ชาวบ้านโวย! ถูกตำรวจจับเป่าแอลกอฮอล์กลางป่าสงวน ชายแดนไทย-กัมพูชา
ชาวบ้านจ.สุรินทร์โวย ถูกตำรวจจับเป่าแอลกอฮอล์กลางป่าสงวนชายแดนไทย-กัมพูชา เผยขี่รถไปเลี้ยงวัวผ่านป่าสงวนมา 40 กว่าปี เพิ่งโดนจับ ให้เป่าจนสุดแรงทั้ง3 รอบ แอลกอฮอล์ก็ไม่ขึ้น จึงโดนล็อกไปสภ.ดม แล้วสั่งให้เป่าอีก ก่อนยื่นบันทึกจับกุมว่าปริมาณแอลกอฮอล์ 41.47 % และเสียค่าปรับ
19 เม.ย.2566 – ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายนงานว่า มีผู้ใช้ Facebook ที่ใช้ชื่อว่า Samart tomnechate ได้โพสต์ภาพใน Facebook พร้อมระบุข้อความว่า “ไม่มีอะไรน่าเกลียดไปกว่านี้อีกแล้วครับ จับตาสีตาสาหาปลาเลี้ยงวัว จับเป่าแอลกอฮอล์ในป่า กลับจากหาปลาเลี้ยงวัว” และหลังจากนั้นอีกหนึ่งวันก็ยังได้โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “วันนี้พาตาสีตาสาหาปลาเลี้ยงวัว ไปเสียค่าปรับที่ศาลมาแล้วครับ ข้อหาคือเมาแล้วขับไม่มีใบอนุญาต ขับขี่ เสียค่าปรับกันไปแบบจุกๆ ครับผม” หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีผู้คนเข้ามาแชร์เป็นจำนวนมาก รวมถึงเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากเช่นกัน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าของโพสต์เพื่อสอบถามข้อมูล ทราบว่า ภาพที่เกิดเหตุนั้นอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนทางเข้าเขื่อนขนาดมอญ ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์และอยู่บริเวณชายแดนรอยต่อของประเทศไทย – กัมพูชา ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.ดม
จากการสอบถามนายปปิ่น บานเย็น อายุ 60 ปี ( หนึ่งในคนที่ถูกจับ ) เล่าว่า วันนั้นตนขี่รถไปเลี้ยงวัว ผ่านป่าสงวนเส้นนี้มา 40 กว่าปี เพิ่งโดนตำรวจจับครั้งแรก ไม่คิดว่าตำรวจจะมาตั้งด่านตรงจุดเส้น ซึ่งเป็นทางเข้าป่า เส้นทางที่ต้องใช้ไปทำมาหากิน วันนั้นตนผ่านมาเส้นนี้เวลาประมาณ 13.00 น. เพื่อไปเลี้ยงวัวที่เขื่อนบน แต่ตอนนั้นมีหลานมาหาพอดี และนำเหล้าขาวมาให้ดื่ม 2 เป๊ก ตนไม่ได้รู้สึกเมาหรือผิดปกติแต่อย่างไร หลังจากนั้นตนก็ได้ขี่รถลงมาเพื่อนำไฟฉายมาชาร์ตแบต จู่ๆก็มีตำรวจนอกเครื่องแบบเรียกตน ขึ้นคล่อมบนรถ แล้วให้ตนเป่าตนแอลกอฮอล์ ตนก็เป่าจนสุดแรงถึง 3 ครั้งก็ไม่ขึ้น แต่ตำรวจกล่าวหาว่าตนไม่เป่า ตนบอกเป่าจนสุดแรงทั้ง3 รอบ จนเหนื่อย แอลกอฮอล์ก็ไม่ขึ้น จากนั้นตำรวจเลยล็อคตน และบอกตนว่าไปๆ ไปที่โรงพัก ยกรถตนขึ้นรถ ตนขอร้องทางตำรวจแล้วแต่ก็ไม่สำเร็จ พอไปถึง สภ. ดม ตำรวจก็สั่งให้เป่าอีก ตนก็เป่าแบบเดิมสุดแรง แต่ครั้งนี้ตำรวจไม่ได้บอกหรือแจ้งอะไรกับตนเลยว่าเป่าขึ้นกี่ขีด หลังจากนั้นก็ยื่นใบบันทึกการจับกุม ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ 41.47 % และตนก็ได้เสียค่าปรับที่ สภ.ดม
ด้านนายสามารถ ตำหนิชาติ อายุ 39 ปี ( ผู้โพสต์ ) เล่าว่า ตนขายของที่เขื่อนขนาดมอญ หลังทราบข่าวว่าพ่อถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ ตนจึงถ่ายภาพ และโพสต์ออกไปทาง Facebook เพื่อร้องหาความเป็นธรรมให้ทั้ง 3 ท่าน ตนติดใจประเด็นว่า ตำรวจทำมัยมาตั้งด่านในเขตป่าสงวนซึ่งไม่ใช่เส้นทางหลัก เป็นเขตป่าลงเขื่อนห้วยขนาดมอญ และเนินสี่ร้อย ส่วนใหญ่ชาวบ้านต่างใช้เส้นทางนี้ไปหาของป่า ไปเลี้ยงวัว หาปลามาตั้งนานแล้ว อยู่ๆมาตั้งด่าน เหมือนด่านลอย แถมยังมีตำรวจนอกเครื่องแบบ ไม่มีการตั้งกรวย หรือสัญญาลักษณ์ว่าตั้งด่าน ที่สำคัญเป็นเลือกปฏิบัติ หรือไม่ เลือกจับแต่คนแก่ คนทำมาหากิน แต่ตรงข้ามกับวัยรุ่น ซ้อนรถ 3-4 คน / คัน เมา ไม่สวมหมวกนิรภัย ไม่เห็นตำรวจให้เป่า ไม่เห็นจับ แบบนี้เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ ตนรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่งที่ตำรวจมาตั้งด่านในป่าสงวน เมื่อทราบข่าวว่าพ่อโดนจับ ตนก็รีบมาแต่ไม่ทัน ตำรวจได้นำพ่อไปที่สภ.ดม แล้ว
นายสามารถ ตำหนิชาติ ยังเล่าว่า หลังจากวันที่ถูกจับ ตนก็ได้ประสานทางนายก อบต. ตาตุม ให้มาช่วยประกันตัวพ่อ และวันต่อมา ตนก็ได้พาพ่อ และลุงไปเสียค่าปรับที่ศาล โดยพ่อซึ่งเป็นคนมาเลี้ยงวัวโดนปรับไป 5,400 บาท และลุงคนหาปลาโดนปรับไป 9,400 บาท
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรดม เพื่อขอสอบถามข้อมูล และทางด้าน พ.ต.อ. ยุทธนา จาตุรัตน์ ( ผกก.สภ.ดม ) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงนั้นเป็นช่วง 7 วันอันตราย สามารถทำได้เพื่อปราบปราม โดยจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เข้าไปยังพื้นที่ จุดเส้นทางหน้า ตชด. ทางเข้าเขื่อนห้วยขนาดมอญเพื่อนตั้งด่าน จับคนเมาแล้วขับ และได้ทำถูกต้องเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากผู้ขับขี่ และในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กลัววัยรุ่นมาสร้างความเดือดร้อน ยกพวกตีกันที่เขื่อนห้วยขนาดมอญ ตนจึงได้จัดกำลังมาตั้งด่านดังกล่าว
The post ชาวบ้านโวย! ถูกตำรวจจับเป่าแอลกอฮอล์กลางป่าสงวน ชายแดนไทย-กัมพูชา appeared first on .
Source link
from World eNews Online https://ift.tt/hH7lUgm
via World enews
Labels: news, World eNews Online, worldnews
0 Comments:
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home