World enews: ‘เอ็มบัปเป’ร้อนแรงเกินต้าน เต็งจ๋าคว้าดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022

ศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ กำลังเข้มข้นขึ้นทุกขณะ เวลานี้ผ่านพ้นการแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย และกำลังจะเข้าสู่การดวลกันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคมนี้

อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งคือการแย่งตำแหน่งดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ที่ดูจะเข้มข้นไม่แพ้การแย่งแชมป์เลยทีเดียว โดยเวลานี้ คีเลียน เอ็มบัปเป ดาวยิงความเร็วสูงทีมชาติฝรั่งเศส ขึ้นไปรั้งตำแหน่งผู้นำหลังซัดไปแล้ว 5 ประตู จากการลงสนาม 3 นัด

ทั้งนี้ คีเลียน เอ็มบัปเป เพิ่งจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เป็นนักเตะอายุน้อยกว่า 24 ปี ที่ยิงประตูในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้มากที่สุดที่จำนวน 9 ประตู ทำลายสถิติเดิมของ เปเล่ ที่ทำเอาไว้ 7 ประตู ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีกกี่สิบปีถึงจะหานักฟุตบอลที่มาทำลายสถิตินี้ลงได้อีก

หัวหอกตัวเก่งจาก “เปแอสเช” ปารีส แซงต์ แชร์กแมง เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่คว้าดาวซัลโวอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนจะเริ่มทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลก 2022 จากสถิติการทำประตูในช่วงที่ผ่านมาที่ยิงแบบถล่มทลายทั้งกับต้นสังกัด และทีมชาติ

เจ้าตัวมีฟอร์มการเล่นที่หาตัวจับยาก สปีดในการไปกับลูกฟุตบอล และยามไม่มีลูกฟุตบอล แทบจะไม่มีใครวิ่งตามเขาทัน กระชากทีเป็นหาย เห็นได้ชัดเจนในเกมที่เอาชนะ โปแลนด์ 3-1 เขาเผาเครื่อง แมตตี แคช แบ็คขวาของคู่แข่งตลอดทั้ง 90 นาที

ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด และฝรั่งเศส ไม่ตกรอบไปเสียก่อน คีเลียน เอ็มบัปเป น่าจะบวกประตูให้ตัวเองเพิ่มเติม และก้าวไปจารึกชื่อในทำเนียบดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ เป็นแน่แท้

เวลานี้เจ้าตัวคงไม่ได้มองเพียงแค่การเป็นดาวซัลโวในเวิลด์ คัพ หนนี้ แต่อาจจะกำลังมองไปไกลถึงการโค่นสถิติการยิงประตูในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย มากที่สุดตลอดกาล ของมิโลสลาฟ โคลเซ่ ดาวยิงระดับตำนานทีมชาติเยอรมนี ซึ่งจารึกเอาไว้ที่ 16 ประตู

อย่างไรก็ตามไม่ได้มีเพียงแค่ศูนย์หน้าจากทัพ “ตราไก่” เท่านั้นที่กำลังได้ลุ้นตำแหน่งดาวซัลโว แต่ยังมีนักเตะที่ยิงไปแล้ว 3 ประตู และยังอยู่ในเส้นทางของทัวร์นาเมนต์นี้ ไม่ว่าจะเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด (อังกฤษ), โคดี กักโป (เนเธอร์แลนด์), ลิโอนล เมสซี (อาร์เจนตินา), บูกาโย ซากา (อังกฤษ), ริชาร์ลิซอน (บราซิล), อัลบาโร โมราตา (สเปน) รวมไปถึงเพื่อนร่วมทีมของ เอ็มบัปเป อย่าง โอลิวิเยร์ ชิรูด ที่เพิ่งกลายเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลทีมชาติฝรั่งเศสแซงหน้าเธียร์รี อองรี ไปหมาดๆ

และที่่ไม่อาจมองข่้าม คือดาวรุ่งโปรตุเกส’กอนซาโล่ รามอส” ตัวสำรองที่ลงมาทำแฮ็ตทริค ช่วยทีมชนะสวิตเซอร์แลนด์ 6-1 และเป็นแฮ็ตทริคแรกของฟุตบอลโลก 2022 ด้วย การกด 3 ประตูของ กอนซาโล่ รามอส ทำเอ่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นักเตะเจ้าปัญหาที่โดนจับนั่งสำรองนัดนี้ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ มองน้องๆพาโปรตุเกสเข้ารอบ 8 ที่ม

รวมถึง และคาดว่า ลิโอเนล เมสซี ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมของ คีเลียน เอ็มบัปเป ในปารีส แซงต์ แชร์กแมง มีโอกาสมากที่สุดที่จะก้าวขึ้นไปลุ้นตำแหน่งดาวซัลโวประจำทัวร์นาเมนต์ เนื่องจากเจ้าตัวถือเป็นศูนย์กลางในเกมรุกของทัพ “ฟ้าขาว” และได้ลงสนามอย่างสม่ำเสมอทุกนัด

ขณะที่นักเตะ อย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด แม้จะยิงไปแล้ว 3 ประตู แต่เขาไม่ได้รับการการรันตีให้เป็น 11 คนแรกของทัพ “สิงโตคำราม” อย่างเกมล่าสุดที่เอาชนะ เซเนกัล ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เจ้าตัวก็ถูกจับนั่งเป็นตัวสำรอง ก่อนจะถูกเปลี่ยนลงมาช่วงครึ่งหลัง

จะมีอีกหนึ่งคนที่น่าจะลุ้นคั่วดาวซัลโวในทัวร์นาเมนต์นี้กับ คีเลียน เอ็มบัปเป คือ ริชาร์ลิซอน หัวหอกตัวเก่งทีมชาติบราซิล ที่มักจะโชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงเสมอเมื่อรับใช้บ้านเกิดของตัวเอง เวลานี้เจ้าตัวซัดไปแล้ว 3 ประตู ซึ่งถ้า “แซมบ้า” เข้ารอบลึก โอกาสแย่งดาวซัลโวก็ยังเปิดกว้าง

ด้าน คริสเตียโน โรนัลโด แข้งไร้สังกัดที่ก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มเขาก็หมายมั่นปั้นมือจะคว้ารางวัลดาวซัลโวในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ให้ได้ แต่จากนัดแรกจนมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เขาเพิ่งยิงไปแค่ 1 ประตู จากจุดโทษในเกมพบ กาน่า และหลังจากนั้นอีก 2 นัดในรอบแบ่งกลุ่มเขาได้โอกาสออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรก แต่ไม่สามารถระเบิดตาข่ายคู่แข่งได้

ถ้ามองถึงตอนนี้ดูแล้วโอกาสที่ คีเลียน เอ็มบัปเป จะหยิบรางวัลดาวซัลโวประจำศึกเวิลด์ คัพ 2022 มาครอบครองคงไม่ใช่เรื่องยาก และเราก็น่าจะได้เห็นยอดดาวยิงวัย 23 ปีรายนี้ จารึกประวัติศาสตร์ใหม่ๆ ในฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้อีกเรื่อยๆแน่นอน