Monday, January 23, 2023

เอาคนโกงกลับบ้าน



น่าปลื้มใจจริงๆ

คนในพรรคเพื่อไทยออกมาพูดถึงสเปกของผู้นำประเทศ

“นพดล ปัทมะ” รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย บอกว่า

“…หลังการเลือกตั้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ประเทศต้องมีรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ ตัวผู้นำมีความสามารถ สมองดี ทำงานเก่ง และต้องซื่อสัตย์ต่อนโยบายที่หาเสียงช่วงเลือกตั้ง นำไปลงมือปฏิบัติให้สำเร็จ มิใช่ละทิ้งความรับผิดชอบ ไม่เดือดร้อนกับสัญญาหาเสียงที่พรรคต้นสังกัดเคยให้ไว้กับประชาชน

ปัญหาเฉพาะหน้าเร่งด่วนคือการแก้ความยากจนด้วยรายได้ การเร่งสร้างโอกาสให้คนไทยในทุกมิติ การเพิ่มขีดความสามารถของประเทศด้านทุนมนุษย์ การศึกษา

โครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ความโปร่งใส เทคโนโลยี รวมทั้งการปฏิรูปกฎหมายและระบบราชการ…”

นี่…ด่ากราดกระเทือนไปถึงนายกรัฐมนตรีทุกคนในอดีตกันเลยทีเดียว

จะว่าไปแล้วสเปกนายกฯ ของ “นพดล ปัทมะ” ยังถือว่า “ไม่สุด” ก็ตรงที่ ต้องซื่อสัตย์ต่อนโยบายที่หาเสียงช่วงเลือกตั้ง

ความซื่อสัตย์ของผู้นำ มันต้องซื่อสัตย์ทุกเรื่อง

ซื่อสัตย์ในการบริหารประเทศ ไม่ทุจริตคดโกง นี่จึงจะถือเป็นผู้นำที่มือสะอาดอย่างแท้จริง

แต่เอาเถอะ…การซื่อสัตย์ต่อนโยบายที่หาเสียงเลือกตั้งก็ยังดีกว่าไม่ซื่อสัตย์อะไรเลย

เข้าใจว่าความคิดนี้ต้องการบลัฟรัฐบาลประยุทธ์ ที่ทำไม่ได้หลายเรื่อง

เผื่อยังมีคนเข้าใจผิด

ปฏิรูปตำรวจ

ปฏิรูปการเมือง

สารพัดปฏิรูป ไม่ได้อยู่ในแผ่นพับหาเสียงเลือกตั้งของพรรคพลังประชารัฐเมื่อปี ๒๕๖๒ นะครับ

ที่มีคือ ค่าแรงขั้นต่ำ ราคาพืชผลทางการเกษตร

แคมเปญหาเสียงคือ “นโยบาย ๗-๗-๗”

๗ สวัสดิการประชารัฐ

๗ สังคมประชารัฐ

๗ เศรษฐกิจประชารัฐ

สำเร็จบ้าง ไม่ได้เรื่องได้ราวบ้าง

แต่ที่โดดเด่นรัฐบาลในอดีตเทียบไม่ได้คือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

โดยเฉพาะการต่อยอด เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ต่อเนื่องจากรัฐบาลเผด็จการ คสช. ซึ่งจัดตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีในปี ๒๕๕๘

ฉะนั้นการซื่อสัตย์ต่อนโยบายที่ใช้หาเสียง แม้พรรคเพื่อไทยเคลมได้ว่า ๓๐ บาทรักษาทุกโรค ปริญญาตรีเงินเดือน ๑๕,๐๐๐ บาท คือผลงานมาตั้งแต่พรรคไทยรักไทย  แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า นโยบายประชานิยมเหล่านี้สร้างปัญหาอื่นตามมาเช่นกัน 

ทั้งรัฐและเอกชนต้องจ่ายเพิ่ม แต่นโยบายพรรคเพื่อไทยไม่พูดถึงการวางรากฐานให้ประเทศแต่อย่างใด

หนำซ้ำนโยบายจำนวนข้าว นำมาซึ่งการคอร์รัปชันอย่างกว้างขวาง

นโยบายขายข้าวจีทูจีก็เอื้อให้เอกชนบางราย สุดท้ายติดคุกกันกราวรูดทั้งรัฐมนตรีและพ่อค้า

ฉะนั้นเมื่อคนในพรรคเพื่อไทยออกมาบอกกับสังคมว่า  ผู้นำประเทศหลังการเลือกตั้ง จะต้องมีความสามารถ สมองดี ทำงานเก่ง และต้องซื่อสัตย์ต่อนโยบายที่หาเสียงช่วงเลือกตั้ง นำไปลงมือปฏิบัติให้สำเร็จ ก็ต้องย้อนกลับไปดูรัฐบาลยิ่งลักษณ์ว่าซื่อสัตย์กับนโยบายที่ใช้หาเสียงเลือกตั้งแค่ไหน

ในเว็บไซต์พรรคเพื่อไทย เขาลงบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อปลายปี ๒๕๖๔ เอาไว้ดังนี้ครับ

….หลังชนะเลือกตั้ง ๓ กรกฎาคม ๒๕๕๔ อย่างถล่มทลาย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ ๕ สิงหาคม  ๒๕๕๔ ด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่ง หลังจัดตั้งคณะรัฐมนตรี #ณ วันนั้น ๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๔ รัฐบาลชุดใหม่แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ตามมาตรา ๑๗๖ ของรัฐธรรมนูญ ๒๕๕๐

. “เนื่องจากวันนี้ประเทศไทยอยู่ในสภาวะแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แนวคิดในการบริหารบ้านเมืองจึงไม่สามารถใช้กรอบแนวคิดแบบเดิมที่เคยเป็นมาในอดีตได้ ดังนั้นกรอบแนวคิดใหม่ๆ จึงมีความจําเป็นที่จะต้องนํามาใช้เพิ่มเติมร่วมกับต้นทุนดั้งเดิมของประเทศที่เรามี เพื่อรวบรวมพลังจากทุกภาคส่วน มาช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศของเราให้ดียิ่งขึ้น”

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงต่อรัฐสภา

การแถลงนโยบายถูกแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ ๑.นโยบายเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการในปีแรก ๒.นโยบายตลอดระยะการบริหารราชการ ๔ ปีของรัฐบาล โดยเนื้อหาทั้งหมดเป็นการนำนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยมาแถลงเป็นนโยบาย

สำหรับนโยบายระยะเร่งด่วนมีทั้งสิ้น ๑๖ นโยบาย ดังนี้

๑.สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย

๒.กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ

๓.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐอย่างจริงจัง

๔.ส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการ และเร่งรัดขยายเขตพื้นที่ชลประทาน

๕.เร่งนำสันติสุข ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้

๖.เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ

๗.แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง

๘.ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน เพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ สร้างสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค

๙.ปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคล

๑๐.ส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุน

๑๑.ยกระดับสินค้าการเกษตรและให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุน

๑๒.เร่งเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว โดยปี ๒๕๕๔-๒๕๕๕ เป็นปีมหัศจรรย์ไทยแลนด์ (มิราเคิลไทยแลนด์)

๑๓.สนับสนุนงานศิลปหัตถกรรมเพื่อสร้างเอกลักษณ์และผลิตสินค้าในท้องถิ่น

๑๔.พัฒนาระบบประกันสุขภาพ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค

๑๕.จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตให้โรงเรียน

๑๖.เร่งรัดและผลักดันการปฏิรูปการเมืองให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขว้าง

จากหลักฐานเชิงประจักษ์ที่เกิดขึ้น ทุกนโยบายหาเสียงที่ได้ทำการแถลง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ดำเนินการในทุกนโยบายอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งหลายนโยบายได้กลายเป็นรากฐานสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน อย่างเช่น ค่าแรงขั้นต่ำระดับปริญญาตรีของประเทศไทยในปัจจุบัน ยังเป็นผลงานการดำเนินนโยบายจากรัฐบาลสมัยนั้น คงอยู่ที่ ๑๕,๐๐๐ บาท แม้เวลาจะผ่านมาเกือบ ๑๐ ปีแล้วก็ตาม หรือนโยบายการเร่งนำสันติสุขกลับสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เน้นการเจรจาประสบผลสำเร็จอย่างชัดเจน รวมไปถึงนโยบายการคลังที่วางเป้าหมายให้ประเทศไทยมีความมั่นคงในระยะยาว มีความสมดุลทางการคลังนั้นส่งผลถึงปัจจุบันเช่นกัน

แต่ก่อนที่ทุกนโยบายจะได้ดำเนินการเสร็จสิ้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ทำการรัฐประหารเมื่อปี  ๒๕๕๗ ตัดตอนทุกนโยบายหยุดการพัฒนาทุกโครงการ  หากมองความเป็นจริงที่เกิดขึ้นตั้งแต่รัฐประหารจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยถูกทำให้หยุดพัฒนา ไม่มีการพัฒนาประเทศ ไม่เปลี่ยนแปลงในทางที่ดี และไม่มีความหวังถึงอนาคต เหมือน ๗ ปีที่ผ่านมาคือความว่างเปล่า….

ถ้าถามถึงความซื่อสัตย์ต่อนโยบาย เอาแค่ข้อ ๓ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในภาครัฐอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนที่ต้องทำในปีแรก แทนที่จะ  “ซื่อสัตย์” กลับกลายเป็น “ทรยศ”

โครงการรับจำนำข้าวก็เห็นๆ กันอยู่ นายกฯ หนี  รัฐมนตรีติดคุก จะอ้างรัฐประหารไม่ได้

เพราะหากไม่มี รัฐบาลจะโกงมากกว่าที่เห็น

ครับ…นายกฯ คนต่อไปต้องชัดเจนครับ อย่างน้อยๆ ต้องไม่มีประวัติคอร์รัปชันในตระกูล

ต้องไม่หาเสียงเอาคนโกงกลับบ้าน.

The post เอาคนโกงกลับบ้าน appeared first on .

ซื้อของออนไลน์ที่ shopee ช้อปสินค้าง่ายๆ ราคาถูก มีโปรโมชั่นมากมาย ☆ShopeeMall สินค้าของแท้ 100% คืนง่ายใน 15 วัน ส่งฟรีทั่วไทย.


Source link

from World eNews Online https://ift.tt/ODY7lB1
via World enews

Labels: , ,

0 Comments:

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home