งที่เป็นยาเสพติดคือสารสกัดจากกัญชาที่มีค่า THC มากกว่า 0.2% ฉะนั้นประกาศของกระทรวงสาธารณสุขที่ออกมานั้น ได้ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะผู้รักษากฎหมาย ฉะนั้นจึงเหลือขั้นตอนประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งเป็นหน้าที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับ ป.ป.ส.และ ครม. ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาทำงานเพียงสองวันและติดช่วงเอเปก อย่าเพิ่งไปตื่นตกใจว่าประกาศกระทรวงดังกล่าวมีปัญหาอะไรหรือเปล่า

ถามต่อว่า แสดงว่าไม่มีหน่วยงานใดจะขวางไม่ให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า มันเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย รัฐมนตรีที่รับผิดชอบลงนามประกาศแล้ว ก็ถือว่าได้ใช้อำนาจไปเรียบร้อยแล้ว ตัดตอนไปแล้ว ถ้าใครเข้ามาร่วมด้วยก็จะถือว่าต้องเข้ามาร่วมรับผิดชอบด้วยกัน แต่คงจะไม่มีนัยออกไปทางนั้นหรอก

ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของทำเนียบรัฐบาล ภายในสำนักงาน ก.พ. นายสาธุ อนุโมทามิ ประธานเครือข่ายคนไทยรักชาติ ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ผ่านนายสาธิต สุทธิเสริม ผอ.ศูนย์ประสานงานมวลชน ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอให้นายกรัฐมนตรีสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … ที่จะเข้าพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรในวาระ 2-3

นอกจากนั้นยังมีกลุ่มเครือข่ายเยาวชน “ไม่นะกัญชาและยาเสพติด” (YNAC) เดินทางมายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ผ่านนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล เพื่อขอให้ยกเลิกประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับปลดกัญชาเสรี และคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 ภายใต้ประมวลกฎหมายยาเสพติด

นายยศกร ขุนภักดี ผู้ประสาน YNAC กล่าวว่า กลุ่มตนมีความเป็นห่วงว่าจะสามารถเข้าถึงกัญชาได้มากเกินไป จึงอยากฝากวิปรัฐบาลช่วยพิจารณาเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติดตามเดิม และใช้ทางการแพทย์เท่านั้น เนื่องจากการพิจารณากฎหมายเพื่อให้รัดกุมและไม่มีช่องว่างนั้นใช้เวลานานเกินไป จึงอยากให้ปิดสุญญากาศตรงนี้ทันที จนกว่าจะมีกฎหมายออกมา เราไม่ได้ต่อต้านว่ากัญชาไม่ดี แค่ต้องการให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดก่อนที่จะมีกฎหมายที่ดีรองรับ

ด้านนายชินวรณ์ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … คาดว่าหากไม่มีปัญหาอุปสรรคอะไรจะสามารถเข้าพิจารณาในสัปดาห์นี้ ขอยืนยันว่าวิปรัฐบาลยังมีมติเช่นเดิม จึงขอความร่วมมือสมาชิก เพราะกฎหมายนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ขอให้แต่ละฝ่ายไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่เป็นประเด็นขึ้นมา ทั้งประกาศสาธารณสุข ทั้งเรื่องการร้องเรียน และความคิดเห็นของฝ่ายที่สนับสนุนและค้าน เพื่อจะได้ทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติที่ทำกฎหมายเพื่อให้ได้ประโยชน์กับประชาชนในระยะยาว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่า หนุนหรือไม่หนุนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงฯ หรือให้เป็นมติของแต่ละพรรค นายชินวรณ์กล่าวว่า ให้เป็นความคิดเห็นของแต่ละพรรค เพราะวิปรัฐบาลมีมติออกมาว่าให้เป็นเช่นเดิม ส่วนความเห็นที่แตกต่างถือเป็นความงดงามของระบอบประชาธิปไตย

“ผมขอย้ำอีกครั้งว่า การพิจารณากฎหมายในสภาเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นขอบเขตพิเศษที่รัฐธรรมนูญได้ให้เอกสิทธิ์ ส.ส.พิจารณาได้โดยไม่ต้องอยู่ภายใต้อาณัติของใครหรือการครอบงำใดๆ ฉะนั้นการที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันจึงถือเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งนี้เราขอเรียกร้องว่า การพิจารณากฎหมายในสภาขอให้ทุกฝ่ายไม่คำนึงถึงพรรค แต่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดกับประเทศในอนาคต” นายชินวรณ์กล่าว.