World enews: หลงใหล…จนสมองไหล

ในประเทศไทยเวลานี้มีคนจำนวนหนึ่ง ตกเลขกันทั่วโลกแล้วจ้า 151 เป็นเสียงข้างมากของ 500 14 ล้านเป็นฉันทามติของ 52 ล้าน แล้วยังเข้าใจอะไรผิดๆ หลายอย่าง ได้ที่ 1 แปลว่าได้เสียงข้างมาก ได้ที่หนึ่งจะต้องได้เป็นหัวหน้า นอกจากตกเลขแล้ว ยังไม่เข้าใจอีกว่า การเลือกตั้งของไทยประเทศไทยไม่ได้เลือกนายกรัฐมนตรีโดยตรง ดังนั้นหัวหน้าพรรคที่ได้ที่ 1 ไม่ได้เป็นนายกฯ อัตโนมัติ และไม่เข้าใจการเมืองไทยว่าทำไมเราต้องมี สว. เพื่อกลั่นกรองการเลือกนายกรัฐมนตรี ลองพิจารณาการหาเสียงของพรรคการเมืองหลายๆ พรรคแล้วจะเข้าใจ แล้ววิเคราะห์เหตุผล แรงจูงใจของคนเลือกหน่อยนะ แล้วจะเข้าใจว่าทำไมเราจึงต้องมีผู้ทรงคุณวุฒิมาเป็น สว. ช่วยกลั่นกรอง คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ก่อนเรียกร้องให้พิธาเป็นนายกฯ นะ

และต่างชาติหลายๆ ประเทศ เลิกกินเผือกกันหน่อยนะ ไม่ได้คิดจะ bully ใครนะ แต่อยากจะถามคนที่เลือกส้มคุณเห็นด้วยกับนโยบายเรื่อง ม.112 ของพรรคด้วยหรือไม่

หรือคุณอยากเห็นประเทศเปลี่ยนแปลงและเบื่อลุง คุณได้ศึกษาไหมว่าเขาจะเปลี่ยนประเทศอย่างไร หรือคุณอยากได้ผลประโยชน์จากประชานิยมอันใดคุณได้ศึกษาคุณสมบัติ ทัศนคติ และพฤติกรรมของผู้สมัครก่อนที่จะลงคะแนนหรือไม่

หรือคุณหลับหูหลับตาเลือกโดยไม่สนใจคุณสมบัตคุณรู้ไหมบางคนที่คุณเลือกจนชนะมีคดี 112 คุณรู้ไหมบางคนที่คุณเลือกเคยติดคุก คุณรู้ไหมบางคนที่คุณเลือกมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยเฉพาะผู้สมัครผู้หญิงบางคนมีรูป มีคลิป แสดงการกระทำผิดบรรทัดฐานที่ดีงาม

และบัดนี้ คนที่เขามีข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายและจุดยืนบางเรื่องของพรรค และคุณสมบัติของคนที่พรรคให้ลงเลือกตั้ง เขาไม่ต้องการให้พรรคมีอำนาจบริหารประเทศ พวกคุณเหมือนคนปล่อยยักษ์ออกจากตะเกียงมาอาละวาด จนบ้านเมืองมีปัญหา เพราะยักษ์จะอ้างว่าพวกคุณมอบฉันทามติให้พวกเขาบริหารบ้านเมือง

ตอนนี้หลายๆ คนตำหนิ สส. และผู้บริหารพรรค โดยลืมมองไปว่าคนที่ต้องมีส่วนต้องรับผิดชอบ (accountable) คือคนที่เลือกโดยไม่ใช้ข้อมูลให้ดีก่อนเลือก ไม่รู้ตอนนี้รู้สึกเสียใจกันบ้างหรือเปล่า

บทเรียนในครั้งนี้ก็คือเวลาฟังนักการเมืองหาเสียง อย่าคิดแต่ว่าเราจะได้อะไร แต่ควรคิดด้วยว่าประเทศชาติจะเป็นเช่นไร ในเรื่องของประเทศชาติเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมให้มากกว่าส่วนตัวกันให้มากขึ้นเถอะนะ ความเห็นแก่ตัวส่งผลลบอย่างที่เราเผชิญอยู่ตอนนี้นะคะ

ใช้อุปมาอุปไมยว่าสอบได้ที่ 1 ต้องได้เป็นหัวหน้าห้อง แค่หยิบเรื่องนี้มาเป็นอุปมาอุปไมยมันก็ผิดแล้ว เรื่องสอบก็เป็นการทดสอบอย่างหนึ่ง ที่ชนะได้เพราะความสามารถด้านหนึ่ง (ในกรณีนี้คือการประกาศนโยบายประชานิยม) ทำให้ได้คะแนนสูง

เรื่องการเลือกหัวหน้าห้อง ไม่ใช่การทดสอบความสามารถ แต่มันขึ้นอยู่กับความนิยม คนเรียนเก่งแต่นิสัยไม่ดี เพื่อนก็ไม่ให้เป็นหัวหน้าห้อง ในสมัยพวกเราเป็นนักเรียน คนที่ได้ที่ 1 ได้เป็นหัวหน้าห้องอัตโนมัติเลยหรือคะ คงไม่ใช่นะคะ คะแนนสอบกับคะแนนเลือกหัวหน้าไม่ใช่เรื่องเดียวกันใช่ไหมคะ

ตอนที่ยังไม่ประกาศผล ก็เร่งให้ประกาศ ตอนนี้ไม่ได้รับความเห็นชอบให้เป็นนายกฯ เพราะ สว. บอกว่ารอได้ แล้วประเทศชาติ รอได้หรือเปล่าล่ะ แบบนี้เรียกว่าเห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่ประเทศชาติ

ประเทศชาติรอไม่ได้นะ เราต้องมีนายกฯ และรัฐบาล รัฐบาลรักษาการทำอะไรไม่ได้ตั้งหลายอย่างนะ อยากจะเสนอชื่อพิธาไปกี่ครั้ง ยังไงก็ไม่มีทางได้

สว.เขาก็ไม่เอา พรรคการเมือง 188 เสียงเขาก็ไม่เอา มีประเด็นทางกฎหมายอีกตั้งกี่เรื่อง เรื่องการพูดจาก็โกหก นโยบายหลายอย่างก็น่ากลัว เป็นอันตรายต่อประเทศ

เรื่องมาตรา 112 ก็ไม่ยอมลดเพดาน ตอนนี้จะเรียกว่าหมาหัวเน่าก็คงไม่ผิด แล้วยังคิดจะเกาะขาเพื่อไทยไม่ยอมปล่อย เพื่อไทยก็เนาะ จะเป็นพระเอกไปถึงไหน จะเล่นบทพี่ที่แสนดีจนได้ตุ๊กตาทองหรือไร

รู้ไหมว่าถ้ามีก้าวไกล ไปไม่รอด อีก 188 เสียงเขายินดีปรองดองด้วยแล้ว นี่เป็นนิมิตหมายที่ดี จะรีรอทำไม เหตุผลที่จะฉีก MOU นั้น ประชาชนเข้าใจ และเอาใจช่วย กล้าหาญหน่อยนะ มีก้าวไกล เปลี่ยนคนจัดตั้งรัฐบาล ก็ยังไม่ได้อยู่ดี

ก็กินช็อกมินต์กันแล้ว ก็แสดงถึงความหวานที่แสนอร่อยแล้ว รีบหน่อยนะ คนไทยอยากมีนายกฯ ตัวจริง อยากมีรัฐบาลจริง เพื่อให้ทำงานได้เต็มที่

เวลานี้เราออกจากกับดักความแตกแยกได้แล้ว เวลานี้เป็นเวลาของความปรองดองแล้ว เวลานี้แดงกับเหลืองบวกกับสลิ่มได้สีน้ำเงิน สีที่แสดงความจงรักภักดี รีบกันหน่อยเถอะนะ ได้เวลาของความปรองดอง ฟ้าสีทองผ่องอำไพเริ่มสดใสให้เห็นแล้วนะคะ.

The post หลงใหล…จนสมองไหล appeared first on .